“ผมจะโทรศัพท์ไปหาเขาตอนนี้เลย และถือโอกาสเรียกประธานที่อยู่ใต้อำนาจของผมทั้งหมดมาด้วย พวกเราไปทานข้าวด้วยกัน ทุกคนล้วนเป็คนที่ผมเชื่อได้ ทั้งหมดมาช่วยกันปรึกษาหารือว่าจะใช้เงินพวกนี้อย่างไร”
คิดอยู่สักพัก เจียงไป๋ก็ปริปากแล้ว
ไม่ใช่แค่โทรศัพท์ไปหาหม่าฉางหยาง ยังต้องโทรศัพท์ไปหาโจวเจี๋ย พวกฉวีเจี๋ย ให้ทุกคนมาปรึกษาหารือกันให้หมด
คนยิ่งมากความคิดสติปัญญาก็มากตาม ยิ่งไปกว่านั้นล้วนมีแต่คนฉลาด การลงทุนจะหาลู่ทางไม่ได้เลยหรือ?
โทรศัพท์ไปหาพวกฉวีเจี๋ยทุกคน และให้ฉวีเจี๋ยจัดห้องที่ว่านเหาหนึ่งห้อง ท้ายที่สุดก็โทรศัพท์ไปหาหม่าฉางหยางต่อหน้าเหยาหลาน “เหลาหม่าอยู่ที่ไหน? ่นี้ไม่ได้พบคุณเลยเป็อย่างไรบ้าง?”
“เ้าพ่อเจียง? ่นี้ผมเจอเื่เดือดร้อนนิดหน่อย กำลังคิดหาทางแก้ไขอยู่ นี่ก็ไม่ใช่เพราะ่นี้ถึงไม่ได้ไถ่ถามคุณ ทำไมคุณมีธุระหรือ?” เมื่อทางหม่าฉางหยางได้ยินเสียงของเจียงไป๋แล้ว ก็เปลี่ยนไปอย่างเคารพนอบน้อมทันที และก็ไม่เรียกน้องชายอะไรอีก
ก่อนหน้านี้เขายังกล้าเรียกอย่างนั้น พอเกิดเื่ของจางฉางเกิง เขาก็ขาดความมั่นใจที่จะเรียกแล้ว
ต่อมาเจียงไป๋ก็ไปปินไห่เพียงลำพัง และก็ประมือกับคนใหญ่คนโตอย่างอู่เทียนซีแล้ว หม่าฉางหยางจึงไม่กล้าเรียกกันเป็พี่เป็น้องกับเจียงไป๋อีก แต่เป็เ้าพ่อเจียงแทน
“ไม่มีอะไร เย็นวันนี้ผมเรียกพวกฉวีเจี๋ยมาทานข้าวที่ว่านเหา คุณก็มาด้วยสิ มีเื่บางอย่างจะปรึกษาคุณ”
เจียงไป๋ได้ยินเสียงของอีกฝ่ายถึงแม้จะนอบน้อม แต่ข้างๆ ก็ยังมีเสียงอึกทึกครึกโครม เห็นได้ชัดว่าเกิดเื่ร้อนใจแล้ว
ดูแล้วข่าวของเหยาหลานไม่ผิด เงินทุนของหม่าฉางหยางอาจจะเกิดปัญหาแล้ว
แต่เจียงไป๋ก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะถามอะไร ก็แค่ให้เขามาทานข้าว ส่วนรายละเอียดก็มาคุยกันต่อหน้าได้
เจียงไป๋วางสายแล้วก็คุยกับเหยาหลานต่อสักพัก มองดูเวลาแล้ว ทั้งสองคนก็นั่งรถไปที่โรงแรมว่านเหา
พอเข้าประตูมา ฉางชื่อหยุนก็รออยู่ตรงนั้นแล้ว พอเจียงไป๋มาถึง เขาก็รีบมาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น เขาส่งเจียงไป๋ไปยังห้องส่วนตัวของโรงแรมด้วยตนเองแล้วก็ถอยกลับไป
เห็นแค่พวกฉวีเจี๋ยมารออยู่นานแล้ว เวลานี้ก็กำลังพูดคุยกันอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นเจียงไป๋มา ก็ทยอยกันลุกขึ้นทักทาย
เจียงไป๋ทักทายพวกเขาทีละคน ทุกคนจึงจะเข้าไปนั่งที่กัน
“เมื่อครู่คุยอะไรกัน? ผมดูแล้วเหลาหม่าอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย”
หลังจากที่เจียงไป๋เข้าที่นั่งแล้ว ก็ให้คนเสิร์ฟเหล้าและอาหาร ก่อนจะถามฉวีเจี๋ย
“เหลาหม่าก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าลงทุนอสังหาริมทรัพย์หรือ ครั้งนี้เขาทุ่มไปหมดตัวแล้ว แต่ทางหุ้นส่วนเกิดปัญหา ตอนนี้เหลาหม่าเองก็ถลำตัวไปแล้วนี่ก็ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่กำลังพูดถึงเื่ลำบากใจของเขาอยู่ว่าขาดแคลนเงินทุนมาก เหลาหม่ากลุ้มใจมาก”
ฉวีเจี๋ยหัวเราะ เป็ธรรมดาที่จะไม่ปิดบังเจียงไป๋ และบอกเนื้อหาที่คนสองสามคนก่อนหน้านี้พูดให้กับเจียงไป๋ฟัง
“ขาดแคลนเงินทุน? มากเท่าไร? พูดตรงๆ เหลาหม่าครั้งนี้ผมก็ได้ยินเื่ของคุณมาบ้างแล้ว ่นี้ผมได้เงินมาก้อนหนึ่งพอดี อยากจะหาที่ลงทุน จึงเรียกคุณมา เป็อย่างไรบ้าง ลองพูดมา?”
