เมื่ออำลาหลินหว่านหรูแล้ว พวกเจียงไป๋ก็รีบไปที่โรงงานเก่าๆ ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง
ตลอดทางเจียงไป๋ไม่ได้หยุดพัก เขาพบว่าตนเองกำลังตกอยู่ในอันตราย เห็นได้ชัดว่าจางฉางเกิงแตะไม่ได้ง่ายๆ จุดนี้มองออกได้อย่างชัดเจนจากอาการของฉวีเจี๋ย
ปรมาจารย์วูซูจีนที่ร้ายกาจผิดปกติ จนอาจเรียกได้ว่าเป็หุ่นยนต์ แต่ตอนนี้ก็มาถึงขีดจำกัดของร่างกายแล้ว เขายังคงเป็มนุษย์ และการเป็มนุษย์ก็ต้องมีขีดจำกัด ปรมาจารย์ฝ่ามือแปดทิศในปีนั้นอย่างเฉิงถิงหัวก็ไม่ใช่ว่าตายในดงปืนหรือ?
ถึงเจียงไป๋จะเก่งกาจ แต่จางฉางเกิงนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะแตะได้ง่ายๆ บุคคลที่เป็ใหญ่ในเทียนตูมีใครบ้างที่ขึ้นมาได้ง่ายๆ?
โดยเฉพาะเศรษฐีใหญ่อย่างจางฉางเกิงก็เป็เช่นนั้น
พูดตามตรงว่านอกจากฝีมือแล้ว ไม่ว่าจะพิจารณาจากด้านไหน เมื่ออยู่ต่อหน้าจางฉางเกิงแล้วเจียงไป๋ก็คงถูกจัดการได้ไม่ยากนัก นอกจากว่าเจียงไป๋เตรียมที่จะสู้กันจนตายไปทั้งคู่ หากไม่พุ่งไปฆ่าเขาจนเืนอง เจียงไป๋ก็คงจะไร้ที่ยืน และก็คงทำได้แค่ต้องรีบจัดการเื่นี้ให้ถึงที่สุด ด้วยเหตุนี้เจียงไป๋จึงต้องจับจางเทียนอั๋งไว้
แต่เมื่อพิจารณาจากอีกด้านหนึ่ง ถึงจางเทียนอั๋งจะอวดดีไร้ยางอาย แต่ก็เพราะมีคุณสมบัติบางอย่าง
“จะต้องรีบคิดหาทางแล้ว”
ถึงปรมาจารย์วูซูจีนจะร้ายกาจ แต่ก็ไม่ได้ไร้เทียมทาน การจะสู้กับคนร้อยคนด้วยตัวคนเดียวก็ไม่ใช่ปัญหา แต่หากสองร้อยล่ะ? สามร้อยล่ะ? ถ้าคนสองสามร้อยคนยืนอยู่ตรงนั้นให้เจียงไป๋จัดการ ก็จะทำให้เจียงไป๋เหนื่อยได้ ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังมีปืนอีกด้วย!
ตลอดทางเจียงไป๋กำลังครุ่นคิดถึงปัญหานี้ แต่เขาก็ไม่พบวิธีแก้ไขที่เหมาะสม เขาคิดว่านอกจากสู้กันจนตาย ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
“ครั้งก่อนยังมีแต้มบารมีที่ไม่ได้ใช้อีกเจ็ดร้อยกว่าแต้ม ครึ่งเดือนมานี้ก็สะสมได้อีกหนึ่งพันกว่าแต้ม รวมๆ กันจนครบสองพันแต้ม จับรางวัลขั้นต้นได้สองครั้ง เดิมทีอยากจะเหลือไว้ แต่ตอนนี้คงเก็บไว้ไม่ได้แล้ว”
ตอนนี้สิ่งเดียวที่เจียงไป๋จะพึ่งพาได้ก็มีแค่ระบบแล้ว ถึงแม้การจับรางวัลขั้นต้นจะแย่มาก แต่ก็ยังดีกว่าใช้แต้มบารมีซื้อ ซึ่งสิ่งของที่แต้มบารมีสองพันแต้มสามารถซื้อได้ในเวลานี้มีข้อจำกัดต่อการช่วยเหลือเจียงไป๋ เขาจึงทำได้แค่ฝากความหวังไว้กับโชคชะตาเท่านั้น
“หมุน!”
เครื่องสล็อตแมชชีนที่เพิ่งจะปรากฏอยู่เบื้องหน้าหมุนไปอย่างบ้าคลั่ง …
หลังจากผ่านไปยี่สิบสามสิบวินาทีก็หยุดลง และหยุดตรงช่องสีดำ ซึ่งทำให้เจียงไป๋หน้าเสียทันที ช่องสีดำแสดงว่าไม่มีรางวัล นี่มันผีซ้ำด้ำพลอยชัดๆ!
