เย่ชิงเฉิงหยิบกินอีกไม้อย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย ไม้แล้วไม้เล่า กินไปสิบกว่าไม้แล้ว และยังเรอออกมา ทั้งยังจะใช้มือเช็ดคราบที่ติดอยู่มุมปากอีก เธอมองเจียงไป๋อย่างพึงพอใจ
หากให้คนของวิทยาลัยภาพยนตร์ตี้ตูมาเห็นเธอในสภาพนี้แล้วล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะมีคนมากเท่าไรที่ใจนแว่นแตก
แม่เทพธิดาของวิทยาลัยคนนี้คิดไม่ถึงว่าจะมารูดไม้ปิ้งย่างกินตอนกลางค่ำกลางคืน และยังกินอย่างเอร็ดอร่อย หากรู้ั้แ่แรกว่าเอาใจง่ายขนาดนี้ เมื่อก่อนยังจะคิดอะไรมากมาย แล้วยังถูกคนอื่นปฏิเสธอย่างสาดเสียเทเสียอีก
“ฉันกินอิ่มแล้ว พี่เจียงไป๋ พวกเราไปกันเถอะ พวกเราไปนอนกัน!”
หลังจากที่กินอิ่มแล้ว เย่ชิงเฉิงก็ยื่นมือออกมาอย่างยิ้มแย้ม จนทำให้ผู้คนที่อยู่ข้างๆ อิจฉา
เดิมทีพวกเขาสองคนนั่งอยู่ตรงนี้ก็ทำให้ผู้คนเหลือบมองกันแล้ว คนที่อยู่โต๊ะข้างๆ สองคนมองเย่ชิงเฉิงไม่หยุด และตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ชิงเฉิงแล้ว เืยิ่งพุ่งขึ้นไปใหญ่
ถึงแม้เจียงไป๋จะรู้ว่าจริงๆ แล้วเย่ชิงเฉิงไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่คนอื่นเขาไม่รู้กัน
สักพักก็มีสายตาที่อิจฉาจนแทบจะฆ่าคนได้เล็งมาที่เจียงไป๋ ทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก
“เหอะๆ เถ้าแก่คิดเงิน” เจียงไป๋กล่าวอย่างอึดอัด และรีบพูด
“อย่าเพิ่งไปสิ สหายจะรีบคิดเงินไปทำไม? นั่งลงดื่มสักหน่อยไหม? ทำไมจะรีบไปสนุกกับสาวสวยคนนี้หรือ? ฮ่าๆ พาพวกเราไปด้วยดีไหม?”
จู่ๆ เสียงที่แหบแห้งและหยอกเย้าเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น โต๊ะข้างๆ คือผู้ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตลายดอก อายุยี่สิบกว่าปีคนหนึ่ง เขายืนขึ้น และพูดจาแทะโลมเย่ชิงเฉิง
ไอ้คนนี้แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร ยั่วยุจนทำให้สีหน้าเย่ชิงเฉิงแปรเปลี่ยน เจียงไป๋จึงลุกเดินเข้าไป
“ไสหัวไป!”
เจียงไป๋ปัดมือไล่ และไม่อยากจะเสวนากับนักเลงหัวไม้แบบนี้ เขาโยนเงินไปสองร้อยหยวนแล้วจูงเย่ชิงเฉิงเตรียมที่จะออกไปจากร้านนี้
“ให้ตายสิ แกว่าอะไรนะ! แกรนหาที่ตายซะแล้ว!”
เจียงไป๋เพิ่งจะพูดจบ คนเจ็ดแปดคนของโต๊ะข้างๆ ก็ยืนขึ้นทันที แต่ละคนเดินเรียงกันออกมา และล้อมพวกเจียงไป๋ไว้
“นาย … พวกนาย้าอะไร?”
เย่ชิงเฉิงที่หลบอยู่ด้านหลังของเจียงไป๋เห็นเหตุการณ์นี้ก็หวาดกลัวอยู่บ้างพลางถามด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว และจับมือเจียงไป๋ไว้แน่น
“้าอะไรหรือ? เดิมทีอยากจะสนุกกับพวกเธอสักหน่อย แต่แฟนหนุ่มของเธอคนนี้ช่างอวดดีเกินไปแล้ว วันนี้จะไม่จบแบบนี้แน่! คนสวย นอกจากว่าเธอจะมาสนุกเป็เพื่อนพวกเรา ไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะไม่เกรงใจ … ”
เ้าหัวล้านคนหนึ่งในกลุ่มนี้หัวเราะเสียงดังพลางพูดหยอกล้อ
“ไสหัวไป!”
