หมอหลี่ยินดีติดค้างหลินฟู่อินเพื่อภรรยาและลูก
คำพูดนี้ของหมอหลี่ทำให้หลินฟู่อินพอใจมาก และนางก็ชื่นชมบุรุษที่ดีต่อภรรยาและลูกเป็พิเศษ
ที่จริงหลินฟู่อินไม่นึกว่าหมอหลี่จะตอบแทนอะไร เพียงคิดว่าจะใช้หมอหลี่เป็คนช่วยส่งเสริมไข่ดอกสนให้คนรวยในเมืองได้รู้จักเท่านั้นเอง
คนเป็หมอที่เก่งที่สุดในเมืองแถบนี้ แน่นอนว่าหมอหลี่ต้องมีเส้นสายกว้างขวาง นางรู้แก่ใจถึงคุณค่าในการสานสัมพันธ์กับครอบครัวหมอหลี่ว่ามีค่ามากเพียงใด
แต่หมอหลี่กลับสัญญาว่าจะตอบแทนนางไม่ใช่ด้วยเงินทอง แปลว่าเขายอมรับนางแล้ว
เื่แบบนี้จะไม่ดีใจได้อย่างไร?
ส่วนตาเฒ่าหลินนั่นจะชอบหรือไม่ชอบใจก็ช่างเถอะ นางไม่สน
“เช่นนั้นท่านหมอหลี่เ้าคะ ฟู่อินมีเื่อยากปรึกษาท่าน ท่านคิดว่าไข่ดอกสนนี้บรรดาขุนนาง ผู้ดีมีเงินและพ่อค้าในเมืองจะชอบหรือไม่เ้าคะ?” หลินฟู่อินถามออกไปด้วยท่าทางชัดเจน
คราแรกหมอหลี่ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่เมื่อเดาความตั้งใจของเด็กสาวได้ก็คิดว่าแม่นางน้อยผู้นี้อายุยังไม่เท่าไรทว่ากลับมีสายตากว้างไกล ทั้งยังใจกล้า ช่างหาได้ยากยิ่งนัก!
เขาจึงหัวเราะตอบ “ไข่ดอกสนนี้ไม่เพียงเป็อาหารทั่วไปทว่ายังช่วยขับลมร้อนได้ดี หากตาแก่คนนี้เป็คนแนะนำ ไม่ว่ายังไงผู้อื่นก็ต้องชอบแน่นอน”
หลินฟู่อินกะพริบตาปริบๆ นี่คือหมอหลี่ตั้งใจจะช่วยนางใช่หรือไม่?
“เช่นนั้นฟู่อินก็ติดค้างท่านหมอหลี่ครั้งใหญ่แล้วเ้าค่ะ!” หลินฟู่อินรีบตอบทันควัน น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความหนักแน่น
“ไอหยา” หมอหลี่โบกมือไปมา ลากเสียงยาวคล้ายผิดหวัง “พูดก็พูดเถิด ฮูหยินบ้านข้าติดค้างแม่นางหลินเสียมากกว่า อีกหน่อยเื่วัตถุดิบยา ไม่ใช่เพียงข้าแต่เป็ทั้งสกุลหลี่ยังต้องอาศัยแม่นางหลินคอยช่วยเหลือ ขอเพียงแม่นางหลินไม่ปฏิเสธก็พอ”
ตอนแรกหมอหลี่คิดว่าเด็กสาวจะรู้เพียงเื่ยา เช่นนั้นสกุลหลี่ก็คงไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่เมื่อเห็นนางก้าวเดินทีละก้าวอย่างมั่นคง ทั้งยังรู้จักใช้สถานการณ์ให้เป็ประโยชน์ แต่ไม่ทำให้ผู้อื่นแค้นเคือง ความคิดในใจก็เปลี่ยนไป
รอยยิ้มบนใบหน้านางกดลึกยามได้ยินความหมายที่แฝงอยู่ในถ้อยคำของอีกฝ่าย
ปู่หลินตกตะลึงไปแล้ว หมอหลี่ผู้นี้พูดว่ายังต้องอาศัยความช่วยเหลือของหลินฟู่อินอีก ถือว่ายกย่องนางให้สูงส่งมากไม่ใช่หรือ?
