เห็นหลินฟู่อินขอบคุณชายวัยกลางคน หลินซานหลาง หลินเฟินหลินฟางก็พากันขอบคุณเขาด้วย
บุรุษผู้นั้นหัวเราะ “เด็กๆ บ้านหลินนี่สุภาพดีจริงๆ ตาแก่สกุลหลินโชคดียิ่งนัก!”
หลินฟู่อินหยิบเอาเงินห้าอีแปะออกมา ส่งให้ชายวัยกลางคนแล้วกล่าวด้วยความจริงใจ “ขอบคุณท่านลุงที่บอกข้าเ้าค่ะ โปรดอย่าคิดว่าเงินจำนวนนี้น้อยเกินไปเลยนะเ้าคะ นำไปซื้อเหล้าดื่มเถอะ!”
ชายวัยกลางคนไม่นึกว่าเพียงพูดมากสักหน่อยก็จะได้เงินมาถึงห้าอีแปะ จึงอดยิ้มอย่างยินดีไม่ได้ ถูมือไปมาครู่หนึ่งก่อนรับเงินจากหลินฟู่อิน
“ไอ้หยา เ้าหลินสามนี่โชคดีจริงๆ ถึงได้มีบุตรที่กตัญญูเช่นนี้ ได้ยินว่าลูกสาวคนนี้จ่ายเงินเป็น้ำเพื่อตามหาตัว เห็นว่าค้นหาอยู่หลายวันหาไม่เจอก็ไม่ลังเล จ้างคนบ้านเฉียนพ่อลูกให้ช่วยตามหา” ชายชราอีกคนจากหมู่บ้านข้างๆ ถอนหายใจด้วยความอิจฉา
“ใช่แล้ว ์ย่อมไม่ทิ้งบุตรกตัญญู! ในที่สุดก็มีข่าวแล้ว คนยังอยู่เช่นนี้ดียิ่งนัก!” เมื่อมีคนหนึ่งเปิด คนอื่นๆ ที่รอเกวียนต่างก็พากันพูดคุยชื่นชม รู้สึกว่าหลินฟู่อินช่างกตัญญูยิ่งนัก ์จึงประทานพรให้นางได้พบบิดา
หลินฟู่อินเองก็รู้สึกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับท่านพ่อ ขอเพียงคนยังอยู่ก็ดีแล้ว
หลินเฟินเองก็ดีใจไปกับหลินฟู่อิน ทว่านางกลอกตาเล็กน้อย น้ำเสียงเข้มขึ้น “ใช่แล้ว ฟู่อินน้องข้าเป็บุตรที่กตัญญู ได้รับพรจากพระโพธิสัตว์ ยามนี้พบท่านอาสามแล้ว หากเรารู้ว่ายังมีคนหาว่านางเป็ดาวหายนะอยู่อีก เราจะไปกระชากหน้ามันเสีย!”
“เด็กกตัญญูเช่นนี้จะเป็ดาวหายนะได้ยังไง? ใครมันปล่อยข่าวนี้กัน? ตาบอดหรือยังไง?” คนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ
“ข้าต้องกลับไปคุยกับพวกสตรีลิ้นยาวในหมู่บ้านเื่นี้เสียหน่อยแล้ว…”
ชาวบ้านเรียบง่ายเหล่านี้ล้วนแต่เป็คนตรงไปตรงมา ทำให้หลินฟู่อินซาบซึ้งใจยิ่งนัก
ไม่คิดว่าวันนี้ไม่เพียงจะได้รับข่าวของผู้ที่น่าจะเป็ท่านพ่อ ทว่ายังได้ชำระล้างข่าวเื่ดาวหายนะอีกด้วย นับเป็การเก็บเกี่ยวที่ดีมากทีเดียว
ก่อนหน้านี้นางขอให้ย่าหลี่ช่วยจับตามองบ้านของนักทำนายจ้าวเอาไว้ แต่ยังไม่มีเื่อะไรเป็พิเศษ ไม่มีใครเข้าออกเป็พิเศษด้วย
เดิมทีนางคิดจะปล่อยเื่ดาวหายนะอะไรนี่ไปแล้ว เพราะตอนนี้นางเพิ่มชื่อเสียงด้านการปรุงยา อย่างน้อยชาวบ้านในหมู่บ้านหูลู่ก็ไม่มองนางเป็ดาวหายนะอีก…
หลินฟางเห็นคนเหล่านี้พูดแทนหลินฟู่อิน ก็ถือโอกาสเสริม “ท่านปู่ท่านย่า ท่านลุงท่านป้าและพี่สาวทั้งหลาย หลินฟู่อินน้องสาวข้าไม่เพียงไม่ใช่ดาวหายนะ ทว่ายังเป็หมอยาอีกด้วย! หากป่วยเล็กๆ น้อยๆ พวกเราก็ไม่ต้องเข้าเมืองอีกแล้ว ท่านกลับไปบอกต่อเื่นี้เถอะ หากใครอยู่ใกล้ๆ ก็มาที่หมู่บ้านหูลู่เพื่อพบน้องสาวข้าได้!”
