พอคำพูดท่อนนี้พูดออกมา ก็ทำให้ทุกคนในที่นี้มองหน้ากัน ใครๆ ก็ไม่กล้าส่งเสียง
เื่อย่างนี้ เดิมทีพวกเขาอยากฟังเพราะแปลกใจ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าเป็เื่ที่รับมือได้ยาก
นี่ก็ไปสะกิดต่อมความเ็ปของเฉิงเทียนกังเข้าแล้ว หากเฉิงเทียนกังรู้ว่าพวกเขารู้เื่นี้ พวกเขาจะมีชีวิตอยู่เป็สุขได้หรือ?
ในขณะเดียวกัน เจียงไป๋ก็เข้าใจอยู่บ้างว่า ทำไมก่อนหน้านี้เมิงหวงเฉาอยากจะพูดแต่ก็หยุดไว้
เื่บ้าๆ อย่างนี้ … ไม่ควรพูดมั่วซั่วจริงๆ หากพูดออกไปมั่วซั่ว นั่นก็เป็การผูกพยาบาทกับเฉิงเทียนกัง
“คำพูดเมื่อครู่ก็ล้วนได้ฟังกันแล้ว แบบนั้นก็เงียบไว้ ฉันก็ไม่กลัว แต่ฉันคิดดูแล้ว พวกนายก็น่าจะเข้าใจว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด หากพูดออกไปจริงๆ ถึงเวลานั้นคนที่เดือดร้อนก็คือพวกนายเอง”
เจียงไป๋ไม่ได้สนใจเมิงหวงเฉาอีก เขามองไปรอบๆ และพูดอย่างนี้
เขากลัวว่าวัยรุ่นพวกนี้จะไม่รู้จักฟ้าสูงดินต่ำ และออกไปพูดอะไรมั่วซั่ว สำหรับพวกเขาแล้วก็เป็เื่เดือดร้อนที่ใหญ่โต
พยัคฆ์แห่งหนานเจียงชื่อนี้ไม่ใช่ว่าเรียกเสียเปล่า ถ้ายุให้เฉิงเทียนกังโกรธขึ้นมาจริงๆ อย่าเห็นว่าพวกลูกข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อย่างพวกเขาพอถึงเวลานั้นครอบครัวก็ใช่ว่าจะปกป้องพวกเขาได้ เฉิงเทียนกังขนานนามว่าเป็พยัคฆ์แห่งหนานเจียง แต่ก็ไม่ใช่เพราะแค่ตำแหน่งในวงการตำรวจที่สูง ลูกไม้ส่วนตัวก็มีมาก หากจะเอาพวกเขาให้ถึงตายก็ไม่ยาก
“พี่เจียงวางใจได้ พวกเราก็ไม่ได้โง่ ไม่กล้าพูดมั่วซั่วแน่นอน”
ซุนหยวนปริปากพูดเป็คนแรก คนอื่นๆ ก็ทยอยกันพยักหน้า
หลังจากนั้นซุนหยวนก็เล็งสายตาไปที่พวกเด็กสาวที่ตามพวกเขามา “ฉันจะบอกพวกเธอไว้ ไม่ว่าพวกเธอจะติดตามใคร เื่วันนี้ ทั้งชีวิตนี้ก็อย่าได้พูดถึง หากใครพูดออกไป ก็อย่าหาว่าฉันซุนหยวนไม่มีน้ำใจ เฉิงเทียนกังฉันรับมือไม่ได้ แต่ต่อกรกับพวกเธอ ก็เกินพอแล้ว หากใครพูดมาก ฉันรับประกันว่าจะทำให้มันตายทั้งเป็”
คำพูดนี้ทำให้พวกเด็กผู้หญิงใจนตัวสั่น แต่ละคนพยักหน้าติดๆ กัน แม้แต่จะพูดก็ไม่กล้า
บรรยากาศโดยรอบตึงเครียด ทำให้เมิงหวงเฉาที่เพิ่งจะเมามายและเริ่มพูดเพ้อเจ้อรู้สึกตัวขึ้นมาทันที
เขาคิดได้แล้วว่าก่อนหน้านี้ตนเองพูดอะไรออกไปกันแน่ ตอนนี้คิดๆ ดูแล้วก็เหงื่อตก และรีบพูดว่า “คำพูดของพี่เจียงกับซุนหยวนเมื่อครู่ ล้วนฟังให้ชัดๆ ฉันจะไม่พูดอะไรมากแล้ว อย่างไรวิธีการของฉันทุกคนก็รู้ๆ กันอยู่ เฉิงเทียนกังรู้ว่าฉันพูดมั่วซั่ว เขาก็ทำอะไรฉันไม่ได้ชั่วคราว แต่ฉันกลับจัดการพวกนายได้ ดังนั้นก็ฉลาดกันหน่อย”
เมื่อดื่มกินกันจนอิ่มหนำ เดิมทีเจียงไป๋ก็เตรียมที่จะไปแล้ว ระหว่างจัดเลี้ยงหวางเป้าก็โทรศัพท์มาหาเจียงไป๋ และบอกข่าวแก่เขาว่าจ้าวอู๋จี๋จะอยู่ต่อ ส่วนเขาจะไป ทั้งยังเปิดห้องไว้ที่โรงแรมในบางแห่งของหลิงเฉวียนแล้ว เจียงไป๋สามารถกลับไปได้ทุกเมื่อ
แต่เมิงหวงเฉาที่รู้สึกตัวแล้วได้รั้งเจียงไป๋ไว้สุดฤทธิ์ และพูดว่ายังเช้าอยู่ ้าให้เจียงไป๋ออกไปเที่ยวด้วยกัน และไปััชีวิตของหนุ่มสาวในหลิงเฉวียนสักหน่อย
เจียงไป๋คิดๆ ดูแล้ว เขากลับไปก็ต้องไปเผชิญหน้ากับผู้ชายแก่ๆ อย่างหวางเป้า หากทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน หรือว่าจะเก็บสบู่ด้วยกันหรือ?
