อันธพาลทั้งสามเป็เพียงปลาซิวปลาสร้อยของแก๊งอสรพิษ์ พวกมันมาพาเย่เฟิงกลับไปให้ ‘พี่เถี่ย’ ผู้ถูกปาก้อนอิฐใส่หน้าระบายความแค้น ดังนั้น คนเหล่านี้จึงไม่มีฝีมือมากนัก เทียบไม่ได้กับกลุ่มชายขี้เมาเมื่อคืน
เมื่อเห็นชายอีกสองคนจะลงมือ เย่เฟิงก็เริ่มปล่อยพลังลมปราณไหลไปทั่วร่างกาย พลังชี่มารวมกันที่หมัดทั้งสองข้าง เขาปล่อยหมัดอันสวยงามสองครั้งติดต่อกันโดยไม่ต้องคิด
หมัดแปดทิศ!
หมัดซ้ายต่อยท้องคนหนึ่ง ขณะที่หมัดขวาต่อยอกอีกคน เสียง “ปัง!” ดังสองครั้ง อันธพาลทั้งสองกระเด็นไปคนละทางจนฝุ่นตลบ เหล่านักเรียนเห็นพวกเขาถูกเย่เฟิงทำร้าย อีกทั้งบนพื้นมีเืกองหนึ่ง ก็สงสัยว่ามันเป็ของใคร
เย่เฟิงใช้แค่สองหมัดก็จัดการพวกมันกระเด็นแล้วเหรอ!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าประตูโรงเรียนทำให้พวกเขาตกตะลึง
ซูเมิ่งหานเบิกตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ เธอไม่คิดเลยว่าพวกอันธพาลจะถูกต่อยจนลอยโดยนักเรียนชายธรรมดาคนหนึ่ง มันน่าใเกินไป!
เมื่อคืน การขว้างก้อนอิฐใส่ชายขี้เมาแล้วพาเธอหนี เป็สิ่งที่คนทั่วไปทำได้ แต่การกระทำของเย่เฟิงตอนนี้ ทำให้เขาดูต่างจากเมื่อก่อนมาก
เถียนโหย่วเลี่ยงซึ่งยืนอยู่ข้างซูเมิ่งหานเห็นเย่เฟิงจัดการคนของแก๊งอสรพิษ์ได้อย่างง่ายดายถึงกับอ้าปากค้าง เขาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย นี่ใช่ไอ้เด็กยากจนที่เอาแต่โดดเรียนไปเข้าร้านเกมออนไลน์หรอ? ต้องมีแรงมากแค่ไหนถึงต่อยชายร่างโตสองคนลอยบนอากาศแบบนั้นได้?
นักเรียนรอบข้างต่างชี้ชวนกันดูเย่เฟิง ใบหน้าของพวกเขาล้วนแสดงความประหลาดใจอย่างปิดไม่มิด ขนาดผู้ชายที่โตเต็มวัยแล้วยังไม่สามารถทำแบบนี้ได้ เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันจึงไม่มีใครถ่ายวิดีโอทันสักคน เพียงถ่ายรูปได้ไม่กี่รูป ในยุคที่การสื่อสารพัฒนาเช่นนี้ เชื่อได้เลยว่าทุกคนในโรงเรียนมัธยมปลายเยี่ยนและระแวกใกล้เคียงจะรู้เื่ในไม่ช้า
ที่ประตูโรงเรียน รปภ.คนดังกล่าวยังคงตกตะลึง เขาเตรียมตัวโทรเรียกรถพยาบาลอยู่ตลอด แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่อยากเชื่อว่าเด็กนักเรียนธรรมดาจะสามารถจัดการอันธพาลจากแก๊งอสรพิษ์ได้อย่างง่ายดายด้วยตัวคนเดียว
“จบแล้ว นี่มันจบสิ้นแล้ว นักเรียนคนนี้มีเื่กับแก๊งอสรพิษ์เข้าแล้ว ไม่แน่วันหนึ่งเขาอาจหายตัวไป…” แม้รปภ.ของโรงเรียนจะประหลาดใจที่เย่เฟิงมีพลังเยอะขนาดนี้ แต่ยังคงส่ายหัวอย่างสงสาร เด็กหนุ่มอายุยังน้อยและหุนหันพลันแล่นเกินไป
บริเวณนั้นไม่ได้มีแค่รปภ. ที่คิดเช่นนี้ แต่ถ้าคนเ่าั้รู้ว่าเย่เฟิงคิดอะไร พวกเขาคงใจนฉี่ราดแน่!