“ดังคำโบราณพูดไว้ไม่มีผิด โชคดีไม่มีมาต่อเนื่อง แต่โชคร้ายนี่สิมาให้เห็นติดๆ ดูแล้ววันนี้ฉันคงจะเคราะห์ร้ายแล้วจริงๆ”
เจียงไป๋ฝืนยิ้ม เขาทำได้แค่หมุนเครื่องสล็อตแมชชีนต่ออย่างจำใจ
ลูกธนูที่ยิงออกไปแล้วไม่สามารถเอากลับมาได้ เวลาอย่างนี้ก็ทำได้แค่ฝืนเลือกอีกครั้ง และยังคงไม่มีช่องสีม่วงที่เจียงไป๋หวังปรากฏออกมา ช่องสูงที่สุดยังคงเป็สีฟ้า
“ชิ้ว ชิ้ว ชิ้ว … ”
ในระหว่างที่เจียงไป๋ลุ้นจนตาแดงก่ำ เครื่องสล็อตแมชชีนเริ่มหมุนไปอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นความเร็วก็เริ่มลดลงอย่างช้าๆ และตกลงที่ช่องสีฟ้าอย่างไม่รู้ตัว
“ยินดีด้วย หนุ่มน้อย ได้รับการ์ดเทพาหนึ่งใบ สามารถใช้ทักษะเทพาเข้าสิงร่างได้สามสิบวินาที ภายในสามสิบวินาทีจะอยู่ในสถานภาพที่ไร้เทียมทานที่สุดในโลกมนุษย์ ฟันแทงไม่เข้า ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ รวดเร็วราวกับสายลม ดุเดือดราวกับสายฟ้า พละกำลังดุจเคลื่อนขุนเขาหาผู้เทียมทานมิได้! หลังจากสามสิบวินาทีก็จะยกเลิกไปเอง ไม่มีผลข้างเคียง”
เสียงเตือนของระบบดังขึ้นในหัวของเจียงไป๋ ทำให้เขาตาลุกวาว
ของที่ได้จากระบบเป็ของชั้นเยี่ยมแน่นอน นี่ก็ทำให้เจียงไป๋ตาลุกวาว โดยเฉพาะประโยคนั้น “พละกำลังดุจเคลื่อนย้ายขุนเขาหาผู้เทียมทานมิได้” ทำให้เขาที่เดิมทีไม่มีความมั่นใจ กลับมีความมั่นใจขึ้นมาทันที
“โทรศัพท์ไปหาจางฉางเกิง ให้เขามารับคนไป บอกเขาว่าอย่าแจ้งความ ฉันจะรอเขาอยู่ตรงนี้ เขาอยากจะพาคนมาเท่าไรก็ได้ หากวันนี้เขาสามารถจัดการฉันได้ ก็แล้วแต่จะลงโทษฉันเลย”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเจียงไป๋ก็มาถึงที่หมายแล้ว พอลงจากรถเขาก็บอกกับฉวีเจี๋ย
“นี่ … ”
ฉวีเจี๋ยเบิกตากว้างมองเจียงไป๋อย่างไม่เชื่อนัก
เมื่อครู่ระหว่างทางเขาก็คิดถึงความเป็ไปได้ต่างๆ นานา แต่เื่นี้เป็เื่เดียวที่เขาคิดไม่ออก แล้วจะให้โทรศัพท์หาจางฉางเกิงให้เขามา? ทั้งยังพาคนมาเท่าไรก็ได้?
อาจารย์ กลอุบายไม่ถูกนะ!
ไม่ใช่ว่าควรจะใช้ชีวิตของจางเทียนอั๋งมาข่มขู่จางฉางเกิง หลอกให้เขามาคนเดียว และลงมือจัดการพวกเขาสองพ่อลูก หลังจากนั้นก็จะเป็อิสระ?
แย่ที่สุดก็ควรจะถือโอกาสตอนที่มีตัวประกันอยู่ในมือ เชิญคนที่มีบารมีที่สุดมาไกล่เกลี่ย เื่นี้ก็ขอโทษขอโพยเลิกแล้วกันไป ระหว่างทางฉวีเจี๋ยคิดดีแล้วว่าจะเชิญอาจารย์มาออกหน้าไกล่เกลี่ย เพียงแค่ทางฝ่ายพวกเขาขอโทษขอโพยก็คงพอแล้ว
หรือว่าทั้งสองฝ่ายเปิดศึกกัน ฆ่ากันะเืฟ้าดิน จะสู้กันจนฟ้าดินถล่มทลายก็ได้ …
เขาคิดถึงความเป็ไปได้ต่างๆ นานา แต่อย่างเดียวที่คิดไม่ถึงก็คือเจียงไป๋จะให้เขาทำอย่างนี้!
“นี่ … นี่ไม่ใช่ว่าไปรนหาที่ตายหรือ?”
ถึงฉวีเจี๋ยจะไม่กลัวตาย และไม่หวาดกลัว ทว่า … นี่เป็เื่ไปรนหาที่ตายเสียเปล่า เขาก็เลยไม่อยากจะทำ
“ลูกพี่เื่นี้ … ” ฉวีเจี๋ยลังเล
“ไม่เป็ไร ผมมีวิธีจัดการ!”
