หลี่อี้และย่าหลี่กลับออกไปข้างนอกอีกครั้งเพื่อชั่งสมุนไพรตากแห้ง
แต่กองที่อยู่ข้างนอกมันยังไม่แห้งดี จึงไม่แปลกที่จะมีน้ำหนักเยอะ
เมื่อชั่งเสร็จ ได้ผลออกมาเป็หญ้าเชอเฉียนหกสิบสี่จินสี่เหลี่ยง พั๊วกิไน้เจ็ดสิบจินเก้าเหลี่ยง และอวี๋ซิงเฉ่าหนึ่งจินหนึ่งเหลี่ยง
“หลี่อี้ เคาะตัวเลขมาเลย” หลี่ฮูหยินกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ในเมื่อสมุนไพรสดมีผลดีกว่า นางก็ไม่สนเื่น้ำหนัก
ตอนนี้อากาศค่อนข้างร้อน นางแค่ต้องนำสมุนไพรเหล่านี้ไปปล่อยในเมืองหลวง ระยะเวลาเดินทางเพียงไม่กี่วันคงไม่ทำให้เสียแน่
หลี่อี้หยิบลูกคิดเหล็กขึ้นมาดีด ก่อนจะมองหลินฟู่อินและหลี่ฮูหยิน แล้วกล่าว “แม่นางหลิน นายหญิง คำนวณแล้วทั้งหมดเป็หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเจ็ดตำลึงเงินกับสี่สิบแปดอีแปะขอรับ”
คำนวณได้เร็วยิ่งนัก
หลินฟู่อินมองหลี่อี้อย่างสงบ
หลี่ฮูหยินหัวเราะ “หนึ่งร้อยเจ็ดสิบแปดตำลึงเงินเลยนะ เงินก้อนใหญ่มิใช่น้อย”
หลินฟู่อินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เช่นนี้ก็ถือว่าค้าขายได้ กำไรเพิ่มพูน”
“ถูกต้อง ค้าขายได้ กำไรเพิ่มพูน” หลี่ฮูหยินยิ่งปลาบปลื้มขึ้นอีก
เพื่อวันนี้แล้ว นางไปถอนเงินมาถึงสามร้อยตำลึงเงิน คาดไม่ถึงว่าจะประหยัดไปได้มากกว่าครึ่ง
เป็ธรรมดาที่นางจะมีความสุขเมื่อสามารถประหยัดได้มากขนาดนี้
ใครบ้างจะไม่ชอบเงินก้อนโต?
ความคลางแคลงในตัวหลินฟู่อินที่เหลืออยู่ได้มลายหายไปพร้อมกัน
หลี่ฮูหยินและหลินฟู่อินพูดคุยกันตามมารยาทอีกหน่อย และนางกับหลี่อี้จึงกลับไปหลังจากอธิบายสิ่งต่างๆ เพิ่มเติมเล็กน้อย
แต่เพราะรถม้าของบ้านหลี่มาจอดอยู่หน้าบ้านหลินฟู่อินนานกว่าครึ่งวัน เหล่าชาวบ้านจึงพากันให้ความสนใจ
หลังรถม้าออกไปได้ไม่นาน จ้าวซื่อและอู๋ซื่อก็มายังบ้านของหลินฟู่อิน
เป็ตอนที่หลินฟู่อินกำลังให้เงินยี่สิบตำลึงเงินแก่ย่าหลี่เผื่อไว้ในยามฉุกเฉินพอดี แต่ย่าหลี่ปฏิเสธ
นางกำลังตกตะลึง ที่หลินฟู่อินสามารถหาเงินจากผักป่าที่แม้แต่หมูยังไม่กินได้นับร้อยตำลึงเงินภายในเวลาไม่กี่วัน
แต่เหนือกว่านั้นก็คือนางกำลังประทับใจ
เด็กสาวผู้นี้เริ่มจากการใช้คู่ปู่ย่าหลินเป็ตัวล่อในการเรียกหมอหลี่มาหา แล้วจึงใช้สูตรยาที่ฉู่ซื่อทิ้งไว้เพื่อล่อความสนใจ