เจียงไป๋พูดอย่างยิ้มแย้ม และก็ไม่ได้ปิดบังอะไร
จริงๆ แล้วหากเป็นักธุรกิจที่จริงจัง ก็จะไม่พูดอย่างนี้ในเวลานี้ ก็แค่จะรอให้หม่าฉางหยางอับจนหนทางก่อนแล้วจึงจะปรากฏตัว หรือว่าขยี้ซ้ำอีกสักหน่อยแล้วจึงจะปริปาก อย่างนี้ถึงจะเอาราคาที่สูงได้ และ่ชิงเอากำไรที่เพียงพอ
แต่เจียงไป๋ก็พูดอย่างจริงจัง และก็ไม่ถือว่าเป็นักธุรกิจที่จริงจังอะไรเกินไป ก็เป็แค่คนที่รวยชั่วข้ามคืนและมีเงินคนหนึ่ง โดยเฉพาะมีเงินสำรองมากมาย เขาจึงไม่สนใจเื่นี้
ยิ่งไปกว่านั้น เจียงไป๋ก็รู้ดีว่า หม่าฉางหยางไม่กล้าเอาเปรียบเขา ด้วยตำแหน่งและชื่อเสียงของเจียงไป๋ในเวลานี้ หากหม่าฉางหยางจะเอาเปรียบ นั่นก็เป็การรนหาที่ตายชัดๆ !
“พูดตรงๆ เดิมทีผมมีหุ้นส่วนหนึ่งคน พูดกันเรียบร้อยแล้วว่าลงทุนคนละห้าร้อยล้าน ผมเอาเงินทั้งหมดออกมาแล้ว และยังจำนองทรัพย์สินอีกมากมาย เพื่อรวบรวมเงินจนครบ แต่เงินของผมก็ทุ่มลงไปแล้ว ทางธุรกิจของหุ้นส่วนก็ดันมาเกิดปัญหาอีก ตอนนี้แม้แต่แดงเดียวก็ไม่มี เงินที่ดำเนินโครงการก็เกินเป้าแล้ว ตอนนี้ผมถูกเผาอย่างรุนแรง ควานหาทางมากมาย แต่ก็ล้วนหาเงินทุนไม่ได้ ตอนนี้ทั้งโครงการเข้าสู่่หยุดชะงัก เจียงไป๋ … คุณไม่รู้ว่าผมกลุ้มจะตายอยู่แล้ว เงินห้าร้อยล้านนี้ สามร้อยล้านในนี้คือเงินส่วนตัวที่ผมมี ที่เหลือล้วนเป็เงินกู้ ดอกเบี้ยวันละสองสามแสน และเพื่อไม่ให้โครงการหยุดชะงัก ผมก็เลยยืมเงินมาไม่น้อย แต่ก็ยังคงเป็น้ำน้อยแพ้ไฟ เงินก้อนนี้หมุนทับถมกันไม่หยุดเหมือนกลิ้งลูกหิมะ หากยังเป็อย่างนี้ต่อไป ผมก็คงจบแล้วจริงๆ”
เป็อย่างนี้จริงๆ เมื่อหม่าฉางหยางได้ยินคำพูดของเจียงไป๋แล้ว ดวงตาก็เป็ประกายทันที หลังจากนั้นก็รีบพูด
สำหรับสถานการณ์ของตนเองก็ตอบไปตามจริง และไม่กล้าลังเลแม้แต่น้อย
ตอนนี้เจียงไป๋ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถึงเขาจะมีความกล้ามากมาย แต่ก็ไม่กล้าหลอกเจียงไป๋
หากรู้ว่าเ้าพ่อเจียงคนนี้ ตอนนี้ก็เป็คนเก่งกาจที่งัดข้อกับวีรบุรุษแห่งเหอเป่ยอย่างอู่เทียนซีได้ ในสายตาของคนอย่างนี้เขาหม่าฉางหยางก็ไม่มีค่าอะไร
แน่นอนว่า ตอนที่พูดคำนี้ ถึงแม้หม่าฉางหยางจะกอดความหวัง แต่ความหวังกลับไม่ได้มีมากนัก
ถึงแม้เจียงไป๋จะเก่งกาจ ตำแหน่งก็สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มีสมบัติเท่าไรเขาก็ย่อมรู้ดี
หากให้เวลาเจียงไป๋อีกสองสามปี แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ตอนนี้ …
จริงๆ แล้วหม่าฉางหยางก็ไม่ได้ตั้งความหวัง แต่ดีที่เขาชัดเจนดีว่าเ้าพ่อเจียงเป็คนที่พอจะพูดคุยกับเ้าพ่อจ้าวได้ เงินสองสามร้อยล้านในสายตาเ้าพ่อจ้าวจะนับค่าอะไรได้?