เจียงไป๋พูดแทรกฉวีเจี๋ยอย่างไม่สนใจ ทำให้ฉวีเจี๋ยที่เป็กังวลไม่พูดต่อ เขาโทรศัพท์ไปหาจางฉางเกิงโดยผ่านคนอื่นตามคำสั่งของเจียงไป๋ แล้วบอกไปว่าเจียงไป๋ไม่อยากแหย่ให้โกรธ แต่ก็อยากจะพบจางฉางเกิงสักหน่อย ตอนนี้อยู่ที่โรงงานร้างชานเมือง แล้วแต่จางฉางเกิงจะเรียกกำลังคนมาสู้กันสักตั้ง
จริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าไม่อยากแหย่ให้โกรธ เจียงไป๋ก็เป็พลเมืองดีที่เคารพกฎหมายจากใจจริง และก็ไม่ได้รู้สึกว่าพลังของเขาสามารถรับมือกับกฎหมายของประเทศได้
เขากลับอยากจะสู้กับพวกนั้นในทางกฎหมาย แต่ปัญหาคือตอนนี้เจียงไป๋ยังไม่มีความสามารถอย่างนั้น หากแค่ครั้งเดียวผ่านวิธีการที่ถูกกฎหมายก็สามารถทำให้จางฉางเกิงอ่อนน้อมว่านอนสอนง่ายและบ้านแตกสาแหรกขาดได้ จำเป็หรือที่เขาจะต้องลงมือเอง? แต่จางฉางเกิงกลับมีเส้นสายมากมาย และสามารถยัดข้อหาอะไรก็ได้ให้เจียงไป๋อย่างง่ายดาย ซึ่งก็ทำให้เจียงไป๋จำเป็ต้องวางอุบายแบบนี้แทน
ฉวีเจี๋ยก็โสด ในเมื่อตัดสินใจที่จะเจอกับจางฉางเกิงแล้ว เช่นนั้นก็ทำให้เื่ยิ่งใหญ่ยิ่งดี ทำให้มันพลิกฟ้าพลิกดินไปเลย
หาคนไปส่งข่าวให้จางฉางเกิง และหาคนรับสืบข่าวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเทียนตู หรือพวกเสียงดังอย่างลำโพงขยายเสียง
ดังนั้นตอนที่จางฉางเกิงได้รับข่าว คนใหญ่คนโตในเทียนตูต่างก็รู้เื่นี้กันแล้ว ผิวน้ำที่เงียบสงบอย่างเทียนตูก็ะเิออกราวกับน้ำมันแตกในกระทะแล้ว
จางฉางเกิงเป็ใคร?
ผู้มีอิทธิพลในเทียนตู!
ทั้งเทียนตูคนที่กล้างัดข้อกับเขา ทั้งด้านมืดด้านสว่างรวมกันยังไม่ถึงสิบ มีคนไหนบ้างที่ไม่ใช่บุคคลที่แค่ขยับทั้งเทียนตูก็สั่นไหวแล้ว?
กี่ปีแล้วที่ไม่มีใครกล้าแข่งกับเขา จำได้ว่าสองสามปีก่อนตงเป่ยมีเ้าพ่อคนหนึ่ง้าจะสู้กับจางฉางเกิง ก็ไม่ใช่ว่าพ่ายแพ้กลับไป แถมยังขายหน้าไปทั่วเหมือนกัน
หลายปีมานี้พวกอิทธิพลมืดที่ล่วงเกินเขาก็ใช่ว่าจะไม่มี แต่มีใครบ้างที่ไม่ถูกแยกศพถ่วงน้ำ?
ตอนนี้เจียงไป๋ที่เพิ่งจะโดดเด่น ซึ่งเมื่อก่อนไม่รู้ว่าเป็ใครมาจากไหน คิดไม่ถึงว่าจะมีเื่กับจางฉางเกิงได้?
และยังจับลูกชายสุดที่รักของจางฉางเกิงไว้ แถมยังป่าวประกาศอีกว่าจะปะทะกับจางฉางเกิง? แล้วแต่เขาจะพาคนมาอีกด้วย?
นี่ … ทั้งเทียนตูต่างรู้สึกวุ่นวายขึ้นมาทันที
ไอ้คนที่ชื่อเจียงไป๋กับนักเลงโตที่ชื่อฉวีเจี๋ยคิดอะไรกัน? พวกเขาเสียสติไปแล้วหรือ?
หลายปีมานี้จางฉางเกิงเลี้ยงคนไว้เท่าไร?
ในธุรกิจเถื่อนที่มีอยู่เ่าั้มีพวกเดนตายอยู่เท่าไร?
ทั้งเทียนตูบวกกับเมืองที่อยู่โดยรอบคนที่หากินอยู่กับเขาอย่างน้อยก็มีนับพันคน ในนี้ก็มีพวกมีฝีมือที่แท้จริงอยู่จำนวนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าป่าวประกาศอย่างนี้?
“หากมันไม่บ้า แล้วจะเรียกว่าอะไร?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้