จากนั้นก็พาบ้านรองออกมาจากบ้านหลัก แล้วให้ลูกสาวติดดินทั้งสองของบ้านรองไปช่วยขุดหาสมุนไพร
เมื่อศิษย์ของหมอหลี่มาถึง ก็ให้เขานำสมุนไพรกลับไปพร้อมสรรพคุณ จนเป็ผลให้สามารถกอบโกยเงินได้มหาศาลในวันนี้
ทั้งหมดนี่ หากไม่ใช่ยอดคนแล้ว ใครกันที่จะมองออกว่ามันเป็ผลงานของเด็กสาวอายุเพียงสิบกว่าปีกัน
เพราะอย่างนั้น ย่าหลี่จึงรู้สึกว่าการที่นางเลือกฝากชีวิตที่เหลือไว้กับหลินฟู่อินนั้น เป็ทางเลือกที่ถูกแล้ว
นางจึงตั้งมั่นเงียบๆ ภายในใจ ว่าจากนี้ไปจะทำทุกอย่างเพื่อหลินฟู่อินอย่างแน่นอน
“ฟู่อิน ย่าว่าถ้าสมุนไพรมันทำเงินได้มากขนาดนี้ ค่าจ้างของอาเฟินและอาฟางก็ควรจะเพิ่มด้วยไม่ดีกว่าหรือ” ย่าหลี่คิดแล้วกล่าวออกมา
นางอยากให้อาเฟินและอาฟางยังศรัทธาในตัวหลินฟู่อินต่อไปในอนาคต และเพื่อที่จะหาคนมาช่วยฟู่อินเพิ่มได้ นางจึงเสนอออกมาเช่นนี้
ฟู่อินเองก็เข้าใจในสิ่งที่ย่าหลี่คิดและเห็นด้วย พลางคิดในใจ การมีผู้าุโเช่นนี้ในครอบครัวนับเป็สมบัติล้ำค่าจริงๆ
“ท่านย่าไม่ต้องห่วง ข้าคิดจะเพิ่มเงินให้พวกนางอยู่แล้ว จะได้ช่วยให้บ้านของพวกนางตั้งตัวได้ด้วย” หลินฟู่อินขยิบตา
ย่าหลี่พยักหน้ารับ พลางถอนหายใจ “ตอนนี้อากาศร้อน กระต๊อบไม้นั่นจึงพอจะใช้อาศัยได้ แต่หากถึงหน้าหนาวเมื่อไรคงมีคนตายแน่”
“ไม่ผิดเลย” หลินฟู่อินเม้มปาก นางต้องพาบ้านรองออกจากหล่มความจนให้เร็วที่สุด แล้วแก้ชื่อดาวหายนะนี่ของนางเสีย
ไม่อย่างนั้น การอยู่ใกล้นางผีเฒ่าและจ้าวซื่อที่อยากให้นางตายไวๆ ต่อไปเช่นนี้ ชีวิตนางคงไม่ปลอดภัยแน่
หลินฟู่อินคุยกับย่าหลี่ต่อไปพักหนึ่ง กระทั่งเด็กๆ ทั้งสองตื่นขึ้นมาพร้อมความหิวโหย ย่าหลี่จึงอุ้มเด็กทั้งสองไปหาจูซื่อกับสะใภ้
หลินฟู่อินก็หยิบตะกร้าเพื่อจะออกไปเก็บผักในสวน
แต่อู๋ซื่อกับจ้าวซื่อก็บุกเข้ามา
ทันทีที่เข้ามาก็หันซ้ายหันขวาราวกับมองหาบางสิ่งทันที
หลินฟู่อินไม่อยากยุ่งกับพวกนาง แต่นี่มันบ้านนาง และนางเป็เ้าบ้าน
ผู้เป็เ้าบ้านต้องมีมารยาทในการต้อนรับเสมอ
“ท่านย่า ป้าสะใภ้ใหญ่ มีธุระอะไรหรือ?” หลินฟู่อินยืนมองพวกนางตรงๆ
“คำถามอะไรกัน? ย่าของเ้ากับข้าจะมาเยี่ยมบ้านเ้าไม่ได้ถ้าไม่มีธุระหรือยังไงกัน?” จ้าวซื่อใช้มือท้าวเอวพลางหรี่ตามองหลินฟู่อิน
หลินฟู่อินอยากหัวเราะขึ้นมา หน้านางเหมือนอยากให้พวกนางมาเยี่ยมหรืออย่างไร?
