เมื่อพูดจบ หวางเป้าเหมือนจะคิดอะไรออก และอธิบายกับเจียงไป๋ว่า “เื่ของจางฉางเกิงเป็แค่เื่รอง เื่สำคัญคือเ้าพ่อจ้าว้าพบคุณเจียง สำหรับจางฉางเกิงเขาขอร้องมา เ้าพ่อจ้าวก็แค่ถือโอกาสนี้มาพบปะกับคุณ ไม่ได้มีเจตนาอื่นแน่นอน”
นี่คือการแสดงจุดยืนแล้ว
หวางเป้าพูดกับเจียงไป๋อย่างไม่ลังเล ถึงจ้าวอู๋จี๋จะบอกว่าเป็คนกลาง แต่ก็ไม่ใช่พวกเดียวกับจางฉางเกิง และก็ไม่้าจะเป็พวกเดียวกันกับจางฉางเกิงเพื่อมาต่อรองกับเจียงไป๋อย่างแน่นอน
“เ้าพ่อจ้าว้าพบผม นั่นก็เป็เกียรติของผมเหมือนกัน”
เจียงไป๋ก็หัวเราะเหมือนกัน เมื่ออีกฝ่ายแสดงเจตนาดี แน่นอนว่าเขาก็จะไม่อวดดี และเื่ของเขาก็ต้องชัดเจน ของอย่างการ์ดเทพาพบเห็นได้แต่ขอกันไม่ได้ เพียงแค่ครั้งเดียวผ่านไป ความสามารถที่แท้จริงของเขาก็ยังคงเป็แค่ปรมาจารย์มวยปาจี๋คนหนึ่งเท่านั้น ก็คงจะพอๆ กับหวางเป้า
“คุณเจียงถ่อมตัวแล้ว เชิญครับ!”
หวางเป้าหัวเราะ ในขณะเดียวกันสายตาก็มีความแปลกใจ เขายื่นมือออกมาทำท่าทางเชิญ หลังจากนั้นก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าก่อนเพื่อนำทาง
เดิมทีเขายังเป็กังวลว่า เจียงไป๋อายุน้อยขนาดนี้แต่ก็มีกำลังที่พลิกฟ้าได้แล้ว ตัวเจียงไป๋เองจะต้องอวดดีจนเข้าหาได้ยาก แต่ตอนนี้ดูแล้วความกังวลก่อนหน้านี้ก็คงต้องล้มเลิกไป
ฉวีเจี๋ยกับเจียงไป๋เดินตามหวางเป้าไป สำหรับเสี่ยวเทียนก็มีคนมารับรองโดยเฉพาะ
“พระเ้าช่วย! นั่นคือปรมาจารย์หวางเป้า! เขา … คิดไม่ถึงว่าเขาจะออกมารับคนอื่นด้วยตัวเอง และยังนำทางเองอีก? เ้าพ่อจ้าวมาแล้ว?”
ทางด้านพวกเจียงไป๋เดินไปยังอาคารหลัก ภาพเหตุการณ์นี้อยู่ในสายตาของคนนับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นอดพูดออกมาอย่างหวาดกลัวไม่ได้
เขาพูดอย่างนี้ก็ทำให้คนสิบกว่าคนที่อยู่ในห้องของอาคารเล็กๆ หลังนั้นทยอยกันยืนขึ้นทันที ไร้ซึ่งภาพหมกมุ่นแสงสีนารีอย่างเมื่อครู่แล้ว แต่ละคนพุ่งออกไปที่ระเบียงราวกับฉีดเืไก่เข้าเส้น
ไม่ใช่แค่โต๊ะของพวกเขา ทั้งชั้นสามของอาคารเล็กๆ แห่งนี้ล้วนถูกทำให้ตื่นขึ้นแล้ว มีหลายสิบคนยื่นหัวออกมามองเจียงไป๋ที่อยู่ไกลออกไป
แค่ทางด้านของพวกเขามีความเคลื่อนไหว อาคารเล็กๆ ที่อยู่ไกลออกไปก็มีคนทยอยกันยื่นหน้าออกมาดู เหมือนกับโรคติดต่อ สโมสรที่เดิมทีเงียบเชียบก็เปลี่ยนไปอย่างครึกครื้น
หวางเป้าคือใคร?
