พอเจียงไป๋พูดออกมาอย่างนี้ บวกกับท่าทางของเขาแล้ว คนพวกนี้ก็ยิ่งมึนงง และรู้สึกว่าโลกใบนี้วุ่นวายมาก
“พี่ชาย พี่เป็ศาสตราจารย์จริงๆ ไม่ได้หลอกพวกเราใช่ไหม? พี่ไม่ใช่ว่ามั่วสุมอยู่กับคนอย่างจ้าวอู๋จี๋หรือ? เ้าสารเลวนั่นอย่าเห็นว่าแสร้งวางมาด ฝีมือของเขาฉันก็รู้ดีที่สุด ก็แค่นักเรียน ม.ปลายคนหนึ่ง ต่อมาก็ดูหนังสือผุๆ พังๆ สักหน่อย วันๆ แสร้งทำตัวเป็คนสุภาพเรียบร้อย พูดไปพูดมา ราวกับมีความรู้ลึกซึ้งมาก จริงๆ แล้วก็นับประสาอะไรไม่ได้ เขาจะรู้จักศาสตราจารย์ได้อย่างไร? และยังเป็ศาสตราจารย์ที่สู้เก่งอย่างนี้? บุคคลอย่างพี่ทำไมถึงได้มั่วสุมอยู่กับเขาได้ล่ะ?”
ท้ายที่สุดยังคงเป็เมิงหวงเฉาที่ปริปากถาม และใบหน้าก็เต็มไปด้วยอาการเหลือเชื่อ
แต่ก็ดูออกว่าความคิดที่เ้านี่มีต่อจ้าวอู๋จี๋ลึกมาก แม้แต่ถามคำถามก็ล้วนอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยจ้าวอู๋จี๋สักหน่อย
นี่ก็ทำให้เจียงไป๋ไม่เข้าใจมาก ถึงแม้จ้าวอู๋จี๋จะเป็ “พี่ชาย” แค่ในนามของเขา แต่ทั้งสองคนก็อายุห่างกันสิบเจ็ดสิบแปดปี คิดอย่างไรก็ไม่อาจจะผูกพยาบาทได้ หรือว่าเพราะจ้าวอู๋จี๋กับพ่อของเขามีช่องว่างระหว่างวัยกัน?
“จ้าวอู๋จี๋? สิงโตแห่งเทียนตูจ้าวอู๋จี๋? คุณคือเจียงไป๋? ผมนึกออกแล้วว่าคุณเป็ใคร! ฮ่าๆ เป็เ้าพ่อเจียงที่มีชื่อเสียงโด่งดังนี่เอง ผมว่าเป็ใครเสียอีกที่ยังหนุ่มแต่ก็เก่งกาจขนาดนี้ เป็คุณชัดๆ หากเป็คุณ แบบนั้นก็เข้าใจได้ง่ายแล้ว ฮ่าๆ พี่ฉวีเจี๋ยของผมตอนนี้เหมือนจะทำงานอยู่กับคุณ ยังมีหม่าเสี่ยวเทียนที่อยู่หน่วยเล็กๆ ของพวกเขา ตอนนี้เป็คนขับรถให้คุณแล้วใช่ไหม พวกเราก็เลื่อมใสในชื่อเสียงเรียงนามของคุณมานานแล้ว”
เมื่อหยางหยางได้ยินคำพูดของเมิงหวงเฉาแล้วก็เหมือนจะมีปฏิกิริยา เขาหัวเราะเสียงดัง และยื่นมือออกมาจับมือทักทายกับเจียงไป๋ ท่าทางก็ดูสนิทกว่าก่อนหน้านี้
ดูจากคำพูดแล้ว เขาไม่ได้พูดปด สำหรับเจียงไป๋ เขาก็เลื่อมใสในชื่อเสียงเรียงนามมานานแล้ว
ในขณะเดียวกันก็ทำให้เจียงไป๋ได้รู้ถึงฉายาที่ไม่เคยรู้มาก่อนของจ้าวอู๋จี๋ ก่อนหน้านี้ทุกคนมักจะเรียกเขาว่าจ้าวอู๋จี๋ เ้าพ่อจ้าว เจียงไป๋ยังคิดว่าทุกคนล้วนเรียกเขาอย่างนี้ ต่อมาคิดๆ ดูแล้ว คนเทียนตูเรียกอย่างนี้ แต่คนอื่นๆ เรียกอย่างไรกัน?