เจียงไป๋พูดอย่างหงุดหงิด
นักเลงปลายแถวแค่ไม่กี่คนเขาจะสนใจหรือ?
คนพวกนี้ไม่ได้เก่งจริง ก็แค่ปากสุนัขไม่รับประทาน ปล่อยให้พวกเขาอวดดีอยู่ที่นี่ไปก่อน ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะปากดีได้อีกนานแค่ไหน ดังนั้นเจียงไป๋จึงไม่เกรงใจ และถีบตรงไปที่เ้าหัวล้านจนปลิวออกไปทันที
เขาปลิวออกไปตกในตำแหน่งที่ไกลสี่ถึงห้าเมตร ส่วนซี่โครงก็ถูกเจียงไป๋ถีบหักไปหลายท่อนแล้ว
จนทำให้พวกนักเลงตรงหน้าตะลึงงันไปเลยทีเดียว และมองเจียงไป๋ที่อยู่ตรงหน้าอย่างตะลึง ไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว แล้วก็ยอมปล่อยให้พวกเจียงไป๋ออกไปจากร้านนี้
“เื่ต่อยตี! พี่เจียงไป๋ นอกจากพี่สาวฉันแล้ว พี่ก็เป็คนแรกที่ช่วยฉัน! แค่ครั้งเดียวก็ถีบปลิวไปหนึ่งคน เก่งกาจพอๆ กับพี่สาวของฉันเลย! พี่เป็คนเขียนบทไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้กลายเป็ยอดฝีมือแห่งยุทธภพไปได้? พี่ทำได้อย่างไร? สอนฉันหน่อยได้ไหม? ฉันก็อยากเรียนเหมือนกัน แต่พี่สาวไม่ยอมสอนฉัน”
ทั้งสองคนเพิ่งจะออกมาได้ไม่นาน เย่ชิงเฉิงก็โผเข้ามาอุทานอย่างชมเชย สายตาเป็ประกาย เซ้าซี้ให้เจียงไป๋สอนเธอต่อสู้ ทำให้เจียงไป๋กลอกตาใส่
“กริ๊งๆ กริ๊งๆ”
จู่ๆ เสียงเรียกเข้าที่น่าฟังของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เย่ชิงเฉิงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง สักพักก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่ใส่เคสสีชมพูออกมามองดูแวบหนึ่ง “แย่แล้ว พี่เจียงไป๋ เป็เพื่อนของฉัน!”
“รับสิ” เจียงไป๋ก็ตะลึงเช่นกัน
“ชิงเฉิง เธอหนีไปไหน! เธอนี่จริงๆ เลยเชียวผู้กำกับก็แค่อยากจะดื่มเหล้ากับเธอเอง ทำไมเธอถึงหนีออกไป? เธออยากจะอยู่ในวงการการแสดง คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่รู้ว่าควรจะสร้างความสัมพันธ์กับผู้กำกับอย่างไร … ตอนนี้ผู้กำกับและพวกสตาฟฟ์กองถ่ายอีกสองสามคนโกรธมาก บอกว่าจะบล็อกเธอจากวงการนี้ ฉันพยายามพูดกับผู้กำกับอยู่นานกว่าจะดีขึ้นได้ เธอรีบมาขอโทษผู้กำกับเลย ไม่อย่างนั้นบทที่ได้ก็จะไม่มีแล้ว และต่อไปก็จะอยู่ในวงการนี้ได้ยาก! กับผู้ชาย เธอก็แค่ยอมเขานิดๆ หน่อยๆ จะกลัวอะไร!”