มือขวาของเ้าพ่อจ้าว ปรมาจารย์วูซูจีน ปกติก็สูงส่ง แต่ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าจะมาปรากฏตัวรับแขกอยู่ที่นี่ด้วยตัวเอง นี่ … นี่จะไม่ให้พวกเขาใได้อย่างไร
“พระเ้าช่วย ชายหนุ่มคนนั้นเป็ใคร? ไม่เคยเห็นมาก่อน คิดไม่ถึงว่าจะให้หวางเป้ามารับด้วยตัวเอง ฉันว่าแล้วทำไมวันนี้เ้าพ่อจ้าวถึงมาได้ ก็เพราะมีแขกนี่เอง! ชายหนุ่มคนนี้เป็ใคร? เป็ยอดฝีมือมาจากไหน?”
“น่าจะมาจากทางตี้ตู ไม่อย่างนั้นเ้าพ่อจ้าวก็คงจะไม่จัดงานเลี้ยงด้วยตัวเองหรอก!”
คนหนึ่งอดกระซิบกระซาบไม่ได้ และเดาถึงฐานะของเจียงไป๋ไปต่างๆ นานา
“จุ๊ๆ เป็บุคคลที่ยอดเยี่ยมเลย แต่ก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน ดูแล้วหล่อเหลาเอาการอยู่นะ อีกสักครู่หากเขาออกมาฉันจะไปพบเขาแน่นอน ถ้าหากว่า … ”
ผู้หญิงที่สวมใส่ชุดสวยเซ็กซี่คนหนึ่ง เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของเจียงไป๋แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหวีผมและบ่นพึมพำไปด้วย
“อย่าฝันกลางวัน! แขกของเ้าพ่อจ้าวใช่ว่าเธออยากจะพบก็พบได้หรือ? ก็แค่ไม่รู้ว่าเป็ใครกันแน่ หลายปีแล้วที่ไม่เห็นเ้าพ่อจ้าวจัดงานเลี้ยง! หรือว่าจะเป็ลูกคนใหญ่คนโตทางตี้ตูจริงๆ หรือ?”
ผู้หญิงคนนี้เพิ่งจะพูดก็ถูกเยาะเย้ยอย่างไม่ไว้หน้า และอดคาดเดาตามไม่ได้
“ฮ่าๆ คุณชายที่ไหนกัน จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ ทั้งหัวเซี่ยจะมีลูกบ้านไหนได้รับการต้อนรับที่ทรงเกียรติจากเ้าพ่อจ้าวบ้าง? ปีนั้นยอดฝีมือที่ห้าวหาญอย่างหลี่ชิงตี้ก็ยังไปเข้าพบเ้าพ่อจ้าวเอง มีเหตุอะไรที่เ้าพ่อจ้าวต้องเลี้ยงเอง และยังให้หวางเป้าไปรับด้วยตัวเองอีก? สองสามปีมานี้หวางเป้ารับรองแขก ฉันก็เคยเห็นแค่สองครั้ง ครั้งแรกคือบุคคลสำคัญมาตรวจดู อีกครั้งก็คือวันที่หมายเลขหนึ่งแห่งเทียนตูของพวกเราขึ้นรับตำแหน่ง เหอะๆ ก็ไม่รู้ว่าเป็บุคคลที่ยอดเยี่ยมอะไร”
คนที่พอมีหน้ามีตาเล็กน้อยคนหนึ่งยืนจิบเหล้าอยู่ตรงนั้น พลางพูดอย่างไม่แน่ใจ
สองเหตุการณ์ในตอนนั้นเขาก็อยู่ด้วยพอดี และโชคดีที่ได้เข้าร่วมด้วยหนึ่งครั้ง และก็เป็หัวข้อสนทนาที่ภาคภูมิใจมาตลอด แถมยังคุยโวไปหลายรอบแล้ว ทุกครั้งล้วนนำมาซึ่งเสียงร้องอย่างใติดๆ กัน
“ไม่ใช่? เขาอายุน้อยขนาดนั้นจะได้รับการต้อนรับที่ทรงเกียรติจากเ้าพ่อจ้าวได้อย่างไร? เขาเป็ใครกันแน่?”