ในที่สุดตอนนี้ก็รู้แล้ว
เดิมทีนอกจากวีรบุรุษแห่งเหอเป่ย ัแห่งตี้ตู ยังมีสิงโตแห่งเทียนตูอีกหนึ่งคน
“เป็อย่างนี้จริงๆ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางหยางแล้ว เจียงไป๋ก็หัวเราะ และจับมือทักทายกับอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันก็คิดอย่างนี้อยู่ในใจ
ดูแล้วการคาดเดาของเขาไม่ผิด ฉวีเจี๋ยกับเสี่ยวเทียนมาจากที่นี่จริงๆ
“ในเมื่อเ้าพ่อเจียงมาแล้ว เดิมทีผมควรจะเป็เ้ามือเลี้ยงข้าวคุณ แต่คิดดูแล้วคุณก็ยุ่งอยู่ และทางผมก็ยังต้องกลับไปขออนุญาตนายใหญ่ที่แท้จริงสักหน่อย หากทางนั้นอนุญาต ผมก็จะมาเลี้ยงข้าวคุณ แต่หากไม่อนุญาต ก็เปลี่ยนเป็วันอื่นถ้าว่างก็ไปซีเป่ย ผมใกล้จะได้กลับไปแล้ว ถึงเวลานั้นจะต้องชดเชยให้เป็สองเท่าแน่นอน”
หยางหยางหัวเราะ และพูดอย่างตรงไปตรงมา เมื่อพูดจบก็ขึ้นรถไปแล้ว
ก่อนที่จะไป ยังพูดกับเจียงไป๋ว่า “เ้าเมิงหวงเฉาอันตรายนะ เ้านี่ขึ้นชื่อว่าปากหวานก้นเปรี้ยว คุณต้องระวังหน่อยล่ะ แต่เมื่อครู่ผมเห็นการสั่งสอนที่คุณให้เขาแล้ว ก็พอที่จะทำให้เขาจำไปตลอดชีวิตได้ คิดดูแล้วเขาก็คงไม่กล้าทำอะไรมั่วซั่วอีก โดยเฉพาะหลังจากที่ผมกลับไปแล้ว ก็จะปล่อยข่าวออกไปทันที หากเขาคิดอยากจะทำอะไรไม่ดี ก็น่าจะไม่มีใครกล้าช่วยเขาแล้ว คุณก็วางใจดื่มกินกับเขาเถอะ หลายปีมานี้เ้านี่ล้มลุกคลุกคลานอยู่ในตี้ตูจนมีเงินกว่าผมมาก … ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ไม่สนใจคำด่าทอของเมิงหวงเฉา และจากไปอย่างสง่าผ่าเผยแล้ว
“หยางหยางคนนี้เป็ใคร? คิดไม่ถึงว่าพันตรีคนหนึ่งจะกล้าพูดอย่างนี้กับนาย?”
หลังจากที่หยางหยางจากไปแล้ว เจียงไป๋ก็ถามอย่างแปลกใจ
คิดไม่ถึงว่าพันตรีคนหนึ่งจะกล้าด่าเมิงหวงเฉาต่อหน้าอย่างนี้ นี่ก็เป็ข่าวแปลกใหม่ในใต้หล้า
หากรู้ว่าถึงจะเป็พันตรีของหน่วยพิเศษ ด้วยฐานะของเมิงหวงเฉาหาก้าจะแตะเขา ก็น่าจะไม่ยาก
ไม่เห็นหรือว่าเพื่อต่อกรกับเจียงไป๋ เ้านี่โทรศัพท์ไปหลอกยอดฝีมือแปดคนอย่างพวกเขามาแล้ว?
ด้วยอิทธิพลที่ผู้าุโมีต่อทางหทาร ใครจะกล้าพูดอย่างนี้กับเมิงหวงเฉาหรือ? เป็ธรรมดาที่เื่นี้จะทำให้เจียงไป๋แปลกใจ
“ยังจะเป็ใครได้ล่ะ ลูกชายของหมาป่าแห่งซีเป่ยไง” เมิงหวงเฉาพูดอย่างอารมณ์เสีย
สำหรับคำพูดของหยางหยาง เขาโกรธเคืองมาก แต่ก็จนปัญญา
มั่วสุมอยู่ในเทียนตูมาหลายปี เที่ยวใช้อำนาจและไร้เทียมทาน เป็คนหนุ่มรุ่นหนึ่งในตี้ตู ไม่ว่าใครเขาก็ไม่กลัว แต่กับหยางหยางคนนี้เขากลับจนปัญญา
เื้ัของเ้านั่นแข็ง ส่วนตัวก็สู้เก่ง ถ้าเดี่ยวตัวต่อตัว เขาเมิงหวงเฉาก็สู้ไม่ได้ วิธีการที่ถูกกฎหมายใช้ไม่ได้ ส่วนวิธีการที่ไม่ถูกกฎหมายก็ใช้ไม่ได้ ช่างเหมือนกับเม่นที่บนตัวเต็มไปด้วยหนาม ทำให้เขาไม่มีทางลงมือได้
ดีที่ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ชอบ แต่ก็ออกมาจากกองทหารน้อยมาก ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่มีการปะทะกันโดยตรงเท่าไร
“หมาป่าแห่งซีเป่ย?”