หลินฟู่อินเห็นพี่สาวทั้งสองคนพากันร้องพากันรับ ช่วยนางป่าวประกาศขายยากันเต็มที่ก็อดมิได้ให้ยิ้มกว้างออกมา
พี่สาวพี่ชายช่วยเหลือกันและกัน รวมใจกัน รักกันเช่นนี้เป็สัญญาณแห่งความเจริญรุ่งเรืองของครอบครัว
เห็นทุกคนคุยกันว่าหลินฟู่อินไม่ใช่ดาวหายนะเช่นนี้ ชายวัยกลางคนจากหมู่บ้านเหล่าชู่ที่ได้รับผลประโยชน์จากหลินฟู่อินมาห้าอีแปะก็หัวเราะ “ได้ๆ ข้าจะกลับไปคุยเื่ดาวหายนะอะไรนี่กับพวกสตรีลิ้นยาวในหมู่บ้านพวกข้าเสียหน่อย บางทีนักทำนายจ้าวผู้นั้นอาจจะพูดพล่อยๆ หลอกเอาเงินสะใภ้ใหญ่บ้านหลินจริงๆ ก็ได้”
หลินฟู่อินขอบคุณพวกเขา ครั้งนี้หลินซานหลางแอบหายไปเงียบๆ กลับมาอีกครั้งก็มีถุงใส่ถั่วลิสงคั่วเต็มอ้อมแขนเสียแล้ว
“ขอบคุณท่านปู่ท่านย่า ท่านลุงท่านป้า พี่สาวพี่ชายทั้งหลายที่ช่วยหลินฟู่อินน้องสาวข้าชำระข่าวลือขอรับ ถั่วลิสงคั่วเหล่านี้พวกท่านรับไว้กินเล่นเถอะ!”
หลินฟู่อินมองหลินซานหลางด้วยความตกตะลึง เด็กคนนี้ฉลาดจริงๆ!
ถึงจะถูกกักเอาไว้ในบ้านสกุลหลินอยู่หลายปี ทว่ากลับไม่ต้องให้ใครสอน การกระทำดูมีมารยาท ตอบสนองว่องไว กระทั่งนางที่มีิญญาของผู้ใหญ่ก็นึกไม่ถึงว่าเขาจะคิดออก ช่วยนางลงมือเช่นนี้
อย่าได้มองว่าสิ่งเหล่านี้เป็เื่เล็กน้อย หากทำเช่นนี้ ชาวบ้านที่มีจิตใจเรียบง่ายจะช่วยพูดแทนพวกนาง แก้ไขชื่อเสียงเื่ดาวหายนะแทนแน่
อย่ามองว่ามีเพียงคนสองคนที่ช่วย แต่ในชนบทเช่นนี้ ขอเพียงมีคนหนึ่งคนพูดออกไป เื่ย่อมแพร่ไปไวดั่งไฟลามทุ่ง
แน่นอนว่ากระทั่งชื่อเสียงด้านลบ ข่าวไม่ดีทั้งหลายด้วยเช่นกัน ถึงได้มีคำกล่าวว่า เมื่อเื่ผ่านไป สามคนก็กลายเป็เสือ! [1]
แน่นอนว่าชาวบ้านเหล่านี้เห็นหลินซานหลางรู้ความ พูดจาดี ดูเหมือนบัณฑิตเช่นนี้ก็ตกหลุมรักเขาทันที
คนผู้หนึ่งกล่าวออกมา “น้องชายไม่ต้องห่วง เ้าเป็คนบ้านใหญ่สกุลหลิน เด็กสาวสองคนนี้ก็เป็คนบ้านสอง ล้วนแต่ปกป้องแม่หนูบ้านสามเช่นนี้ พวกเรามิใช่คนตาบอด หากนางเป็ดาวหายนะจริง พวกเ้าวิ่งหนีนางยังแทบไม่ทัน จะเอาอะไรมาปกป้องเล่า!”