เพียงไม่นานคนมากมายก็คาดเดากันไปต่างๆ นานา
มีคนบอกว่าเป็เศรษฐีที่ซ่อนตัวอยู่ต่างประเทศ เพราะต้องสืบทอดธุรกิจของครอบครัวจึงกลับมา และยังพกเงินนับร้อยล้านมาเยี่ยมเยือนเ้าพ่อจ้าวด้วย แน่นอนว่าต้องได้รับการต้อนรับที่ทรงเกียรติ
มีคนบอกว่าเป็ผู้สืบทอดของตระกูลที่ไม่แสดงตัว และก็มีคนพูดว่าเป็เลขาคู่กายของผู้าุโท่านใดท่านหนึ่ง ยิ่งมีคนเดาว่าชายหนุ่มคนนี้คือลูกนอกสมรสของเ้าพ่อจ้าว หลายปีมานี้ไม่เคยได้ยินว่าเ้าพ่อจ้าวแต่งงาน แต่ปีนั้นเหมือนจะเคยมีเื่อยู่่หนึ่งว่าเขาเคยมีลูกกับผู้หญิงที่สวยแพรวพราวคนหนึ่ง หรือว่าจะเป็ชายหนุ่มคนนี้?
“พอแล้ว ทุกคนอย่าได้คาดเดาไปเลย ฉันรู้ว่าทำไม!”
เศรษฐีใหญ่แห่งวงการคนหนึ่งหัวเราะเสียงดัง เขาพูดกับกลุ่มคนมากมายที่คิดเห็นต่างกันออกมาประโยคหนึ่ง
“น้องชายท่านนี้หน้าคุ้นมาก มาใหม่หรือ แล้วคุณรู้เื่นั้นได้อย่างไร?”
เขาเพิ่งพูดออกไปก็ดึงดูดความสนใจของคนโดยรอบทันที แต่ละคนเข้ามาข้างกายเขาพลางถาม
เขาก็ถือว่าเป็บุคคลสำคัญ เป็เศรษฐีระดับล่างๆ ที่ไต่ขึ้นมา จนตอนนี้สมบัติที่มีอยู่ในมือก็หลายร้อยล้าน เพิ่งผ่านมาตรฐานในการเข้าร่วมนี้ เขาจึงมาที่นี่ น่าเสียดายที่คนกลุ่มนี้แต่ละคนหัวสูง เขามาที่นี่เพราะ้าที่จะเพิ่มเส้นสายแต่คิดไม่ถึงว่าจะไม่มีใครสนใจเขา ทำให้เขาโกรธเป็ฟืนเป็ไฟ แต่กลับทำอะไรไม่ได้ หลังจากการปรากฏตัวของเจียงไป๋กลับทำให้เขามีความหวังขึ้นมาทันที เขามีโอกาสและข้อมูลที่จะเริ่มสนทนาแล้ว
“เหอะๆ คนอื่นไม่รู้ แต่ฉันกลับโชคดี รู้มาพอดีว่าเื่นี้เป็มาอย่างไร ทุกท่านรู้เื่ของจางฉางเกิงเมื่อสองสามวันก่อนไหม?” เขาหัวเราะพลางพูดอย่างช้าๆ เมื่อพูดจบก็จิบเหล้าด้วยท่าทางที่ลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก
“จางฉางเกิง? รู้ สองสามวันก่อนได้ยินว่าเสียเปรียบมาก! กำลังคนที่มีก็สูญเสียไปนับไม่ถ้วน ลูกชายสุดที่รักของเขาก็ถูกคนหักแขนหักขา ตอนนี้ต้องส่งตัวไปรักษาที่ต่างประเทศ ได้ยินมาว่าคนแกร่งที่ทำเื่นี้เขาชื่อเจียงไป๋ … หรือว่า … ”
พอเขาเริ่มก็มีคนมาพูดต่อทันที