เจียงไป๋เพิ่งได้ยินฉายานี้เป็ครั้งแรก เมื่อก่อนก็ไม่เคยได้ยินคนอื่นพูดมาก่อน
แต่นี่ก็ไม่แปลกที่เศรษฐกิจของทางนั้นจะไม่พัฒนา ทางเทียนตูก็ติดต่อกับทางนั้นไม่มาก เจียงไป๋ไม่เคยได้ยินว่าซีเป่ยมีคนใหญ่คนโตอะไร ตอนนี้ดูแล้ว คนที่มีฉายาว่าหมาป่าแห่งซีเป่ยเกรงว่าก็เป็คนหนึ่งแล้ว
“หมาป่าแห่งซีเป่ยหยางอู๋ตี๋! พี่ไม่เคยได้ยินก็ปกติ หยางอู๋ตี๋ก็ไม่ได้มุ่งแต่จะเอาผลประโยชน์อย่างเดียวเหมือนกับจ้าวอู๋จี๋ ต่อหน้าคนปกติทั่วไปก็ไม่ได้มีชื่อเสียงโดดเด่นอะไร แต่ก็ไม่มีอะไร คนคนนี้ไม่ได้แหย่ได้ง่ายจริงๆ หากไม่ใช่เพราะเ้าหยางหยางคนนั้นเป็ลูกชายคนเดียวของเขา ฉันก็จะจัดการเขาไปนานแล้ว!”
เมิงหวงเฉาบ่นพึมพำ สำหรับอาการแปลกใจของเจียงไป๋ เขาก็พูดตามความเข้าใจของเขาแล้ว
เจียงไป๋ไม่รู้จักหมาป่าแห่งซีเป่ยอย่างหยางอู๋ตี๋ เขาก็รู้สึกว่าคิดไม่ถึง เพราะนอกจากคนใหญ่คนโตที่แท้จริงจำนวนหนึ่งแล้ว ประชาชนคนปกติทั่วไป ก็รู้จักคนคนนี้น้อยมากจริงๆ นอกจากเขตของซีเป่ยแล้วก็ล้วนไม่รู้จัก
“หมาป่าแห่งซีเป่ยหยางอู๋ตี๋นั่นทำอะไร?”
เจียงไป๋ถามอย่างแปลกใจ แค่ฟังชื่อกับฉายาก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดา
“ยังจะเป็อะไรได้ล่ะ คนคนนี้ของซีเป่ย! ก็เหมือนกับคนสารเลวอย่างจ้าวอู๋จี๋ที่นั่งบัญชาการอยู่ในเทียนตู วีรบุรุษแห่งเหอเป่ยอู่เทียนซีนั่งบัญชาการอยู่ในหลายๆ เขตของเหอเป่ย ในหลายๆ เขตของซีเป่ยก็ล้วนมีหยางอู๋ตี๋เป็ใหญ่”
พอเมิงหวงเฉาพูดถึงหยางอู๋ตี๋ก็ชี้นิ้วให้เห็นได้ว่าตำแหน่งของอีกฝ่ายอยู่ตรงไหน
หลังจากนั้นเหมือนว่าเมิงหวงเฉาจะคิดอะไรออก และก็มากระซิบข้างๆ หูของเจียงไป๋ว่า “ท้าสู้ไปทั่วฝีมือไร้เทียมทาน ไม่ได้เรียกกันเฉยๆ เื่อำนาจฉันคิดว่าไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อ่อน สำคัญที่สุดคือกำปั้นแข็งพอ”
เมื่อฟังคำพูดของเมิงหวงเฉาแล้ว เจียงไป๋ก็เข้าใจขึ้นมาทันที
ไม่ต้องคิด ก็รู้ว่าแหย่ไม่ได้ง่ายๆ
“หยางอู๋ตี๋คนนี้ชอบต่อสู้ เป็คนคลั่งต่อสู้ พอว่างขึ้นมาก็จะท้าประลองไปทั่ว จริงๆ แล้วเดิมทีเขาไม่ได้ชื่อหยางอู๋ตี๋ ชื่อนี้เมื่อสิบปีก่อนเขาเปลี่ยนเอง ได้ยินว่าฉายาคือไร้เทียมทานในใต้หล้า ก็ไม่รู้ว่าจะจริงหรือไม่ อย่างไรก็เลื่อนลอยมาก พี่เก่งกาจขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาหาพี่หรือไม่”
จู่ๆ เมิงหวงเฉาก็เหมือนจะคิดอะไรออก และมองเจียงไป๋ เขาพูดเื่นี้ขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ประหลาด
นี่ก็ทำให้เจียงไป๋ตะลึงงัน และก็มีความคิดผุดขึ้นมาแล้วว่า “ไร้เทียมทานในใต้หล้า? หยางอู๋ตี๋? ช่างกล้าพูดมาก!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้