บทที่ 25 พิษปีศาจโบราณ
การเคลื่อนไหวของลั่วถูไม่อาจรอดพ้นสายตาของเยวี่ยตงไปได้ แม้แสงสว่างยามราตรีจะไม่สู้ชัดนัก ทว่าหลังจากงูอูซือแตกฝูงกระจายออกไป พุ่มไม้แห่งนี้ก็กลายเป็ที่ที่ปลอดภัยที่สุดไปโดยปริยาย เพราะในเมื่อฝูงอสรพิษจากไปแล้ว ก็คงไม่มีสัตว์อสูรชนิดอื่นหลงเหลืออยู่ได้อีก ถึงมีก็เป็เพียงซากศพ ดังนั้น เงาตะคุ่มที่มองเห็นนอกจากลั่วถูก็ไม่มีทางเป็อย่างอื่นได้อีก
“เ้าไม่ใช่มีหน้าไม้แกร่งตั้งเยอะไม่ใช่หรือ?” เสียงของเยวี่ยตงบ่งบอกถึงเจตนาเยาะเย้ย เขาไล่ตามลั่วถูไปอย่างใจเย็น ในมือถือกระดูกยาวทรงแหลมอยู่สองชิ้น จากนั้นอาศัยแสงของดวงดาวนำทางเพื่อขว้างออกไป
“อ้าก...” ลั่วถูกรีดร้อง กระดูกแหลมสองชิ้นแทงทะลุร่างของเขา ทั้งยังปักตรึงร่างของเขาไว้ที่พื้นอีกด้วย
เยวี่ยตงหัวเราะอย่างชั่วร้าย พุ่งกายตามไปทันที กระโจนไปตามกิ่งไม้ ไปตรงจุดที่ลั่วถูอยู่ สำหรับมนุษย์น่ารังเกียจผู้นี้ ถ้าทำเพียงสังหารมันเสียง่ายๆ เช่นนั้นจะถือเป็การดูิ่พวกพ้องที่ตายมากเกินไป ดังนั้นเขาจะเอาศีรษะของเ้าคนธรรมดาผู้นี้ไปทำแก้วเหล้าเสีย
เพียงแต่เมื่อเยวี่ยตงรีบรุดไปถึงตัวลั่วถู เขาพลันหน้าถอดสี เพราะเขาพบว่าเงาของลั่วถูที่อยู่ตรงหน้ากลับจางหายไปในทันที และสิ่งที่กระดูกแหลมสองชิ้นแทงเข้าไปเป็เพียงศพของศิษย์ปีศาจตนหนึ่ง ทั้งยังเป็พวกพ้องของเขาคนหนึ่งเสียด้วย… เขารู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลในทันที และในตอนนั้นเองเสียงยิงธนูดังเข้ามาสู่โสตประสาทของเขาอย่างฉับพลัน
“ฟุ่บ ฟุ่บ… ” เป็หน้าไม้หลายสิบคันตีวงปิดล้อมเขาไว้จนแทบไร้ช่องว่าง
เยวี่ยตงกรีดร้องเสียงหลง ร่างผอมบางะเิออกทันทีจนดูคล้ายกับกลายเป็มนุษย์หมีก็ว่าได้ ทวนในมือฟันออกอย่างรวดเร็วจนเห็นเป็ประกายแสง เสียงเหล็กกระทบกันดังกึกก้อง สุดท้ายเยวี่ยตงก็ได้แต่ร้องด้วยความเ็ปด้วยและความเคียดแค้น แม้เพลงทวนของเขาจะเร็วมาก เพียงแต่พลังของหน้าไม้แกร่งที่ยิงเข้าใส่เดิมทีก็มีพลังทำลายล้างสูงไม่เบา ซ้ำยังอาศัยความมืดยามค่ำคืนช่วยซุกซ่อน เมื่อรวมกับเื่ที่ตัวเขาไม่รู้ถึงตำแหน่งของหน้าไม้พวกนั้น ซ้ำยังระยะห่างระหว่างหน้าไม้เหล่านี้ที่ใกล้เกินไปทำให้พลังโจมตีที่ส่งออกไปแทบจะฉีกฝ่ามือจนขาดได้ แถมลูกศรหลายดอกยังยิงทะลุร่างของเขา ทำให้เขาล้มลงในที่สุด
