คิดๆ ดูแล้วปกติสาวน้อยคนนี้ก็ออกจะรักศักดิ์ศรี ไม่ชอบขอร้องใคร คิดไม่ถึงว่าจะไปรบกวนคนอื่นเพื่อเื่ของเขา และก็พอจะเดาได้ไม่อยากว่าคนที่ยอมออกหน้าช่วยนั้น นอกจากเพื่อนสาวแล้วก็น่าจะเป็พวกแมลงหวี่แมลงวันฝูงหนึ่ง
เพื่อนร่วมห้องพวกนั้นของเธอ เจียงไป๋ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เท่าที่รู้ก็ไม่มีคนในท้องที่สักคน ดังนั้นคนที่สามารถช่วยได้ก็น่าจะเป็คนที่ตามจีบเธอมากกว่า สาวน้อยคนนี้ปกติอยู่ที่อื่นก็จะสุภาพเรียบร้อย แต่รักศักดิ์ศรีมาก เมื่อก่อนจะพูดน้อย สำหรับคนพวกนั้นแต่ไหนแต่ไรมาเธอก็เคารพนับถือแต่ไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วย ตอนนี้กลับไปขอร้องคนพวกนั้นเพื่อเขา ซึ่งก็ต้องทำให้เธอลำบากอยู่บ้าง
ประกอบกับครอบครัวของเธอก็ไม่ได้ร่ำรวย ถึงจะดีกว่าครอบครัวของเจียงไป๋ แต่ก็มีจำกัด มากสุดก็ถือว่าพอมีพอกิน เงินสองพันหยวนอาจจะไม่มาก แต่สำหรับเธอแล้วเกรงว่าจะเป็ค่าใช้จ่ายได้หนึ่งถึงสองเดือนเลย นี่ก็ไม่รู้ว่าประหยัดมานานเท่าไรแล้วถึงเก็บเงินได้เท่านี้ และก็ยังจะยกให้เขาโดยไม่ลังเลอีก เื่นี้ทำให้ภายในใจของเจียงไป๋รู้สึกอบอุ่น
“วางใจเถอะ เื่นั้นเพื่อนของพี่ช่วยจัดการให้ ไม่เป็อะไรแล้ว สำหรับงานบรรณารักษ์ที่เธอพูดถึง อย่างไรพี่ก็ไม่มีงานทำ พี่จะไปแน่นอน! ส่วนเื่เงิน เธอเก็บไว้เถอะ พี่ยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง พอกินพอใช้แล้ว ไม่ได้เดือดร้อนอะไร”
น้ำใจของญาติผู้น้องเจียงไป๋ฝืนใจปฏิเสธไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นตัวเขาเองก็ยังไม่มีอะไรทำ เดิมทีก็เตรียมที่จะใช้เวลา่หนึ่งไปพักผ่อนอยู่แล้ว ในประเทศนี้ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเทียนตูก็จัดอยู่ในอันดับดี การไปที่นั่นจึงเหมาะกับเขาเป็ที่สุด
“จัดการแล้ว?”
คำพูดของเจียงไป๋ทำให้หลินหว่านหรูแปลกใจมาก
เพื่อนนักเรียนที่เธอรบกวนคนนั้นเป็คนในท้องที่ ฐานะทางครอบครัวก็ไม่เลว พ่อแม่ล้วนเป็ข้าราชการตำแหน่งหัวหน้า แม้ตำแหน่งจะไม่สูงมาก แต่ก็ถือว่าเป็ผู้กว้างขวาง เธอจึงได้ไปรบกวนเขา เดิมทีเขาคือคนที่น่าเชื่อถือ แต่แค่สองวันก็กลับมาบอกว่าเื่นี้จัดการยากมาก เขาก็ไร้ความสามารถเหมือนกัน แต่ตอนนี้เจียงไป๋บอกว่าจัดการแล้ว? หรือว่าคนคนนั้นจะไม่ได้อยากช่วยจริงๆ ?
ไม่ใช่ เป็ไปไม่ได้!
ถึงจะไม่อยากช่วยก็น่าจะยื้อเวลาออกไปก่อนหรือหาเหตุผลอื่น ทำไมถึงมาพูดตรงๆ ว่าช่วยไม่ได้ล่ะ?
เมื่อก่อนเ้าหมอนั่นตามจีบเธอ และยังชอบคุยโวว่าครอบครัวของเขาเก่งแค่ไหน แต่หลังจากนั้นก็ไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าเธออีก น่าจะไม่ใช่เื่โกหกแล้ว
เพื่อนของเจียงไป๋?
เจียงไป๋มีเพื่อนแบบไหน คิดไม่ถึงว่าจะจัดการเื่นี้ได้แล้ว?