ไม่น่าสนใจจริงๆ
เขาก็เลยตกลง ชีวิตในยามค่ำคืนของหลิงเฉวียน เจียงไป๋ยังไม่เคยัั ออกไปเที่ยวเล่นกับเมิงหวงเฉาก็ได้
“ฮ่าๆ มี่ชาน นายจัดการเลย จัดร้านดีๆ สักร้าน อ้อ เรียกสาวๆ มาสักสองสามคนด้วย หากพวกนายมีธุระจะกลับไปก่อนก็ได้ แต่หากไม่มีธุระก็ไปด้วยกัน”
เมื่อเมิงหวงเฉาได้รับอนุญาตจากเจียงไป๋แล้วก็หัวเราะเสียงดัง และพูด
“ได้สิ ในเขตเมืองตงเฉิงเพิ่งเปิดผับหนึ่งแห่ง ได้ยินว่ามีระดับ เมื่อวานเพิ่งจะเริ่มกิจการ คนที่ไปก็ไม่น้อย เพื่อนฉันบอกว่าไม่เลวเลย และก็ไม่ด้อยกว่าที่ที่พวกเราไปกันบ่อยๆ พวกเราไปเที่ยวเล่นกัน”
มี่ชานรีบรับคำ และเริ่มโทรศัพท์ทันที
สำหรับเื่ที่เมิงหวงเฉามอบหมายให้ เขารู้สึกได้หน้ามาก และก็ไปจัดการอย่างเต็มใจ
สำหรับเื่นี้ เจียงไป๋ก็หมดคำพูดจริงๆ ไม่รู้ว่าวัยรุ่นสมัยนี้คิดอย่างไรกัน และก็ไม่รู้ว่าพ่อที่เหมือนว่าคำพูดจะมีน้ำหนักในหลิงเฉวียนของมี่ชานจะรู้ไหมว่าลูกชายของตนเองทำตัวอย่างนี้ และจะคิดอย่างไร
แต่เมื่อผ่านเื่มากมายในวันนี้ไปแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าทุกคนล้วนอยู่ในภาวะที่เสียขวัญกัน และรู้สึกเหนื่อยล้ากันอยู่บ้าง นอกจากมี่ชานกับซุนหยวนสองคนแล้ว คนอื่นๆ ก็ทยอยกันอำลากลับไป
โดยเฉพาะเด็กสาวพวกนั้น เมื่อครู่ถูกซุนหยวนทำให้ใ ตอนนี้ล้วนหมดสนุกกันแล้ว
สำหรับเื่นี้เมิงหวงเฉาก็ไม่ติดใจ เขาโบกมือเพื่อให้พวกเขากลับไป
ทิ้งรถไว้ที่ภัตตาคารอาหารตี้ตูนี้ และนั่งรถเอ็มพีวีที่มี่ชานจัดไว้ไป พวกเจียงไป๋ทั้งสี่คนมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่มี่ชานพูดถึง
เพิ่งจะมาถึงและลงจากรถ เมิงหวงเฉาก็ถามมี่ชานว่า “สาวๆ ล่ะ? อยู่ไหนกัน?”
“ด้านในน่ะ เป็เด็กนักศึกษาทั้งหมด เพื่อนฉันจัดการให้ ได้ยินว่าสวยไม่เลวเลย เป็นักศึกษาใหม่ปีนี้ของวิทยาลัยศิลปะตี้ตู ครั้งนี้มาเที่ยวที่หลิงเฉวียน เพื่อนคนนั้นของฉันตั้งใจพาออกมา รับรองว่าจะทำให้นายพอใจ”
มี่ชานเดินหัวเราะเข้ามาด้วยอาการลามก
สำหรับเื่นี้ เจียงไป๋ก็หมดคำพูด ไม่รู้ว่าเมิงหวงเฉาไปเอาความน่าสนใจมาจากไหน
ตามหลักการแล้ว เ้านี่มีชีวิตที่หรูหรามาั้แ่เด็กๆ อายุสิบกว่าก็ออกมาเที่ยวเล่น นี่ก็หลายปีมาแล้ว หรือว่าไม่รู้จักพอหรือ?