“พวกแก๊งอสรพิษ์นี่ชอบสร้างปัญหาเสียจริง เห็นทีต้องหาทางถอนรากถอนโคนพวกมันให้หมด…”
ขณะเดินผ่านซูเมิ่งหานและเถียนโหย่วเลี่ยงเพื่อเข้าโรงเรียน เย่เฟิงไม่คิดจะมองพวกเขาเลย ชายหนุ่มคิดในใจ ั้แ่เด็ก อาจารย์คนสวยสอนเขาเสมอว่า ใครก็ตามแสดงการคุกคามต่อเขา เขาต้องจัดการพวกมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็ไปได้ และห้ามปล่อยพวกมันไปเด็ดขาด! นี่คือกฎพื้นฐานของการเอาตัวรอดในโลกเทวะ
“ฮึ! ภูมิใจอะไรของเขา?” เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่มองเธอเลย ซูเมิ่งหานก็นึกเคืองในใจ
เธอและเย่เฟิงเรียนอยู่ห้องเดียวกัน จึงได้แต่เดิมตามเขาไป ต้องเห็นแผ่นหลังของอีกฝ่ายตลอดทาง ทำให้เธออารมณ์เสียมาก แต่เมื่อเห็นชายหนุ่มไม่เป็ไรก็โล่งใจเล็กน้อย ถึงเขาเป็แค่เพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่ถ้าถูกพวกอันธพาลทำร้าย เธอคงทนไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นเย่เฟิงต้องมีเื่กับแก๊งอสรพิษ์ก็เพราะช่วยเธอ
…………
ขณะนี้ห้องเรียนมัธยมปลายปีที่ 6 กำลังครึกครื้น เมื่อเย่เฟิงเดินเข้ามา เพื่อนร่วมชั้นทุกคนในห้องต่างมองเขาอย่างกับมองสัตว์ประหลาด เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นแพร่ไปทั้งชั้นเรียนแล้ว
“เสี่ยวมี่เฟิง ไม่คิดว่านายจะร้ายกาจขนาดนี้ ซ่อนคมนี่หว่า” น้ำเสียงเ้าเล่ห์ดังขึ้น เย่เฟิงหันไปทางต้นเสียงและเห็นเพื่อนสนิทของเขา
ชายหนุ่มคนนั้นมีชื่อว่า ‘โอวบี’ เป็คนหนุ่มแท้ๆ แต่ผมกลับขาวไปแล้วครึ่งหัว ต่อให้อยู่ท่ามกลางฝูงชนก็จำเขาได้ในพริบตา
หลายปีก่อน จีนอนุญาตให้ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษตั้งชื่อ ตอนนั้นปู่ของโอวบีคิดว่าการใช้ชื่อตามตัวอักษรดูมีเสน่ห์ จึงตั้งชื่อลูกชายของเขาว่า ‘โอวเอ’ ซึ่งโอวเอก็สืบทอดความปรารถนาของพ่อและตั้งชื่อลูกชายของตนว่าโอวบี เด็กคนนั้นก็คือชายหนุ่มผมหงอกก่อนวัยตรงหน้าเย่เฟิงนั่นเอง
“ไม่มีอะไรหรอก อ้อ ฉันมีเื่ให้นายช่วยหน่อย” เย่เฟิงยิ้มก่อนตรงไปหาโอวบีโดยไม่สนใจสายตาประหลาดใจและสงสัยของนักเรียนคนอื่น
ขณะอยู่ในโลกเทวะ เย่เฟิงเคยเห็นหยกโบราณและหินจิติญญาที่มีพลังฟ้าดินจำนวนมาก ใครก็ตามที่ได้ดูดซับพวกมันก็จะมีระดับวรยุทธ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ครอบครัวของโอวบีทำธุรกิจเกี่ยวกับวัตถุโบราณ หากโชคดีอาจได้ของดีกลับมา