หากเป็การพูดตามมารยาท หมอหลี่ก็ไม่จำเป็ต้องยกเอาสกุลหลี่มาเอ่ยถึงเช่นนี้…
ในใจของปู่หลินคล้ายตีลังกาขึ้นลงไม่หยุด ทั้งยังหันไปมองหลินฟู่อินเป็ระยะ
หากทำไข่ดอกสนอะไรนี่ได้แล้วเหตุใดจึงไม่คิดถึงครอบครัว? เห็นได้ชัดว่านางคิดจะทิ้งสกุลหลินไปเสวยสุขตามลำพัง!
เด็กคนนี้น่าหงุดหงิดขึ้นทุกทีแล้ว!
ปู่หลินคิดอย่างไม่พอใจว่าเป็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง จะดูแลบ้านสามทั้งบ้านด้วยตัวเองไหวได้อย่างไร?
ทุกวันนี้เขาต้องข่มบ้านใหญ่เอาไว้ไม่ให้สร้างปัญหา ด้วยมั่นใจว่าเมื่อไรก็ตามที่หลินฟู่อินใช้เงินเก็บของบ้านหมดแล้ว คนย่อมต้องมาคุกเข่าขอขมาแน่นอน
ทว่าตอนนี้นางทำไข่อะไรนั่นที่สกุลหลี่ยังชื่นชมเสียยกใหญ่ ทั้งยังตั้งใจผูกมิตรกับหมอหลี่อีก เช่นนี้จะเป็อย่างไรเล่า?
หมอหลี่กับหลินฟู่อินคุยกันอย่างสนุกสนาน กินอย่างมีความสุข ชาวบ้านทั้งหลายเมื่อทราบว่าหมอหลี่อยู่ที่บ้านหลินฟู่อินก็มาขอให้ท่านหมอไปตรวจชีพจรให้ที่บ้าน
สำหรับหมอหลี่แล้วเวลาคือสิ่งสำคัญที่สุดของผู้ป่วย เขาจึงรีบร้อนกินข้าวจนหมดก่อนจะจากไป
หลินฟู่อินห้ามผู้อื่นไม่ได้จึงเดินไปส่งเขาที่ประตู
จากนั้นนางจึงเดินไปห้องเก็บของอีกครั้ง หยิบไข่ขึ้นมายี่สิบฟอง กับอีกสามสิบฟองที่เพิ่งได้ที่ใหม่ๆ นำไข่ทั้งหมดใส่ตะกร้าแล้วให้หลินซานหลางที่เพิ่งกินข้าวเสร็จนำไปส่งให้หมอหลี่
พอถึงตอนนี้อาเฟินก็มาถึงพอดี
หลินฟู่อินยิ้มถาม “ดูสิ ซานหลางกินจนเสร็จแล้วทำไมพี่เพิ่งจะมาล่ะเ้าคะ?”
“ข้าไปช่วยท่านแม่จุดไฟทำอาหารน่ะสิจึงได้ช้าไปหน่อย” หลินเฟินยิ้มกว้าง ก่อนจะมองออกไปนอกบ้าน “ซานหลางรีบร้อนทำอะไรล่ะนั่น?”
หลินฟู่อินชวนอีกฝ่ายเข้ามากินข้าวแล้วตอบ “ให้เขานำไข่ดอกสนที่ข้าทำไปส่งให้ท่านหมอหลี่น่ะเ้าค่ะ”
หลินเฟินพยักหน้าไม่พูดอะไรอีก
ทุกวันนี้พวกนางกินข้าวที่บ้านของหลินฟู่อิน ก็ใช่ว่าจะไม่ได้กินไข่ดอกสนเลย ทั้งหลินฟู่อินก็ไม่ได้ปิดบังสองพี่น้องกับหลินซานหลางด้วย
“ฟู่อิน เ้าทำไข่ดอกสนนี่ได้ยังไง?” ปู่หลินชื่นชอบสุราจึงดื่มไปเสียมาก ทั้งยังไม่ค่อยกินข้าว กินแต่กับเท่านั้น
อาหารแบบนี้ที่บ้านเดิมจะมีก็แค่วันขึ้นปีใหม่ หรือในตอนที่ลูกเขยพาลูกสาวของเขากลับมาพร้อมหลานชายหลานสาว
สำหรับปู่หลินแล้วอาหารดีๆ เช่นนี้นับว่าหาได้ยากมาก ดังนั้นแม้จะไม่ชอบหลินฟู่อิน ทั้งไม่ชอบให้หลานสาวสองคนจากบ้านสองมาร่วมโต๊ะด้วยเพียงใดก็ยังอดทน
อย่างไรที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านเขา เขายังต้องยอมรับว่าตนไม่อาจควบคุมหลินฟู่อินได้ ดังนั้นก็ต้องหาวิธีอื่น!