“พวกเราไปกัน!”
เมิงหวงเฉาร้องอย่างประหลาด และลากเจียงไป๋เพื่อจะเข้าไปด้านใน
อย่าเห็นแค่ว่าเขาเรียกเจียงไป๋ว่าพี่ชาย จริงๆ แล้วอายุเขากับเจียงไป๋ก็พอๆ กัน โดยเฉพาะมี่ชานยังแก่กว่าพวกเขาหนึ่งหรือสองปี ก็มีแค่ซุนหยวนที่อายุประมาณยี่สิบกว่า และก็เด็กกว่าหน่อย
เพิ่งจะเข้าไป ก็พบว่ามีผู้คนเดินกันขวักไขว่ คนนับไม่ถ้วนกำลังเต้นโยกย้ายไปมา ชายหญิงแก่หนุ่มมีครบหมด
การตกแต่งภายในผับก็หรูหราโอ่อ่าพอสมควร มีคนหลายร้อยคน เพลงดังครึกโครมแสบหูเจียงไป๋
สำหรับสถานที่แบบนี้ เจียงไป๋ก็ไม่ชอบ เขาชอบสถานที่ที่เงียบสงบหน่อย ชีวิตของพวกวัยรุ่น พูดจริงๆ บางครั้งเขาก็รับไม่ได้ และรู้สึกว่าล้วนเป็ของเด็กเล่น ตัวเขาเองก็ลืมไปเลยว่าจริงๆ แล้วตนเองก็อายุไม่มากเหมือนกัน
“อยู่ไหน?”
พอเข้าประตูมาเมิงหวงเฉาก็ะโถามมี่ชาน
เพราะเสียงดนตรีที่อยู่โดยรอบดังเกินไป เขาจะไม่ะโก็ไม่ได้ และตะคอกใส่หูมี่ชานแล้ว
“ไป ไปกับฉัน”
มี่ชานโบกมือให้ทั้งสามคนตามเขาไป
ไม่นานก็มาถึงตรงที่นั่งขนาดใหญ่ทางด้านทิศตะวันออกของผับ เวลานี้ตรงนี้ก็มีเด็กสาวนั่งอยู่สี่คนแล้ว ทุกคนล้วนเรียกได้ว่าสะสวย
เดิมทีเด็กสาวของวิทยาลัยศิลปะก็คัดสรรมาอย่างดี โดยเฉพาะครั้งนี้ตอนที่อีกฝ่ายมา ก็ตั้งใจแต่งตัวมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ละคนแต่งตัวสวยสะพรั่งจนน่ามอง
เด็กสาวคนหนึ่งในนี้ สวมกระโปรงตัวจิ๋วสีดำ และเสื้อขาวจนมองทะลุได้ ขาทั้งคู่เรียวยาว หน้าอกอึ๋ม พอเห็นมี่ชาน ก็รีบะโเข้ามาทันที และเข้าไปกอดมี่ชานด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้น
มือข้างหนึ่งของมี่ชานก็โอบเอวที่เรียวบางของเธอไว้ และหัวเราะเสียงดัง ทั้งยังเรียกให้พวกเจียงไป๋เข้าที่นั่ง
“ทำไมพวกคุณถึงเพิ่งมาล่ะ? พอโทรศัพท์มาหา ฉันก็พาเพื่อนสาวมาทันที ถ้าคุณมาช้าอีกสักหน่อย พวกเราก็คงจะนอนหลับกันแล้ว”
หลังจากที่เด็กสาวกระโปรงดำกับมี่ชานนั่งลงแล้ว เธอก็ทำปากจู๋และพูดออดอ้อนใส่อย่างไม่พอใจ
“ฮ่าๆ เพิ่งไปทานข้าวข้างนอกมา ไม่ได้ดูเวลา ตอนนี้ไม่ได้สายไม่ใช่หรือ หากร้านปิดแล้วจะกลัวอะไร ฉันจะจัดห้องให้พวกเธอเอง พวกเธออยากพักที่ไหน ก็พูดมาได้ตามสบาย ฉันจะจัดการให้ … จัดเหล้าแล้วหรือยัง?”
มี่ชานหัวเราะและพูดอย่างไม่ใส่ใจ
เื่เงินสำหรับเขาแล้วก็ไม่มีค่าอะไรนัก อย่าเห็นว่าเขาเป็แค่ลิ่วล้อของเมิงหวงเฉา แต่พอมี่ชานออกไป ในเทียนตูก็เป็คนดังเลยเชียว และจะลังเลได้อย่างไรกัน?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้