แม้ว่าหลี่อี้จะเคยติดตามลุงคนเล็กของเขาไปศึกษาวิชาแพทย์ในเมืองกู่หนานอันเป็เมืองขนาดเล็กในมณฑลฮวาเหลียน แต่แท้จริงแล้วครอบครัวของเขามีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่านั้น เพราะบรรพบุรุษของเขานั้นเคยเป็หมอหลวง แต่ไปกระทำการขัดใจขุนนางจนถูกขับไล่
ในตอนที่ลุงคนเล็กของเขาไปฝึกฝนวิชาแพทย์อยู่ที่มณฑลฮวาเหลียนนั้น เขาได้พบรักกับบุตรีของคนมีเงินแซ่เจียงในเมืองกู่หนาน สุดท้ายจึงกลายเป็เขยของบ้านนั้น
แต่เหล่าผู้เฒ่าในตระกูลไม่ถูกใจนัก เขาจึงถูกกีดกันจากครอบครัว ส่วนเขาเองก็หนีการแต่งงานเพื่อมาติดตามลุงเล็กของเขา เพราะเขารักในวิชาแพทย์จึงตามมาเพื่อขอร่ำเรียน
หลินฟู่อินมิได้สนว่าหลี่อี่ที่ดูเหมือนบัณฑิตผู้นี้กำลังคิดอะไรอยู่ในใจ นางเพียงไปหาชุดถ้วยชาสีฟ้าขาวจากในบ้าน รินชาให้หมอหลี่ถ้วยหนึ่ง ก่อนจะนำหญ้าเชอเฉียนและพั๊วกิไน้ ที่เพิ่งเก็บกลับมาเมื่อเช้าออกมาให้เขาดู
หมอหลี่รู้เื่สรรพคุณของหญ้าสมุนไพรเหล่านี้อยู่แล้ว นางจึงมิได้กล่าวอะไรกับเขา
ทว่าหลี่อี่ นางยังไม่รู้จักเขามากพอ
หลี่อี่มองหญ้าสมุนไพรทั้งสองที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยท่าทีเหม่อลอย
หลังจากนั้นสีหน้าของเขาก็ดูยุ่งยากขึ้นมาทันที ท่านลุงของเขากล่าวไว้ว่าสตรีผู้นี้ค่อนข้างจะแปลกประหลาด แม้อายุจะยังไม่มากแต่วิชาแพทย์นั้นลึกล้ำ ดังนั้นจงอย่าได้ถือดีแล้วดูถูกนางเด็ดขาด….
เขาจึงคิดขึ้นมาว่าหรือสตรีผู้นี้จะกำลังทดสอบเขาด้วยสมุนไพรเหล่านี้อยู่?
แต่ไม่ว่าเขาจะเค้นสมองมากเพียงใด เขาก็คิดไม่ออกเลยว่าเขาเคยเห็นสมุนไพรสองชนิดนี้จากตำราเล่มไหนมาก่อนหรือไม่
ใบหน้าของหลี่อี่แดงขึ้นมา
หลินฟู่อินถามด้วยรอยยิ้ม “คุณชายหลี่ ท่านรู้จักสมุนไพรสองชนิดนี้หรือไม่เ้าคะ?”
ใบหน้าของหลี่อี่ยิ่งแดงสุกเป็ลูกตำลึง เขายื่นมือไปหยิบสมุนไพรมาเพ่งมองใกล้ๆ แต่ก็ยังต้องส่ายหน้าแล้วกระซิบเสียงเบากลับไปว่า “เชิญคุณหนูหลินหัวเราะเยาะข้าได้ ข้าไม่รู้จักขอรับ”
หลินฟู่อินหรี่ตาลง การไม่รู้สิย่อมเป็เื่ดี
หากเป็เช่นนี้แล้ว นางจะยิ่งมีค่าในสายตาหมอหลี่มากขึ้นไปอีก และเขาต้องให้ค่ากับเื่นั้นแน่
เมื่อเห็นท่าทีครุ่นคิดของนางแล้ว ใจของหลี่อี่สั่นไหว
เขาลุกขึ้นแล้วคำนับให้กับหลินฟู่อิน ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงซื่อตรง “คุณหนูหลิน อาจารย์ของข้าได้บอกข้าแล้วถึงความลึกล้ำในวิชาแพทย์ของท่าน ท่านได้โปรดสอนสั่งข้าถึงสรรพคุณของสมุนไพรทั้งสองชนิดนี้ได้หรือไม่?”