“เื่อะไรล่ะ สบายใจได้ พี่โอวของนายพร้อมแก้ปัญหาให้ทุกอย่าง” โอวบีตบหน้าอกของตัวเองอย่างภูมิใจก่อนยิ้มเจื่อน “แน่นอน ถ้าให้ฉันไปมีเื่กับพวกอันธพาลข้างล่าง ฉันไม่เอาด้วยนะ พี่โอวคนนี้เป็อารยชนนะ…”
“เอาล่ะ เย็นนี้นายพาฉันไปที่บ้านที” เย่เฟิงตัดบทและบอกความ้าของตัวเองทันที แม้ความจริงเขาอยากไปตอนนี้เลย แต่มันคงดูไม่มีเหตุผลเกินไป ตอนนี้พวกเขาเป็นักเรียน ยังต้องเรียนหนังสือ
“ฮะ! ไปบ้านฉันเหรอ?” โอวบีใจนลุกขึ้นยืน
“ใช่ ไปดูว่ามีของดีอะไรหรือเปล่า” เย่เฟิงพูดพลางนั่งที่นั่งแถวหลังห้อง
“ฮิๆ ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจละ” โอวบีกลอกตาไปมาพลางนึกถึงวิดีโอโป๊พร้อมทำหน้ามีเลศนัย “มีเยอะมาก นายอยากดูแบบไหนล่ะ สาวญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือยุโรปอเมริกา…”
เย่เฟิงพูดไม่ออกและไม่สนใจเขา เมื่อเงยหน้าก็เห็นซูเมิ่งหานเดินเข้าห้องเรียนด้วยท่าทีสง่างามภายใต้ชุดขาวราวหิมะ ดึงดูดความสนใจของคนทั้งชั้นเรียนรวมทั้งโอวบีด้วย
“จุ๊ๆ ซูเมิ่งหานนี่ยิ่งมองยิ่งสวยแฮะ แถมพ่อของเธอยังเป็ถึงประธานซูเซิ่งกรุ๊ปอีก นางในฝันชัดๆ ถ้าฉันได้เธอมาล่ะก็…” โอวบีเริ่มฝันกลางวันอีกแล้ว
ทันใดนั้น ซูเมิ่งหานก็หันมาจ้องเย่เฟิงอย่างเอาเื่ สายตาทิ่มแทงของเธอทำให้โอวบีหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง แต่ไม่นานก็พบว่าอีกฝ่ายไม่ได้มองตัวเอง แต่มองเย่เฟิง จึงรีบถามทันที “เสี่ยวมี่เฟิง แกบอกฉันมาตามตรง มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างนายกับซูเมิ่งหานใช่ไหม?” โอวบีรู้อยู่แล้วว่าเย่เฟิงและซูเมิ่งหานเป็เพื่อนบ้านกัน
“ไม่มี” ชายหนุ่มปฏิเสธทันที
“โธ่ นายยังเห็นว่าเราเป็เพื่อนสนิทกันอยู่ไหม!” โอวบีจ้องเพื่อนเขม็ง
“ไม่มีอะไรจริงๆ เชื่อฉันสิ ช่างเื่นี้ก่อน นายรู้จักแก๊งอสรพิษ์ไหม?” เย่เฟิงไม่อยากเล่าเื่ไร้สาระจึงเปลี่ยนเื่
“แก๊งอสรพิษ์?” เป็ไปตามที่เย่เฟิงคาด โอวบีคล้อยตาม แต่พอได้ยินคำถามก็อึ้งสักพักก่อนตอบว่า “ฉันเคยได้ยินมาบ้าง ทำไมเหรอ?”
“เมื่อกี้คนที่ฉันต่อยก็คือพวกมัน…” เย่เฟิงเล่าเื่ที่เกิดขึ้น
“ฮะ! นายไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไง?” เมื่อรู้ว่าอันธพาลทั้งสามที่ถูกเย่เฟิงต่อยเป็คนของแก๊งอสรพิษ์ โอวบีถึงกับตกตะลึง เผยสีหน้าหวาดกลัว
แก๊งอสรพิษ์! เ้าถิ่นของที่นี่ มันคือหนึ่งในสามแก๊งที่มีอิทธิพลที่สุดในเมืองเยี่ยนจิงเลยนะ
เย่เฟิงถึงกับต่อยคนของแก๊งอสรพิษ์?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้