อู๋ซื่อแค่นจมูกเสียงเย็น ถามตรงๆ “เมื่อครู่มีรถม้าคันโตมาจอดอยู่หน้าบ้านเ้า นั่นมันใคร แล้วมาทำอะไร?”
“ดูท่าจะเป็คนรวยเสียด้วย ได้ยินมาว่าคนที่ออกมาเป็ผู้หญิงกับผู้ชาย เอาอะไรมาส่งให้เ้ากัน? เงินหรือ?” จ้าวซื่อมองหลินฟู่อินด้วยสายตาละโมบ ั์ตาแดงจนเหมือนจะมีเืไหลออกมาเลยเชียว
หลินฟู่อินมองพวกนางเงียบๆ โดยไม่กล่าวอะไร
“เป็อะไร? เป็ใบ้หรือไง?” อยู่ๆ อู๋ซื่อก็ตะคอกขึ้นมา “ยังเป็สาวเป็นางแต่กลับปล่อยให้ผู้ชายเข้ามาในบ้าน ทำเื่ไร้ยางอายไปแล้วใช่หรือไม่?”
“ท่านแม่ นังโสเภณีฟู่อิน!” จ้าวซื่อะโระคนตะคอกด้วยใบหน้าดุดัน “ชวนผู้ชายมาบ้านั้แ่อายุแค่นี้ เลยมีเงินมากขนาดนั้นสินะ”
สายตาของหลินฟู่อินคมปลาบขึ้นทันที นี่ใช่คำพูดที่คนเป็ย่ากับป้าควรจะพูดหรือ?
ด่าใส่ความว่านางเป็คนขายตัว
นางอดทนที่จะไม่สวนกลับนังสองคนนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ
“ย่า ใส่ความข้าเช่นนี้แล้วจะได้อะไรขึ้นมาหรือ?” หลินฟู่อินเก็บความรู้สึกอยากคว้าไม้กวาดมาไล่ฟาดนังสองคนนี้ลงไปให้ลึกในใจ
แต่หากไม่พูดอะไรแรงๆ พวกนางคงออกไปกระจายข่าวไร้สาระให้คนนอกฟัง จนชื่อเสียงนางกลายเป็ชื่อเสียแน่ อีกทั้งยังจะกระทบถึงชื่อเสียงของเด็กสาวบ้านหลินคนอื่นๆ ด้วย
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้! เดี๋ยวข้าจะสั่งสอนเ้าแทนพ่อแม่เ้าเอง! โตขนาดนี้แล้วดันไม่เรียนเื่ดีๆ ไปเรียนที่จะเป็โสเภณีชั้นต่ำแทนเสียอย่างนั้น!” จ้าวซื่อใช้สองมือท้าวเอว สายตากวาดไปเห็นชาที่ถูกดื่มค้างไว้บนโต๊ะกลางห้อง
“ท่านแม่ ดูสิ! ทำชาให้ผู้ชายตัวเหม็นดื่มเสียด้วย! ไร้ยางอายนัก!” จ้าวซื่อไม่สนมารยาท วิ่งไปหยิบเหยือกชาสีขาวกรอกปากอย่างรุนแรง จนน้ำชาทะลักหกเลอะทั่วร่าง ก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ดปาก
หลินฟู่อินถึงกับอึ้ง นังนี่มันน่าขยะแขยงแถมยังไร้ยางอายจนไร้ก้นบึ้งได้ขนาดนี้เชียวหรือ?
“ท่านแม่ กลิ่นหอมมากเ้าค่ะ ท่านลองดูสิ!” จ้าวซื่อยื่นเหยือกให้อู๋ซื่อ อู๋ซื่อรับไปแล้วกรอกปากอึกใหญ่โดยไม่สนเลยว่า เมื่อสักครู่จ้าวซื่อเพิ่งใช้เหยือกเดียวกันนี้กรอกปากไป
หลินฟู่อินถึงกับพูดไม่ออก
จ้าวซื่อเห็นสายตาของหลินฟู่อิน ก็ขึ้นเสียงเพื่อตะคอกนางทันที “ฟู่อิน ข้าไม่ยอมให้เ้าบอกว่าท่านแม่ใส่ความเ้าอยู่แน่ ดูชานี่สิ หลักฐานชั้นดีเลยไม่ใช่หรือ?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้