เวินซีมองดูปฏิกิริยาของเวินเยียนอย่างพอใจ ก่อนจะหยิบถ้วยชาบนโต๊ะและสาดน้ำชาที่เย็นเฉียบไปที่หน้าของบุรุษผู้นั้น ขนตาของเขาสั่นไหว ลืมตาขึ้นและมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน
บุรุษผู้นั้นมองตามสายตาของเวินซี เมื่อเห็นเวินเยียนจึงดีใจและคิดจะลุกขึ้นมา แต่กลับพบว่าบรรยากาศผิดแปลกไปจึงหยุดการเคลื่อนไหว ก่อนจะถูกนักการของอำเภอจับมัด
“คุณหนูเวินเยียน รู้จักเขาหรือไม่เ้าคะ?” เวินซีจงใจถาม
“รู้จัก แล้วจะทำไม?” เวินเยียนตอบอย่างใจเย็น
“รู้หรือไม่ว่าเขาทิ้งสิ่งใด? หญ้าเนี่ยนตงหนึ่งกระสอบ” เวินซียกมือขึ้น ทันใดนั้นหญ้าเนี่ยนตงที่ยังมิได้ถูกจัดการก็ถูกขอทานกรีดกระสอบออกมา และนำมาวางไว้ที่กลางโถง
ขอทานเหล่านี้ล้วนเป็คนที่เคยช่วยเหลือนาง เมื่อพวกเขาทำงานสำเร็จก็จะได้รายได้ก้อนใหญ่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การใช้ชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไป ต่างก็ย้ายมาอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับตระกูลเวิน และมักจะวนเวียนอยู่ใกล้ๆ จวนตระกูลเวินเสมอ เมื่อมีเื่เล็กน้อยใดเกิดขึ้นก็จะนำไปรายงานเวินซีเพื่อแลกกับเงินรางวัล
ไม่กี่ชั่วยามก่อน พวกเขาเห็นว่าบุรุษผู้นี้ออกมาจากประตูหลังของจวน กำลังแบกของด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ จึงแอบตามไปตลอดทาง
เมื่อรู้ว่าบุรุษผู้นั้นนำหญ้าเนี่ยนตงไปทิ้ง เวินซีจึงสั่งให้ขอทานตีให้สลบแล้วนำตัวเขามา ครั้งนี้พวกเขาช่วยนางได้มาก
หญ้าเนี่ยนตง
ฮูหยินซ่งไม่พอใจ นางรู้จักของสิ่งนี้ดี มันคือยาต้องห้าม
“ข้ามิเคยได้ยินชื่อหญ้าเนี่ยนตงเลยเ้าค่ะ นี่เป็ครั้งแรกที่ข้าได้เห็นมัน ในเมื่อเป็ของที่จะทิ้งก็ทิ้งไปสิ เหตุใดต้องเก็บมาด้วย?” เวินเยียนแสร้งทำเป็ไม่รู้เื่
บุรุษที่ถูกจับมัดหยุดดิ้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของนาง “คุณหนูเวิน...”
“หญ้าเนี่ยนตงออกมาจากตระกูลเวิน คนของตระกูลเวินก็ควรจะอธิบายหน่อยมิใช่หรือ? รวมถึงตัวตนของบุรุษผู้นี้ด้วย” ฮูหยินซ่งขัดจังหวะทุกคน
“ฮูหยินซ่ง บุรุษผู้นี้เป็คนรับใช้ทำเครื่องหอมที่จวนขอรับ ส่วนเื่หญ้าเนี่ยนตง ข้าเองก็มิเคยได้ยินมาเช่นเดียวกันขอรับ” เวินอวิ๋นโปตอบ ยามนี้เขาคาดเดาเื่ราวได้ประมาณหนึ่งแล้ว แต่ตอนนี้จำเป็ต้องกัดฟันบอกปัด เพราะเื่นี้เกี่ยวกับความเป็ความตายของตระกูลเวิน
“เ้าว่ามา” ฮูหยินซ่งมองไปที่บุรุษผู้นั้น
“ข้า...ท่านฮูหยิน...เื่นี้...” บุรุษผู้นั้นเหลือบมองไปที่เวินเยียน ได้แต่พูดอึกๆ อักๆ
“พวกเ้าเข้ามาสิ ดมให้ดี ในนี้มีกลิ่นของหญ้าเนี่ยนตงหรือไม่?”
