หลังจากรับปากว่าจะเรียนรู้วิชากระบี่จากเซียนอู่เหิง ลั่วซานกลับมาที่บ้านพร้อมกับความตื่นเต้นในใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตที่เคยเรียบง่ายจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะเป็อย่างไร แต่ความปรารถนาในการฝึกฝนวิชากระบี่ได้เข้าครอบงำจิตใจของเขาอย่างลึกล้ำ
เช้าวันรุ่งขึ้น ลั่วซานตื่นแต่เช้าก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นตามคำสั่งของเซียนอู่เหิง เมื่อมาถึงลานกลางป่าที่เคยพบกันเมื่อวันก่อน เซียนอู่เหิงยืนรออยู่ที่นั่นแล้ว ท่ามกลางหมอกบางที่ลอยคลุ้งเหนือพื้นดิน
“มาช้ากว่าที่ข้าคิด” เซียนอู่เหิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูใจดี แต่แฝงด้วยความเคร่งครัด
ลั่วซานรีบขอโทษ “ขออภัยท่านอาจารย์ ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”
เซียนอู่เหิงพยักหน้า “วิชากระบี่ไม่ได้เริ่มจากการใช้กระบี่ แต่มันเริ่มจากการควบคุมจิตใจและร่างกาย เ้าอาจจะสงสัยว่าเหตุใดข้าจึงเรียกให้เ้ามาในยามเช้าตรู่เช่นนี้ เพราะการฝึกฝนเริ่มต้นจากการสร้างสมาธิและความแข็งแกร่งภายใน”
ลั่วซานฟังด้วยความตั้งใจ จากนั้นเซียนอู่เหิงจึงสั่งให้เขานั่งลงบนหินใหญ่ แล้วเริ่มต้นฝึกการหายใจและสมาธิ ซึ่งเป็พื้นฐานของการฝึกฝนทุกแขนงในยุทธภพ
“หลับตา หายใจเข้าลึก ๆ แล้วจงรับรู้ถึงพลังที่อยู่รอบตัวเ้า” เซียนอู่เหิงสั่ง ลั่วซานทำตาม เขาพยายามสงบจิตใจ แต่ความคิดต่าง ๆ ก็ยังคงล่องลอยไปเรื่อย ๆ
“จิตใจของเ้ายังไม่นิ่งพอ” เซียนอู่เหิงพูดขึ้นเบา ๆ “การฝึกฝนไม่ใช่เื่ของการใช้แรง แต่เป็เื่ของการควบคุม เมื่อเ้าควบคุมจิตใจได้ เ้าจึงจะควบคุมกระบี่ได้”
การฝึกฝนการหายใจและสมาธิของลั่วซานดำเนินไปอย่างยากลำบากหลายชั่วยาม เขารู้สึกถึงความเหนื่อยล้าทั้งทางกายและจิตใจ แต่เซียนอู่เหิงไม่ยอมให้เขาหยุดพักง่าย ๆ
“เ้าอาจจะคิดว่าการฝึกฝนนี้ไม่มีประโยชน์” เซียนอู่เหิงกล่าวขณะมองดูเด็กหนุ่มที่นั่งนิ่งอยู่ “แต่เมื่อเ้าฝึกฝนจนสำเร็จ เ้าจะสามารถควบคุมพลังภายในตัวเ้าได้ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เ้าต่างจากคนทั่วไป”
ลั่วซานกัดฟันสู้กับความเหนื่อยล้าและความสงสัยในตัวเอง จนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้นเต็มที่ เขารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในร่างกาย การหายใจของเขานิ่งขึ้น และจิตใจเริ่มสงบมากกว่าเมื่อแรกเริ่ม แม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่เขาััได้ถึงความก้าวหน้า
“เ้าทำได้ดีในวันแรก” เซียนอู่เหิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูพอใจ “แต่ยังมีหนทางอีกยาวไกล พรุ่งนี้เราจะเริ่มฝึกฝนร่างกาย เ้าเตรียมใจให้พร้อม”
ลั่วซานพยักหน้า แม้จะเหนื่อยล้า แต่เขากลับรู้สึกมีพลังมากขึ้นกว่าเดิม ความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้วิชากระบี่ทำให้เขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับการฝึกฝนที่ยากลำบากในวันต่อไป
ขณะที่ลั่วซานกำลังจะเดินกลับบ้าน เซียนอู่เหิงเรียกเขาไว้ “จำไว้ว่าวิชากระบี่ที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่กระบี่ แต่อยู่ที่ใจของเ้า”
ลั่วซานจดจำคำพูดนั้นไว้ในใจ และเดินกลับบ้านพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่เพียงเพื่อการต่อสู้ แต่เพื่อค้นหาความหมายที่แท้จริงของวิชากระบี่ที่เขา้าเรียนรู้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้