ราวกับเืในตัวเยวี่ยตงถูกแช่แข็ง ตอนที่ร่างของเขาล้มใส่พุ่มไม้ เขาก็พบจานอาคมที่ถูกเขาชนตกจนร่วงด้วย มันเป็จานอาคมอย่างง่ายจานหนึ่ง ไม่ไกลนักมีธงอาคมคุณภาพต่ำหลายผืนวางอยู่เช่นกัน ภาพเมื่อครู่ที่เขาเห็นเป็เพียงอาคมลวงตาขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่เพียงเพราะภายใต้ม่านแห่งความมืดยามวิกาล อาคมลวงตาที่ทั้งหยาบทั้งง่ายเช่นนี้กลับลวงสายตาของเขาให้เห็นภาพลวงตาได้นั่นเอง เขามั่นใจว่าหากเป็กลางวัน อาคมมายาที่ทั้งหยาบทั้งง่ายเช่นนี้ไม่มีทางหลอกตาเขาได้แน่นอน น่าเสียดายที่ตอนนี้เป็ตอนกลางคืน อาศัยเพียงแสงจันทร์และแสงดาว ธงอาคมกับจานอาคมเ่าั้ก็เพียงพอจะสร้างภาพลวงตาได้แล้ว และสุดท้ายเขาก็เห็นศพเป็ลั่วถูเข้าจนได้…
“คนของตระกูลเยวี่ยจากเผ่าปีศาจก็ไม่เห็นจะเท่าไร แต่ข้าสงสัยนักว่า หัวของคนตระกูลเยวี่ยแห่งเผ่าปีศาจจะมีราคาหรือไม่นะ แต่ไม่รู้ว่าเ้าเป็คุณชายคนที่เท่าไรของตระกูลเยวี่ยเสียด้วยสิ… ” เสียงของลั่วถูดังขึ้นอย่างไร้อารมณ์ พร้อมๆ กับที่พุ่มไม้ถูกแหวกเป็ทาง
“ไอ้เวรเอ๊ย… ” เยวี่ยตงสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ าแจากการถูกหน้าไม้หลายคันระดมยิงเข้าใส่ร่างเริ่มรู้สึกชาและคันแล้ว ในใจของเขาโกรธแค้นเกินทน กับแค่คนขนศพเพียงคนเดียว คนธรรมดาที่ไม่ต่างอะไรกับมดปลวกตัวหนึ่ง ไปเอาพิษมากมายขนาดนี้มาจากไหนกัน อย่างกับว่าบนลูกศรทุกดอกล้วนอาบยาพิษ เื่นี้กระตุกต่อมโมโหของเขาเข้าจนได้
เยวี่ยตงต้องไม่รู้แน่ ว่าตอนที่ลั่วถูอยู่ในสำนักจ๋าเสวีย เป็ผู้ช่วยอาจารย์ปรุงยาในสาขาซินตัน ทำงานจุกจิกอย่างเช่นปลูกสมุนไพร จุดเตาปรุงยา เฝ้าเตาไฟและเทยา สมุนไพรในสำนักซินตันไม่ได้มีเพียงยาิญญา แต่ยาพิษเองก็มีไม่น้อย และกากยามากมายก็มีความเป็พิษร้ายแรงใช้ได้ ของพวกนี้ลั่วถูไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่ อย่างไรเสียเขาเป็แค่คนจนๆ คนหนึ่ง อะไรที่หาเงินได้ เขาไม่มีทางปล่อยให้รอดสายตาแม้แต่อย่างเดียว เพราะฉะนั้นหลายปีมานี้ เขาไม่เพียงเก็บวัตถุสำหรับปรุงยาเปิดิญญาไว้ไม่น้อย แต่ยังเก็บยาพิษไว้จำนวนมากอีกด้วย อีกทั้งยังเรียนรู้แยกชนิดสมุนไพร ถึงขนาดที่ตัวเขาเองก็ปรุงยาพิษเองได้ด้วยซ้ำ