หลินฟู่อินเม้มปาก แล้วจึงค่อยๆ ไล่สรรพคุณของหญ้าเชอเฉียนและพั๊วกิไน้ ให้เขาฟัง นางเล่าอย่างละเอียดจนให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังเล่าเื่ราวบางอย่างอยู่
หลี่อี่ฟังอย่างจดจ่อด้วยความรู้สึกอยากได้พู่กันและกระดาษมาจดสิ่งเหล่านี้เสียเดี๋ยวนี้
“คุณหนูหลิน วันนี้ที่ได้ร่วมพูดคุยกับท่านช่างเป็วันที่คุ้มค่านัก!” หลี่อี่กล่าวด้วยอาการตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนกล่าวด้วยใบหน้าระคนแววละอาย “หากอาจารย์ของข้าทราบ เขาต้องดีใจมากเป็แน่!”
หลี่อี่รู้ว่าอาจารย์ของเขาไม่ชอบจ่ายยาราคาสูง โดยเฉพาะเมื่อคนไข้เป็คนจนแล้วด้วย แต่บางครั้งมันก็ไม่มีทางเลี่ยงจริงๆ
เขาเคยศึกษายาของบรรพบุรุษของเขามาแล้ว เขาจึงเข้าใจได้ว่าสมุนไพรทั้งสองที่หลินฟู่อินแนะนำมานี้ต่างก็ให้ผลดี นับได้ว่าเป็ยอดสมุนไพร
สายตาของเขาจึงเปล่งประกายขึ้นมาพร้อมกับความสนใจที่พลุ่งพล่าน
“เช่นนั้นแล้ว ข้าอยากขอให้ท่านกลับไปบอกท่านหมอหลี่ว่า หากท่าน้าใช้สมุนไพรทั้งสองชนิดนี้ ข้าจะเป็จัดหาให้เอง” หลินฟู่อินยิ้มแล้วกล่าวเสริม “เื่ราคาไม่ใช่ปัญหา ข้อเรียกร้องของข้ามีเพียงเื่ที่ว่าท่านต้องซื้อผ่านข้าที่เดียวเท่านั้น”
หลี่อี่นิ่งไป
ในใจของเขารู้สึกใ สตรีตรงหน้าผู้นี้คิดจะทำการค้าด้วยวิธีนี้หรือ?
หลินฟู่อินมองเขาแล้วก็เข้าใจว่าชายหนุ่มกำลังเข้าใจผิด นางจึงอธิบายด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ได้คิดจะผูกขาดการซื้อขายสมุนไพรทั้งสองนี้เ้าค่ะ แต่หากข้าไม่ทำเช่นนี้ สมุนไพรทั้งสองนี้คงได้สูญพันธ์เป็แน่ ข้าเพียงเป็กังวลเื่นั้นเท่านั้น”
“มิได้ มิได้…” หลี่อี่มองมือของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความกระดากอายจากการเข้าใจหลินฟู่อินผิด เขาหน้าแดงแล้วจึงกล่าวชม “คุณหนูหลินช่างรอบคอบนัก เพราะหากชาวบ้านทั่วไปรู้เื่สมุนไพรที่สามารถนำไปขายแลกเงินหลังจากเพียงขุดแล้วนำมาล้างได้เช่นนี้ มันคงได้ถึงคราวสูญพันธ์จริงๆ เป็แน่!”
หลี่อี่เองก็ยังตกตะลึง ในฐานะผู้ให้การรักษาแล้ว ตระกูลของเขาจึงมีคำสอนให้รู้จักการปกป้องรักษาสมุนไพรป่าด้วย
และด้วยฐานะของผู้ให้การรักษา เขารู้ดีว่าไม่ว่ามันจะเป็สมุนไพรชนิดใด แต่หากมันสูญพันธ์ไปแล้วก็นับได้ว่าเป็ความสูญเสียที่มิอาจกู้คืนได้ต่อมวลมนุษยชาติ…
เมื่อหลี่ฟู่อินเห็นแล้วว่าเขาเป็คนมีความคิด นางก็ดีใจขึ้นมาเล็กน้อย
ในที่สุดหลี่อี่ก็ตกลงรับปากนาง ก่อนจะลุกยืนขึ้นคำนับ “เช่นนั้นแล้วข้าจะไม่รบกวนเวลาของคุณหนูหลินอีก ข้าขอตัวลากลับไปรายงานอาจารย์ของข้าก่อน”
หลินฟู่อินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ขอบพระคุณคุณชายหลี่”
หลี่อี่อายเล็กน้อย แต่ก็ชี้ไปยังหญ้าสมุนไพรสดบนโต๊ะแล้วถามอย่างลังเล “คุณหนูหลินจะว่าอะไรหรือไม่หากข้าจะขอนำหญ้าเชอเฉียนและพั๊วกิไน้นี้กลับไปให้ท่านอาจารย์ดูด้วย?”