“ก็คือคุณขาดเงินอยู่ห้าร้อยล้าน?”
“ใช่ … อืม ไม่ใช่ แปดร้อยล้าน เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้คำนวณให้ดี ทางนี้อย่างน้อยก็้าหนึ่งพันสองร้อยล้าน และ่นี้ผมยังมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย เงินกู้ดอกเบี้ยสูงต้องคืน ดีที่สุดก็แปดร้อยล้าน”
“อย่างนี้หรือ ผมให้เงินคุณแปดร้อยล้านได้ แต่ … ”
เจียงไป๋หัวเราะ และหยิบแก้วขึ้นมาจิบทีหนึ่ง ก่อนจะมองหม่าฉางหยางอย่างยิ้มแย้ม แต่ก็ไม่ได้พูดต่อ
ทางหม่าฉางหยางก็ไม่ใช่ว่าเป็หนุ่มน้อยที่ไม่รู้เื่ แน่นอนว่าจะไม่ลังเล “เ้าพ่อเจียง เพียงแค่คุณช่วยชีวิตผมสักครั้ง ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณเสียเปรียบ คุณออกแปดร้อยล้าน บริษัทนี้คุณถือหุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ผมเหลาหม่าต่อไปก็จะทำงานให้คุณ”
“ทั้งหมดหนึ่งพันสามร้อยล้าน คุณออกห้าร้อยล้าน ผมออกแปดร้อยล้าน ผมถือหุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์? นี่จะเหมาะสมหรือ?”
เจียงไป๋พูดอย่างไม่ใส่ใจ ภายในใจกำลังคิดเื่นี้
พูดตรงๆ เขาคุ้มค่าแน่นอน ก็แค่ทำอย่างนี้จะเหมาะสมหรือ เจียงไป๋กำลังพิจารณา
“เหมาะสม เหมาะสมแน่นอน คุณไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้มีคนมาหาผม อยากจะให้ผมหนึ่งร้อยล้านและเอาไปหมด คุณยอมออกแปดร้อยล้านแถมยังถือหุ้นแค่แปดสิบเปอร์เซ็นต์ ก็เป็เื่ดีสุดๆ พูดจริงๆ ยังคงเป็ผมเหลาหม่าที่เอาเปรียบคุณ โครงการนี้กำไรมหาศาล ผมคำนวณดูแล้ว อย่างน้อยก็สองเท่า ผมถือหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่แค่ได้ทุนคืน แต่ยังได้เงินอีก ผมพอใจมากแล้ว”
หม่าฉางหยางไม่ให้โอกาสเจียงไป๋ได้พูด เขารีบยืนขึ้นพูดกับเจียงไป๋ทันที น้ำเสียงมีความรีบร้อนอยู่บ้าง
ตอนนี้เขาเหมือนคนป่วยหนักที่วิ่งหาหมอรักษาไปทั่วแล้ว เจียงไป๋คือผู้ช่วยชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในตอนนี้ของเขา เป็ธรรมดาที่จะไม่ปล่อยไป ถึงจะเสียเปรียบเพราะเหตุนี้ไปหน่อยก็ไม่เสียดาย
อย่างไรผู้ลงทุนสองสามรายที่เขาหาในก่อนหน้านี้ แต่ละคนเกลียดจนแทบจะกลืนกินเขาทั้งเป็แล้ว เมื่อเทียบกับเงื่อนไขที่ตนเองเสนอให้เจียงไป๋ คนเ่าั้ก็ล้วนไม่อาจจะเรียกได้ว่าเป็คน
“แบบนั้นก็ดี พรุ่งนี้จะโอนเงินให้คุณ” เจียงไป๋คิดไปคิดมา แล้วก็พยักหน้าตกลง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้