ที่จริงแล้วเยวี่ยตงยังมีอีกหลายจุดที่ไม่เข้าใจ นั่นก็คือเหตุใดเ้าเด็กธรรมดานี่ถึงพกหน้าไม้แกร่งมากมายขนาดนี้ได้กัน ที่จริงแล้วเ้าหมอนี่เอาของพวกนี้ไปซ่อนไว้ที่ไหน? ระหว่างทางั้แ่บนหุบเขาจนถึงเนินเขาศิลากำเนิดเทพ ลั่วถูใช้หน้าไม้ไปแล้วไม่น้อยกว่าหลายสิบคัน แถมเมื่อครู่ก็วางหน้าไม้ไว้อีกหลายสิบคันด้วย ถึงการใช้กลไกควบคุม จะลดความแม่นยำไปโข ทว่าการใช้จำนวนเข้าสู้เพื่อมุ่งเป้าไปยังสิ่งเดียว หน้าไม้แข็งแกร่งเหล่านี้เดิมทีก็ไม่ต้องอาศัยความแม่นยำอะไรแล้ว แค่ใช้จำนวนเข้าข่ม ขอเพียงยิงโดนสักดอกหนึ่งก็พอแล้ว เกรงว่าต่อให้แค่เฉียดผิวไปนิดหน่อยก็คงถึงชีวิตได้ ดังนั้นลั่วถูจึงไม่สนว่าจะเปลืองลูกศรแต่อย่างใด ขอเพียงเข้าเป้าสักดอกก็พอ...
หากเปลี่ยนเป็ผู้อื่น หรือเปลี่ยนเป็ตัวลั่วถูเองในเมื่อสิบกว่าวันก่อน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฝ่ายที่ต้องตายคงไม่พ้นลั่วถู เพราะลั่วถูไม่มีทางนำหน้าไม้เยอะขนาดนี้มาตั้งเป็กับดักแน่ ทว่าลั่วถูในตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในแหวนมิติของเขายังมีหน้าไม้เหลือให้ใช้อีกไม่น้อยเลย หน้าไม้แกร่งเหล่านี้ยังใช้ได้หลายครั้ง ถึงบางครั้งจะต้องสละบ้าง แต่ลำพังในแหวนมิติของเขาก็มีหน้าไม้อยู่เกือบสองร้อยคันแล้ว มากพอจะให้ใช้ฟุ่มเฟือยได้อีกนาน
“เ้าคิดว่าชนะแน่แล้วหรือ?” เยวี่ยตงหัวเราะอย่างอเนจอนาถ ทว่ายังคงตอบกลับอย่างเ็า
“เ้าว่าไม่ใช่หรือ? ข้าเฝ้ารอจะนำศีรษะของเ้าไปแลกที่เมืองม่อหลานใจจะขาดแล้ว ตระกูลสูงศักดิ์แห่งเผ่าปีศาจคนหนึ่ง...” ลั่วถูหัวเราะ
“หวังว่าเ้าจะหัวเราะได้นานกว่านี้เสียหน่อย...” เยวี่ยตงมองไปยังลั่วถู ด้วยสีหน้าดูถูกดูแคลน ความรู้สึกทั้งคันทั้งชาบนร่างของเขารุนแรงมากขึ้นทุกที แต่บนสีหน้าที่แสดงออกไปกลับบอกว่าเขายังมีเล่ห์กลเหลืออีกมากนัก
ความมืดไม่ส่งผลกับสายตาลั่วถูแม้แต่น้อย สีหน้าหน้าของเยวี่ยตงราวกับจะบอกว่าจัดการเขาได้แล้ว เขาฉุกคิดขึ้นได้ในทันที รีบฉีกเสื้อตรงเอวออก กลับต้องใเพราะพบว่าิัทั้งหมดกลายเป็สีดำเขียว ทว่ากลับไม่รู้สึกเลยสักนิด นอกจากความเ็ปเล็กน้อยแล้ว มีแค่สีเท่านั้นที่ผิดปกติไป...
“หนุ่มน้อย โลกนี้ไม่ได้มีแต่เ้าที่ใช้พิษเป็หรอกนะ!”