ในเทียนตูจางฉางเกิงก็เป็คนดังคนหนึ่ง มีหลายคนที่เคยติดต่อกับเขา ก่อนหน้านี้เื่นั้นถือว่าเป็เื่ใหญ่มาก คนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็พวกหน่วยข่าวเคลื่อนที่ และแน่นอนว่าชัดเจน
เมื่อเขาพูดอย่างนี้ก็มีคนเดาออกทันทีว่าเป็เจียงไป๋
“เฮ้ เขาก็คือเจียงไป๋ ก่อนหน้านี้ฉันเคยไปใช้บริการในที่ของเขา ก็ถือว่าคุ้นเคยกัน เขาเปิดสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เมื่อก่อนที่นั่นเป็ของเหลาหม่า แต่มียอดฝีมือจากทางเหนือมาหาเื่เหลาหม่า ก็เป็เขานี่แหละที่ช่วยจัดการให้ แถมยังหักหน้าถานจงิโดยตรง และเพื่อเป็การขอบคุณ เหลาหม่าจึงมอบที่นั่นให้เขา”
คนคนนั้นหัวเราะหลังจากพูดจบ
เขาพูดเองเออเองว่ารู้จักกับเจียงไป๋ แต่เขากลับไม่เคยพูดคุยกับเจียงไป๋เลย ถึงแม้สถานะของเขาจะไม่ธรรมดา แต่จริงๆ แล้วเจียงไป๋ไม่ชอบการต้อนรับ และก็ไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับคนในวงการ แค่เจอกันแล้วพยักหน้าทักทายเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้พูดด้วยแม้แต่ประโยคเดียว
แต่เื่อย่างนี้แน่นอนว่าเขาไม่อาจจะพูดออกไปได้
“อ้อ น้องชายชื่อแซ่อะไร! เมื่อครู่เห็นหน้าคุ้นๆ แต่ก็ไม่ได้ทักทาย เสียมารยาทแล้ว ต่อไปคงต้องรู้จักกันให้มากๆ เข้าไว้ ในเมื่อคุ้นเคยกันกับคุณเจียง อนาคตน้องชายต้องสดใสแน่นอน” โดยรอบก็มีคนกระตือรือร้นขึ้นมาทันที
เดิมทีพวกเขาคิดว่าเื่ของเจียงไป๋เป็แค่ข่าวลือ แต่ตอนนี้ดูแล้วกลับไม่เป็อย่างนั้น
ถึงแม้เมื่อก่อนเจียงไป๋จะเป็แค่คนแกร่งคนหนึ่ง และก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับพวกเขา ถึงจะตั้งตำแหน่งวางไว้ที่นั่นได้ แต่ก็ไม่ใช่คนระดับเดียวกันอยู่ดี และก็ไม่จำเป็ต้องสนใจ แค่ไม่ไปยั่วยุก็ดีแล้ว
แต่ตอนนี้เจียงไป๋กลายเป็แขกที่ได้รับเชิญของเ้าพ่อจ้าวแล้ว เกรงว่าต่อไปในเทียนตูก็ต้องมีตำแหน่งที่แน่นอน มีกิจการงานที่ใหญ่โต! และกับคนกล้าของวงการที่พูดเองเออเองว่าคุ้นเคยกับเจียงไป๋ก็จะกลายเป็คนที่ทุกคนตามสรรเสริญ
ใครสั่งให้พวกเราไม่สนิทกับเจียงไป๋ล่ะ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้