เขากลัวมากว่าหลินฟู่อินจะเข้าใจผิด อย่างไรเสียนางเองก็รู้วิชาแพทย์ ทั้งวิชานั้นยังเหนือล้ำยิ่งกว่าตนด้วย บุคลากรเช่นนี้ หากเขายังอยู่ในตระกูล คงทำทุกวิถีทางเพื่อชักชวนนางเข้าตระกูลให้ได้เป็แน่
และต่อให้ชักชวนไม่สำเร็จ ก็จะต้องไม่เป็ปฏิปักษ์กับนางอย่างเด็ดขาด
หลินฟู่อินกะพริบตามึนงงครู่หนึ่ง แต่ก็เพียงครู่เดียว แล้วจึงพยักหน้าเป็การตกลง
นางแอบกังวลเล็กน้อยว่าหมอหลี่อาจจะล้มข้อตกลงกับนางหลังจากที่เขารู้สรรพคุณของสมุนไพรแล้ว แล้วเลือกที่จะส่งคนมาเก็บสมุนไพรเอง
แต่สุดท้ายแล้ว นางก็เลือกที่จะเชื่อเขา
หากว่ากันตามที่เขากล่าวแล้ว เขาส่งศิษย์มาวันนี้เพื่อนำเงินหนึ่งร้อยตำลึงมาให้นางตามที่สัญญา
ทั้งนางยังเห็นแล้วว่าหลี่อี่มิใช่คนเ้าเล่ห์คดโกง แต่มีความซื่อสัตย์ในระดับหนึ่งรวมไปถึงความซื่อตรง ซึ่งประทับใจนางมาก นางจึงมีท่าทีอ่อนโยนกับเขามากขึ้น
“ข้าเชื่อในตัวหมอหลี่เ้าค่ะ และข้าก็เชื่อในตัวท่านด้วย” ดังนั้นแล้ว คำพูดของนางจึงมีความหมาย
หลี่อี่พยักหน้าทันทีที่นางกล่าวเช่นนั้น นางบอกว่านางเชื่อในตัวเขา สีหน้าของเขาจึงมีความใปะปนอยู่ สีหน้ากระจ่างชัดว่ากำลังผงะ เขาจึงตอบนางกลับด้วยเสียงอ่อนเบา “คุณหนูหลินโปรดสบายใจ ขอเพียงท่านยังเชื่อในตัวพวกเรา โอกาสทำธุรกิจของเราก็ยังมีอีกมากในอนาคต”
เมื่อหลี่ฟู่อินเห็นความมั่นใจในคำพูดของเขาแล้ว นางจึงยิ่งแคลงใจในตัวจริงของเขามากขึ้นไปอีก แต่สีหน้าของเขากลับไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย
หลี่อี่ทิ้งเงินตามที่อาจารย์ของเขาตกลงกับนางไว้ แล้วรีบออกจากหมู่บ้านหูลู่ไปอย่างรวดเร็ว
หลินฟู่อินยืนมองส่งเขาจากตรงประตู แววตาแฝงความเหนื่อยล้าเล็กน้อย
ความสำเร็จขึ้นกับ์ การวางแผนอยู่ที่มือคน ไม่ว่าแผนนี้ของนางจะสำเร็จหรือไม่ นางก็จะไม่เสียใจภายหลังแน่!
ส่วนผลลัพธ์นั้นก็มีแต่ต้องรอชม
เป็ตอนนี้เองที่ยายหลี่กลับมาพร้อมกับเด็กน้อยที่กำลังหลับใหลทั้งสอง เมื่อเข้ามาจึงได้พบกับหลินฟู่อินที่กำลังนั่งนับเงินตำลึงอยู่ สร้างความตื่นตะลึงให้กับนางเป็อย่างมาก
นั่นเป็เงินก้อนใหญ่ ทั้งยังมีถึงสิบก้อน เด็กคนนี้ไปหาเงินถึงร้อยตำลึงนี้มาจากไหนกัน?
เมื่อหลินฟู่อินเห็นว่ายายหลี่กลับมาพร้อมกับเด็กๆ แล้ว นางก็รีบวางเงินในมือแล้วเข้าไปหาน้องๆ ทันที
แต่เมื่อเห็นยายหลี่ตั้งท่าจะพูดอะไร หลินฟู่อินก็ยิ้มออกมาก่อน “เงินร้อยตำลึงนี่ได้มาจากสูตรยาของท่านแม่ที่ข้าขายให้หมอหลี่ในเมืองไปน่ะเ้าค่ะ”
ยายหลี่โล่งอกขึ้น แต่นางก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่เล็กน้อย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้