เห็นท่านปู่ของร่างนี้ถามออกมา หลินฟู่อินก็ตอบๆ ไปแบบไม่ชัดเจน “ท่านแม่ทิ้งตำรับเอาไว้ให้ ข้าบอกไม่ได้เ้าค่ะ”
ความคิดของตาแก่นี่หลินฟู่อินมองแวบเดียวก็ดูออก ไม่ใช่ว่าจะถามเอาสูตรไปทำเองหรืออย่างไร?
โชคร้ายหน่อยที่สูตรนี้ไม่ใช่ของบ้านหลิน
ปู่หลินเห็นนางไม่ลงรายละเอียดก็ขมวดคิ้วไม่พอใจ จิบเหล้าอีกคำหนึ่งแล้วมองนางด้วยสายตาคมกริบ “ในเมื่อแม่เ้าทิ้งเอาไว้ก็ถือว่าทิ้งไว้ให้น้องชายเ้า น้องชายเ้ายังเล็ก เ้าเองก็ไม่ได้โตอะไรมากมาย ตำรับอยู่ในมือเ้าย่อมไม่เหมาะสม”
พอได้ยินปู่หลินพูดออกมาเช่นนี้ กระทั่งหลินเฟินหลินฟางก็ยังเงยหน้ามองเขาด้วยความโมโห
ทั้งสองรู้ว่าตาแก่นี่กำลังบังคับให้หลินฟู่อินส่งตำรับอาหารให้ เด็กสาวแสยะยิ้ม
ย่าหลี่เองก็เป็กังวล สิ่งที่ตาเฒ่านี่คิดไม่ว่าใครก็มองออก หน้าไม่อายสิ้นดี!
รู้ทั้งรู้ว่าเป็ของที่สะใภ้ทิ้งเอาไว้ก็ยังคิดหาทางเอาไปอีก!
หลินฟู่อินมองทั้งสามด้วยสายตาเรียบนิ่ง จากนั้นก็ยิ้ม “เช่นนั้นท่านปู่คิดว่ายังไงหรือเ้าคะ?”
ปู่หลินไม่คิดว่าหลินฟู่อินจะถามความเห็นตน สีหน้าถึงได้ดูดีขึ้นมา
เขาแสร้งทำท่าครุ่นคิดก่อนจะตอบ “ข้าคิดว่าตอนนี้พ่อเ้าอยู่ไหนก็ยังไม่รู้ ตอนนี้ให้เ้าเอาตำรับอาหารนี้ฝากไว้ที่ลุงใหญ่ของเ้าก่อนเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะมอบให้น้องชายเ้าตอนโต ข้ารับประกันได้ว่าถึงตอนนั้นลุงของเ้าต้องส่งคืนให้น้องชายเ้าแน่!”
ในเมื่อปู่หลินรับปากแล้วว่าจะคืนไม่ว่าอย่างไรก็ต้องคืนแน่นอน แต่คืนแล้วจะอย่างไร?
เกรงว่าถึงตอนนั้นบ้านใหญ่สกุลหลินก็คงจะอ่านตำรับจนพรุน ทำไข่ดอกสนขายไปแล้วมากมาย
ปู่หลินคนนี้ประมาทไม่ได้เลย เพื่อคนบ้านใหญ่แล้ว กระทั่งกับหลานสาวก็ยังทำร้ายกันได้ ไม่กลัวฉู่ซื่อลุกจากหลุมมาแก้แค้นเสียเลย!
“ทำไม? เ้าเห็นว่าวิธีการนี้ไม่ดีอย่างนั้นหรือ?” เมื่อเห็นหลินฟู่อินเนิ่นนานก็ยังไม่ตอบ สีหน้าของปู่หลินก็ครึ้มลงอีกครั้ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้