ลั่วถูหยิบมีดสั้นออกมากรีดลงบนแผลที่เป็สีเขียวคล้ำ แต่กลับไม่มีเืไหลออกมาเลย... เหงื่อไหลท่วมหน้าผากของเขาทันที นี่มันพิษบ้าอะไรกัน เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย...
“แน่นอน ยาแก้พิษมีเพียงตระกูลเยวี่ยของข้าที่มี ตัวข้าเองก็มีเช่นกัน...” เยวี่ยตงหยิบขวดยาสีแดงออกมา ยกขึ้นเขย่าต่อหน้าลั่วถู จากนั้นหัวเราะและกล่าวกับลั่วถู “ถึงข้าจะมียาแก้พิษ แต่ข้าไม่คิดจะส่งมันให้เ้าแน่… ถ้าจะตายพวกเราก็จงตายไปพร้อมกันเสีย!”
“ไม่นะ...” ลั่วถูร้อนรน พุ่งตัวออกไป เขารู้ความหมายของการแสดงออกของเยวี่ยตงดี มันคือการทำลายขวดยาแก้พิษ เขายังไม่อยากตาย
“เ้าหมดโอกาสแล้ว… ” เยวี่ยตงหัวเราะอย่างน่าอนาถ เพียงเขาออกแรงที่มือ ขวดหยกก็แตกออกดัง “เพล้ง” ผงสีแดงกระจัดกระจายไปทุกสารทิศราวกับกลุ่มควัน ลั่วถูะโด้วยความโกรธ ทั้งร่างพุ่งชนเข้าใส่ร่างของเยวี่ยตง ดาบในมือแทงเข้าไปที่หัวใจของเยวี่ยตงปักตรึงร่างนั้นไว้ที่พื้น มือของเขาไล่คว้าอากาศอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็จับอะไรไม่ได้สักอย่าง ได้แต่อ้าปากสูดเอาอากาศโดยรอบอย่างเสียสติ หวังจะสูดเอาผงแป้งที่กระจายออกไปเข้าสู่ร่างให้ได้มากที่สุด
“อั่ก… ” เยวี่ยตงกระอักเืสดออกมาก้อนใหญ่ แต่รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงชั่วร้าย เพียงแต่ไม่อาจส่งเสียงได้แล้ว มีเพียงเสียงฟองในเืแตกออกอย่างน่าประหลาด
หัวใจของลั่วถูกระตุกวูบ เขาประเมินเยวี่ยตงต่ำเกินไป แน่นอนว่า สาเหตุที่ทำให้เยวี่ยตงตัดสินใจเช่นนี้เป็เพราะเยวี่ยตงรู้ว่าตัวเองไม่มีทางรอดแล้ว ลูกศรหลายดอกยิงใส่ร่างของเขา ถึงขนาดทำลายอวัยวะภายในจนหมด ไหนจะยังยาพิษบนลูกศรก็เข้าร่างกายแล้วอีก ต่อให้ได้ยาแก้พิษจากลั่วถู เกรงว่าก็คงไม่รอดอยู่ดี ดังนั้นในสถานการณ์แบบนี้ เยวี่ยตงยอมทำลายยาแก้พิษจากมีดปีศาจของตน ไม่ยอมให้ลั่วถูรอดชีวิตเด็ดขาด
เยวี่ยตงเกลียดลั่วถู ทั้งที่เขาเป็ถึงคุณชายจากตระกูลสูงส่งของเผ่าปีศาจ แต่กลับถูกคนขนศพตัวเล็กๆ คนธรรมดาที่เหมือนกับมดแมลงตัวหนึ่งลอบโจมตี ถึงแม้เขาจะเป็ศิษย์ปีศาจขั้นที่สี่ ทว่าในการสู้รบเช่นนี้ กลับไม่มีโอกาสให้แสดงข้อได้เปรียบใดใดออกมาได้เลย ช่างเป็เื่น่าเศร้าเหลือเกิน