ฮูหยินซ่งกวักมือเรียกหมอมาสองสามคน พลันโยนยาทาผิวงามให้พวกเขา เมื่อมีกลิ่นของส่วนประกอบให้เปรียบเทียบ ครานี้หมอก็ดมกลิ่นหญ้าเนี่ยนตงจากยาทาผิวงามได้อย่างรวดเร็ว
“ตระกูลเวินทานใจหมีดีเสือดาว [1] มาจริงๆ สินะ ถึงทำเื่เช่นนี้ได้ลงคอ”
ยาทาผิวงามถูกเขวี้ยงลงที่เท้าของคนทั้งสอง ในขณะที่นักการของอำเภอเตรียมพร้อมที่จะจับพวกเขา
“ฮูหยินซ่ง เชื่อข้านะเ้าคะ ข้าไม่รู้อันใดเลยจริงๆ เป็...เป็คนรับใช้ผู้นี้ ต้องเป็เขาแน่ เขาเป็คนนำสูตรเครื่องหอมมาให้ข้า ตอนนั้นข้ามิได้ดูให้ชัดว่าในสูตรนั้นมีหญ้าเนี่ยนตง”
“ภายหลังก็เป็เขาที่รับผิดชอบในขั้นตอนการทำเครื่องหอม”
เวินเยียนอธิบายอย่างตื่นตระหนก แต่การเคลื่อนไหวของนักการก็มิได้หยุดลง ส่วนฮูหยินซ่งยังคงมองนางด้วยสายตาเ็า
ในตอนที่คนจะไปจับบุรุษผู้นั้น จู่ๆ เขาก็รีบลุกขึ้นมา วิ่งไปหากำแพงที่อยู่ใกล้ที่สุดพลันเอาหัวโขกอย่างแรง
เืสาดกระเซ็นไปทั่วและมีเสียงกรีดร้องดังขึ้น จ้าวต้านเอามือปิดตาเวินซี ไม่้าให้นางเห็นภาพที่น่าสลด บุรุษผู้นั้นล้มลงกับพื้น ไม่สามารถสาวความต่อได้ เื่วุ่นวายจึงจบลงทันที
บุรุษผู้นั้นช่วยตระกูลเวินไว้ ทำให้ตระกูลเวินโชคดีรอดตัวมาได้ เพื่อเป็การกอบกู้ชื่อเสียงกลับมา เวินอวิ๋นโปจำเป็ต้องสัญญากับผู้เคราะห์ร้ายที่ได้รับพิษว่า ตระกูลเวินจะเป็ผู้รับผิดชอบค่ารักษาทั้งหมด กระนั้นชื่อเสียงของตระกูลเวินก็ยังพังยับเยินอยู่ดี
ในทางกลับกัน ทางฝั่งของเวินซีกำลังเฟื่องฟู
เื่ราวที่อำเภอถูกคนเล่านิทานนำไปเขียนเป็บทขับร้องที่ร้องกันทุกวัน ชื่อเสียงของนางโด่งดังในชั่วข้ามคืน เครื่องหอมตัวใหม่ของนางก็ขายหมดทุกวัน จนเริ่มมีการนำออกไปขายที่เมืองใกล้เคียงด้วย
“เพล้ง—”
เครื่องลายครามถูกฟาดเข้ากับกำแพง เวินอวิ๋นโปควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ พูดด่าทอและสาปแช่งเวินเยียน เขาผิดหวังในตัวนางมาก
ขณะนั้นเวินเยียนคุกเข่าอยู่บนพื้น นางได้แต่นั่งทนอยู่เงียบๆ เป็เช่นนั้นสองวันจนหัวเข่าเริ่มบวมแดง
“เ้าใส่หญ้าเนี่ยนตงลงไปในเครื่องหอม เวินเยียน เ้าเล่นตลกกับตระกูลเวินหรือ ข้านึกว่าเ้าจะรู้ความสักหน่อย นี่คือการแสดงฝีมือของเ้าหรือ? ตระกูลเวินทั้งตระกูลเกือบจะพังทลายเพราะเ้าอยู่แล้ว”
“ฟังให้ดี ข้าจะพาเวินซีกลับมาให้ได้ภายในครึ่งเดือนนี้ ถึงตอนนั้นเ้าต้องทำตัวดีๆ กับนาง มิฉะนั้นอย่าได้คิดจะเป็คุณหนูตระกูลเวินอีกเลย”
ตอนนี้ความหวังทั้งหมดของตระกูลเวินอยู่ที่เวินอวิ๋นโปจะสามารถพาเวินซีกลับมาได้หรือไม่ เวินเยียนทำได้เพียงนั่งฟังและกำหมัดแน่น
เวินอวิ๋นโปปิดประตูกระแทกแรงๆ ขณะนี้ในห้องจึงเหลือเพียงเวินเยียนคนเดียว นางล้มลงกับพื้นอย่างหมดแรง ก่อนจะมีสตรีรับใช้เข้ามาช่วยพยุงขึ้น
ยิ่งนางมีความอดสูมากเท่าไร ความเกลียดชังที่มีต่อเวินซีก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
สิบห้าวัน...นางจะทำให้เวินซีตายภายในสิบห้าวันนี้
ตอนที่ยียีกลับมาจากสำนักศึกษา เวินซีก็กำลังเล่นกับซันซาน เพราะว่าเครื่องหอมถูกขายจนหมด ทำให้พวกเขาจำเป็ต้องปิดร้านก่อนกำหนด
“พี่สะใภ้”
“อื้ม” เวินซีบีบหน้าเขาเบาๆ
ั้แ่ที่ย้ายมาอยู่ที่ร้าน นางก็เลี้ยงเด็กๆ ทั้งสามด้วยอาหารอย่างดี เห็นได้ชัดว่าทั้งสามคนอ้วนท้วนขึ้นแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ทั้งผอมโซและน่าสงสาร
“ท่านพี่ล่ะขอรับ?” ยียีมองดูรอบบ้าน
“น่าจะไปล่าสัตว์น่ะ” เวินซีมัวแต่ยุ่งอยู่กับงานที่ร้าน จึงไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไร
“พี่สะใภ้ เมื่อไหร่ท่านจะมีซื่อซื่อกับท่านพี่ล่ะขอรับ?”