หลินฟู่อินได้แต่รู้สึกว่าโชคดีจริงๆ แม้ว่าั้แ่มาถึงสกุลหลินจะเต็มไปด้วยเื่เลวร้าย ทว่านางก็ยังได้สายสัมพันธ์ครอบครัวและมิตรภาพมาด้วย
วันนี้สามพี่น้องสกุลหลินร่วมมือกันช่วยเหลือนางเช่นนี้ ทำให้นางรู้สึกว่าการที่คอยช่วยเหลือพวกเขาที่ผ่านมาคุ้มค่าแล้ว
ยังทำให้นางเชื่อมั่นมากขึ้นว่าจะต้องพาทุกคนไปสู่ความร่ำรวยให้ได้!
เพราะเงินที่ได้จากการขายไข่ในวันนี้ หลินฟู่อินจึงเชิญทั้งสามมาทานอาหารดีๆ ด้วยกันที่บ้านนางสักมื้อในตอนเที่ยง เมื่อคนเราได้ฝ่าพายุร่วมกันมาสักครั้ง สายสัมพันธ์ย่อมดีขึ้น
เมื่อมาถึงประตูบ้าน นางก็เห็นว่าบานประตูถูกเปิดทิ้งไว้
หลินฟู่อินนิ่วหน้า ปกติย่าหลี่ไม่มีนิสัยเปิดประตูทิ้งไว้…
ทันทีที่พาพี่ๆ ทั้งสามเข้ามาในสวน หลินฟู่อินก็เห็นลุงสองและป้าสะใภ้เฟิงซื่อนั่งอยู่ในบ้าน สีหน้าคล้ายมีอะไรเกิดขึ้น เฟิงซื่อเอาแต่ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา ย่าหลี่ยืนอยู่ข้างๆ คอยปลอบใจ
เมื่อหลินเฟินหลินฟางเห็นเช่นนี้ก็พากันแตกตื่น สาวเท้าวิ่งเข้าไปในตัวบ้าน
“ท่านพ่อ ท่านแม่ เหตุใดจึงมาบ้านของฟู่อินเ้าคะ?” ดวงตาหลินเฟินฉายแววกังวล
เห็นว่าลูกสาวทั้งสองกลับมาแล้ว หลินฟู่อินก็เช่นกัน เฟิงซื่อก็คล้ายจะหยุดสะอื้นได้ นางลุกขึ้นยืนทันที หยาดน้ำตาหลั่งรินตามแก้ม
“โอ! ข้าไม่รู้ว่าข้าทำบาปอะไรไว้… ท่านตาของพวกเ้ามาหาข้าเมื่อเช้า บอกว่าวันมะรืนเป็วันมงคล ถือเป็ฤกษ์วางคานบ้าน จะให้วางคานบ้านวันมะรืน…” เฟิงซื่อสะอึก พูดไม่ค่อยชัดเจนนัก
หลินฟู่อินรู้สึกยินดีขึ้นมา ทว่าปลอบเฟิงซื่อก่อน “ท่านป้าสอง วันมะรืนวางคานบ้าน นับเป็เื่ดีเื่ใหญ่นะเ้าคะ อย่าร้องไห้เลย!”
“แต่! บ้านหลินนั่นไม่คิดจะให้ข้าได้มีวันดีๆ เลยสักวัน!” น้ำเสียงเฟิงซื่อคมปลาบขึ้นมา ชี้ไปที่หลินต้าเหอแล้วตวาด “ล้วนเป็เพราะเ้าไร้ความสามารถ วันมงคลของพ่อข้าเป็วันดี ให้ไปบอกพ่อแม่เ้าพี่ใหญ่เ้าให้มาทานอาหารเย็นวันมะรืน คนพวกนั้นกลับบอกว่าวันนั้นคนบ้านแม่ข้าไม่ควรมา แล้วเ้า… เ้ายังไปฟังคำพวกนั้นอีกหรือ?”
น้ำเสียงเฟิงซื่อเต็มไปด้วยความเสียใจ เสียงสูงขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาแดงก่ำจ้องลุงสอง
ลุงสองเกาหัวด้วยสีหน้าเ็ป ไม่กล้ามองหน้าเฟิงซื่อและลูกๆ ทั้งสองคน
หลินฟู่อินฟังแล้วก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้นางโมโหขึ้นมาเช่นกัน ดูเหมือนบ้านใหญ่นั่นจะไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ
—-------------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] เมื่อเื่ผ่านไป สามคนก็กลายเป็เสือ หมายถึง ข่าวลือที่ใหญ่โตเกินความจริง เช่น จากตอนแรกที่เป็สามคน แต่เมื่อถูกเล่าลือผ่านคนหลายคน จากคนสามคนก็กลายเป็เสือ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้