ลั่วถูสูดผงสีแดงได้เพียงเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่านี่เป็ยาแก้พิษจริงหรือไม่ แต่เขารู้ว่าพิษที่อยู่ในร่างประหลาดมาก ยาพิษนี้ทำให้เืในร่างของเขาแข็งตัว แถมยังไม่รู้สึกเจ็บด้วย ตอนที่เขาอยู่ที่สาขาซินตันก็เคยได้ยินว่าเผ่าปีศาจมีการใช้กระดูกปีศาจโบราณสร้างพิษพิเศษขึ้น มีทั้งคุณสมบัติของพิษร้ายและเปลี่ยนผู้ถูกพิษให้กลายเป็ปีศาจ ต่อให้เป็ยาต้านปีศาจที่ดีที่สุดก็ยับยั้งพิษนี้ไม่ได้… ในเผ่าปีศาจ ตระกูลเยวี่ยนับว่าเป็ตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่ง มีพิษโบราณนี้ใช่ว่าจะเป็ไปไม่ได้เสียทีเดียว
ลั่วถูใช้จมูกสูดพื้นอย่างบ้าคลั่ง ทว่าผงสีแดงนี้ราวกับละลายไปในพื้นจนหมดแล้ว แม้ว่าบนร่างของเยวี่ยตงจะมีเพียงป้ายคำสั่งกับเหริยญซิงเหิน แถมยังมีเหรียญม่วงถึงสิบเหรียญ เหรียญฟ้าเกือบร้อย จำนวนของเหรียญขาวไม่ได้ต่างกับเหรียญฟ้าสักเท่าไรนัก เรียกได้ว่าเป็ลาภขนานใหญ่ทีเดียว แต่ลั่วถูกลับดีใจไม่ออกสักนิด
“ข้าไม่เชื่อว่าพิษนี้จะแก้ไม่ได้… ” ลั่วถูสูดลมหายใจลึก เอายาต้านปีศาจทั้งหมดในตัวออกมา จากนั้นกินเข้าไปหมดทั้งกอง ก่อนหน้านี้ร่างของเขาเคยถูกพิษมารจนเกือบตาย แต่ว่าเขายังรอดชีวิตมาได้ ก็เป็เพราะภาพเต่าลึกลับแบกหิน และตอนนี้เขาถูกพิษปีศาจเข้า หรือว่าจะแก้มันไม่ได้แล้ว? คิดได้แบบนี้ เขาก็เริ่มโคจรลมปราณตามวิธีของภาพเต่าลึกลับแบกหินทันที...
“วูม… ” ลั่วถูรู้สึกราวกับถูกเคาะสมองอย่างฉับพลัน ลมปราณที่รุนแรงสายหนึ่งพุ่งไปที่ศีรษะ ทั้งร่างของเขาแทบสลบไปในเสี้ยววินาทีนั้น จมูกมีเืสีดำไหลออกมา พลังของเต่าลึกลับแบกหินในร่างของเขาถูกหยุดลงทันที...
“เป็แบบนี้ได้อย่างไรกัน...” สีหน้าของลั่วถูบิดเบี้ยวไม่น่าชมทันที พิษมารครั้งที่แล้ว พลังของเต่าลึกลับแบกหินสามารถสยบมันได้อย่างง่ายดายแท้ๆ แต่ในเวลานี้กับพิษปีศาจชนิดนี้ แค่เขาเริ่มเคลื่อนพลังของเต่าลึกลับแบกหิน กลับทำให้พิษนี่กำเริบก่อนเวลาเสียได้ ราวกับราดน้ำมันลงกกองเพลิงอย่างไรอย่างนั้น ตอนนี้ลั่วถูเริ่มใจเสีย ไม่กล้าโคจรพลังของเต่าลึกลับแบกหินอีก
“นั่นมันอะไรน่ะ… ” ขณะที่ลั่วถูกำลังเวียนหัวตามัว ในความมืดมิดราวกับได้เห็นแสงดารายิงออกจากศิลาต้นกำเนิดสายหนึ่ง มันโคจรไปมา เหมือนกับไฟที่ะโอยู่บนศิลา ราวกับภูตอย่างไรอย่างนั้น แถมยังแฝงไว้ซึ่งความแปลกประหลาดที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อนอีกด้วย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้