“ซื่อซื่อ! ซื่อซื่อ!”
ยียีถามแปลกๆ จังหวะนั้นซันซานก็เอ่ยไปกับเขาด้วย แต่เวินซีไม่ชอบคำถามนี้จึงมิได้ตอบ ยียีรู้สึกได้ว่าตนเองพูดผิดไป จึงอุ้มซันซานเข้าไปข้างในห้อง
ขณะนั้นจู่ๆ ก็มีคนมาเคาะประตู
“เวินซี ข้ารู้ว่าเ้าอยู่ข้างใน เปิดประตูให้พ่อหน่อยได้หรือไม่?”
เป็เสียงของเวินอวิ๋นโป แต่นางไม่สนใจเขา
“เวินซี ที่ข้ามาวันนี้ก็เพื่อจะพาเ้ากลับจวน ยามนี้ทั้งตระกูลเวินกำลังไว้ทุกข์ พวกเราจะไว้อาลัยให้นางสิบห้าวัน เ้ากลับตระกูลเวินไปดูหน่อยเถิดนะ”
เวินอวิ๋นโปยอมลงทุนอย่างมหาศาลจริงๆ ถึงขนาดทะเลาะกับฮูหยินใหญ่เวินอย่างเอาเป็เอาตาย
เมื่อเวินซีได้ยินว่าเขามาด้วยเื่นี้จึงไปเปิดประตูให้ จากนั้นก็เห็นว่าในมือของเขาถือผ้าขาวมาด้วย
เวินอวิ๋นโปเดินเข้าไปในร้านและวางผ้าขาวไว้บนโต๊ะ
“เวินอี๋เหนียงจะถูกฝังใหม่ เราจะย้ายนางไปที่สุสานตระกูลเวิน ในฐานะที่เ้าเป็บุตรสาวของนาง ต้องกลับไปเคารพนางนะ ข้ารู้ว่าเ้าเกลียดชังตระกูลเวินมาก ข้าไม่บังคับเ้า แต่เวินอี๋เหนียงน่าจะอยากพบเ้า”
เวินอวิ๋นโปพูดความจริง แต่ในคำพูดของเขาก็ยังหนีไม่พ้นเื่ที่จะให้เวินซีกลับไป
เวินซีมองผ้าขาว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบมันขึ้นมา “รอให้จ้าวต้านกลับมา แล้วข้าจะกลับไปกับเขา”
นางควรไปเคารพมารดา ในโลกนี้เวินอี๋เหนียงมีบุตรสาวเป็ญาติเพียงคนเดียว อีกอย่างเพียงแค่ไปเคารพคงใช้เวลาไม่นาน
เมื่อเห็นนางตอบรับ เวินอวิ๋นโปก็ดีใจจนออกนอกหน้า เขาพูดต่ออีกเล็กน้อยแล้วหาข้ออ้างกลับไป
ทางฝั่งของจ้าวต้านนั้นถือกระต่ายป่ากำลังจะกลับบ้าน แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับฮูหยินซ่ง นางมิได้พาคนรับใช้มาด้วย เมื่อเห็นเขาจึงเดินเข้าไปหา ราวกับว่ากำลังรออยู่นานแล้ว
“จ้าวต้าน? นี่เป็คำขอบคุณจากข้าเื่ที่เวินซีทำในวันนั้น” นางหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ในมือถือปิ่นปักผมที่งดงาม ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าไหม
“ฮูหยินซ่งมอบให้นางเองดีกว่าขอรับ” จ้าวต้านไม่อยากมากความจึงเบี่ยงตัวหลบจะเดินออกไป แต่ก็ยังถูกสกัดไว้
ฮูหยินซ่งยัดปิ่นปักผมใส่กระเป๋าของเขา พลันถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “จ้าวต้าน ในเมื่อเ้ามิอยากจะพูดมาก เช่นนั้นข้าจะบอกจุดประสงค์ที่มาตรงๆ ก็แล้วกัน มีคนเคยบอกหรือไม่ว่าเ้าหน้าคล้ายกับบุรุษผู้หนึ่ง?”
นางรู้สึกได้ั้แ่ครั้งแรกที่เห็น เพียงแต่ว่าตอนนั้นมิได้ถามออกไป เมื่อกลับไปแล้วก็ยังคงข้องใจ จึงอดมิได้ที่จะมาถามด้วยตนเอง
จ้าวต้านมีสีหน้าเครียด “ผู้ใดขอรับ?”
เชิงอรรถ
[1] ทานใจหมีดีเสือดาว 吃了熊心豹子胆 เป็คำเปรียบเทียบของผู้ที่มีความกล้ามาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้