เพิ่งจะเปิดโทรศัพท์มือถือ เสียงผู้หญิงชัดแจ๋วก็ดังมา และมีความเจ็บใจอยู่บ้าง
นอกจากเสียงของเธอ ยังมีเสียงดนตรีดังสนั่น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
“ฉันไม่เอา ฉันไม่ไปหรอก!” เย่ชิงเฉิงตอบอย่างไม่ต้องคิด
“เธออยู่ที่ไหน? เดี๋ยวพวกเราจะไปหา!” เจียงไป๋แย่งโทรศัพท์มือถือไปคุย
บล็อกจากวงการนี้หรือ?
ช่างกล้าพูดจริงๆ
“สถานบันเทิงฟู่เหา KTV306 นายเป็ใคร? ชิงเฉิงล่ะ?”
อีกฝ่ายพูดแล้ว หลังจากนั้นเหมือนจะรู้สึกถึงอะไร จึงอดไม่ได้ที่จะถาม
เจียงไป๋วางสายอย่างไม่สนใจเธอ และจูงมือเย่ชิงเฉิงเดินไปริมถนนแล้วเรียกรถคันหนึ่ง หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่สถานบันเทิงฟู่เหา และตรงเข้าไปที่ห้องส่วนตัว
เพิ่งจะเข้าประตูมา สิ่งแรกที่เห็นคือชายหญิงที่กำลังเมามายกลุ่มหนึ่ง มีผู้ชายผู้หญิงสิบกว่าคน เวลานี้ก็ดื่มกันจนเมามายแล้ว สายตาเหม่อลอย ในมุมมีสองคู่กำลังจูบกันอย่างเร่าร้อน เป็ฉากที่ไม่น่าดูอย่างมาก
เจียงไป๋จูงมือเย่ชิงเฉิงที่ตัวสั่นเดินเข้าประตูมา ก็มีผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดคนหนึ่งเห็นเย่ชิงเฉิงเข้า
เวลานี้เธอกำลังพิงอยู่ข้างกายชายวัยกลางคนที่อ้วนพุงโต และสวมแว่นตาคนหนึ่ง เมื่อเห็นเย่ชิงเฉิงเข้ามา เธอก็ยืนขึ้นทันที “ชิงเฉิง เธอมาได้สักที เมื่อครู่ผู้กำกับเยียนยังพูดถึงเธออยู่เลย เธอนี่มันสาวน้อยไร้เดียงสาเกินไปจริงๆ มา รีบมาขอโทษผู้กำกับเยียน!”
เธอพูดๆ อยู่ก็จะมาลากเย่ชิงเฉิงไป ในขณะเดียวกันก็ยังไม่วายพูดประจบชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ว่า “ผู้กำกับเยียน ชิงเฉิงของพวกเราก็เป็ดาวคนหนึ่งของวิทยาลัยภาพยนตร์ตี้ตูเลยนะ คุณจะต้องเอ็นดูเธอหน่อย สาวน้อยยังไม่เคยมีแฟน เมื่อครู่น่าจะเขินอายอยู่บ้าง รับรองว่าจะให้มาอยู่เป็เพื่อนคุณดีๆ!”
สำหรับเจียงไป๋ ไม่รู้ว่าเธอดื่มจนเมาแล้วหรือว่าอย่างไร เหมือนเธอจะไม่เห็นเขา และเลือกที่จะมองข้ามไป
“ฮ่าๆ ได้ ได้ สาวน้อยคนนี้เริ่มมีความคิดความอ่านแล้วก็ดี!วางใจ วางใจฉันไม่ติดใจเอาความหรอก ฮ่าๆ ฉันจะทะนุถนอมเธอให้ดีเลย!”
ผู้กำกับเยียนคนนี้โบกมือพูดอย่างอาจหาญ ราวกับว่าไม่ใส่ใจเื่ก่อนหน้านี้เลยด้วยซ้ำ เขาพูดคำนี้ออกมาอย่างสองจิตสองใจ จนทำให้ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ สองสามคนอิจฉา
“คุณไม่ติดใจ! แต่ผมติดใจ!”
เวลานี้เสียงของเจียงไป๋ดังขึ้น
ไม่รู้ว่าเขาเดินมาอยู่ข้างๆ ผู้กำกับเยียนั้แ่เมื่อไร แต่วินาทีต่อมาขวดเหล้าขวดหนึ่งก็ตีเข้าที่หัวล้านของผู้กำกับเยียนจนแตกแล้ว …
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้