หลินหว่านหรูไม่อยากจะเชื่อ เธอคิดว่าเจียงไป๋กำลังโกหกอยู่
แต่จะดีหรือร้ายเธอก็ไปขอร้องคนอื่นแล้ว ทางนั้นบอกว่าจัดการได้ ไม่ว่าเจียงไป๋จะพูดโกหกหรือไม่ เพื่อให้เธอวางใจ ก็น่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
แค่เขาไม่นอกลู่นอกทางไปมั่วสุมอยู่กับนักเลงพวกนั้น และไปทำงานที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเทียนตูอย่างตั้งใจ ด้วยอันดับของมหาวิทยาลัยในเทียนตู คิดดูแล้วก็คงจะไม่มีใครกล้าไปก่อเื่ที่นั่น คงจะสงบได้่หนึ่ง และพอที่จะให้เธอมีเวลาจัดการเื่นี้
เมื่อนึกถึงจุดนี้ สีหน้าของหลินหว่านหรูก็ดีขึ้นมาก ถึงแม้จะไม่เผยรอยยิ้ม แต่กลับพยักหน้าเบาๆ “พรุ่งนี้พี่มาหาหนูที่มหาวิทยาลัย ่เช้าหนูไม่มีเรียน ตอนเก้าโมง หนูจะพาพี่ไปหาคณบดี”
หลินหว่านหรูไม่ได้เรียกให้เจียงไป๋อยู่กินอาหารด้วยกัน แต่กลับมอบหมายงานให้เขา และยังถามถึงที่อยู่ของเจียงไป๋ หลังจากที่รู้ว่าค่าเช่าห้องมีราคาแพงหูฉี่ ก็จะให้เจียงไป๋ย้ายออกทันที แต่ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้เมื่อรู้ว่าค่าเช่าห้องก็จ่ายไปแล้ว เธอจึงโมโหไม่หยุด
หลังจากที่บ่นเจียงไป๋ว่าล้างผลาญครอบครัวแล้ว หลินหว่านหรูก็บอกลาเขาแล้วกลับไปหาพวกเพื่อนสาวของเธอ
“หว่านหรู หนุ่มหล่อคนนั้นเป็ใครน่ะ! ดูผ่านๆ ว่าหล่อแล้ว แต่พอดูอย่างละเอียดยิ่งหล่อมาก! ฮ่าๆ บอกมาตรงๆ นั่นคือใคร? แฟนหรือ?” เพิ่งจะกลับมาที่โต๊ะ หลินหว่านหรูก็ถูกจู่โจมถามจากพวกขี้นินทาทั้งห้าคน
“ไม่ใช่ เป็ญาติกันน่ะ ไม่ใช่แฟนอะไรหรอก”
ตอนนี้หลินหว่านหรูไม่มีอาการอวดดีอย่างเมื่อครู่แล้ว เธอพูดเสียงเบาแถมยังหน้าแดงเล็กน้อย อาการเขินอายอย่างนี้หากเจียงไป๋มาเห็นเข้าก็ไม่รู้ว่าจะใจนตาถลนออกมาหรือไม่
“พี่เจียงไป๋”
ด้านเจียงไป๋พอออกมาได้ เสี่ยวเทียนก็รีบเดินมาเปิดประตูรถให้ทันที และขับรถไปส่งเจียงไป๋กลับบ้าน
ค่ำคืนอันแสนน่าเบื่อ เจียงไป๋ดูหนังของโลกนี้ไปสองสามเื่ และฝึกมวยไปอีกหนึ่งยกจึงจะนอนหลับ ในฝันคิดไม่ถึงว่าเขาจะฝันถึงเหยาหลานที่สวยครบรส และก็ฝันถึงญาติผู้น้องที่มีหน้าตาสวยเยือกเย็น ค่ำคืนนี้ได้ผ่านไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เช้าวันต่อมา เจียงไป๋ให้เสี่ยวเทียนมาส่งบริเวณที่อยู่ไกลจากประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยประมาณหกร้อยเมตร เขาลงจากรถแล้วเดินเข้าไป
เพิ่งจะถึงประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยและเตรียมที่จะโทรศัพท์หาหลินหว่านหรู เขาก็เห็นเธอมายืนอยู่ตรงประตูทางเข้าไม่รู้ั้แ่เมื่อไร ในมือถือขนมปังหนึ่งก้อน นมหนึ่งกล่อง ดูแล้วน่าจะเป็อาหารเช้าของเธอ
มองนาฬิกาข้อมืออีกที เพิ่งจะเก้าโมงครึ่งเอง ทำไมแม่สาวน้อยคนนี้ถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้?
ตอนที่เจียงไป๋เห็นหลินหว่านหรู เธอก็เห็นเขาแล้วเช่นกัน เธอโบกมือให้เขาเดินเข้าไป เพิ่งจะมาถึงก็ได้ยินหลินหว่านหรูพูดว่า “พี่กินข้าวหรือยัง หนูเพิ่งซื้อข้าวเช้ามา แต่หนูไม่หิว คิดไปคิดมาไม่กินดีกว่า ให้พี่แล้วกัน”
พูดแล้วก็ไม่รอให้เจียงไป๋ตอบกลับ เธอเอาขนมปังกับนมยัดใส่ในอ้อมอกของเจียงไป๋ทันที ซึ่งนี่ก็ทำให้เจียงไป๋รู้สึกอบอุ่น เห็นได้ชัดว่าสาวน้อยคนนี้เตรียมไว้ให้เขาั้แ่แรกแล้ว แต่เหมือนจะไม่อยากยอมรับ
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยากพูด เจียงไป๋ก็ไม่เปิดโปง และลงมือกินอย่างไม่เกรงใจ สักพักก็กินจนหมดแล้วเช็ดปาก เขาพบว่าหลินหว่านหรูมองมุมปากของเขา และเหมือนเธอจะฉีกยิ้มเล็กน้อย ถึงแม้จะปิดบังเอาไว้ แต่เจียงไป๋เป็ใคร? ปรมาจารย์วูซูจีนที่เฉียบแหลมเป็พิเศษ แค่แวบเดียวก็เก็บทุกอย่างไว้ในสายตาได้หมด
เขาเดินตามหลินหว่านหรูไปเข้าพบคณบดีผู้หญิงที่สวมแว่นตา ท่าทางสุภาพเรียบร้อย หลังจากที่อีกฝ่ายอธิบายงานแล้ว เจียงไป๋ก็เริ่มเข้าทำงานอย่างเป็ทางการ เขากลายเป็บรรณารักษ์ห้องสมุดที่มีเกียรติคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยเทียนตู ดูแลจัดการหนังสือที่เก็บไว้นับล้านเล่มร่วมกับบรรณารักษ์คนอื่นๆ
หลินหว่านหรูไปเข้าเรียนแล้ว ในระหว่างที่เจียงไป๋กำลังทำงานอยู่เขาก็เริ่มอ่านหนังสืออย่างบ้าคลั่ง
ท่ามกลางสายตาแปลกใจของคนรอบข้าง เขาเลือกอ่านหนังสือหนาๆ สามสิบเล่มก่อน แค่่เช้าก็อ่านจนหมด เขาบิดี้เีสักพัก และเริ่มศึกษาระบบ “จอมอหังการ” นี้
ผ่านไปอีกหนึ่งวัน แต้มบารมีที่หนังสือกระบี่เทพสังหารนำมาให้เขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เวลานี้เจียงไป๋มีแต้มบารมีหนึ่งพันเจ็ดร้อยแต้มแล้ว เป็จำนวนที่ไม่น้อยเลย หากรู้ว่า “ทักษะมวยสิงอี้ขั้นสูง” ที่เมื่อก่อนเจียงไป๋เคยค้นหา ้าแค่หนึ่งพันห้าร้อยแต้มเท่านั้น นั่นก็พอๆ กับพื้นฐานมวยของฉวีเจี๋ยแล้ว
แน่นอนว่า “มวยปาจี๋ขั้นปรมาจารย์” ที่เขามีก็ต้องใช้แต้มบารมีสูงถึงแปดพันแต้ม หากให้เจียงไป๋ใช้แต้มบารมีไปซื้อมาก็สูงกว่ากันมากอย่างเห็นได้ชัด แต่แต้มบารมีหนึ่งพันแปดร้อยแต้มก็เพียงพอที่จะให้เจียงไป๋ได้ของมากมายแล้ว
่เวลานี้ อย่างแรกค่อนข้างยุ่ง อย่างที่สองจำนวนยังคงน้อย เขาไม่สนใจ ตอนนี้ก็ว่างอยู่แน่นอนว่าต้องศึกษาสักหน่อย ดูว่ามีของอะไรเหมาะสมกับเขาบ้าง
ถ้าให้ระบบออกรายการของให้ เวลานั้นเจียงไป๋ก็งงแล้ว
เพราะของที่สามารถซื้อได้มีมากเกินไปแล้ว ช่างซับซ้อนเหลือเกิน จำนวนมากมายหลายแสนอย่าง ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม งานศิลปะ และยังมีความสามารถ รวมทั้งความรู้ต่างๆ อีกด้วย
อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แค่ทักษะมวย ทักษะขา ทักษะกระบอง ทักษะมีด ... ของที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งสร้างกำลังให้ร่างกายก็มีเป็หมื่นๆ ชิ้น ถ้าให้เจียงไป๋ดูและเลือกทีละอย่าง ยังไม่ทันได้เลือกก็คงเหนื่อยจนขาดใจตายเสียก่อน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้