เจียงจื่อเฮ่าถามด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสาและน้ำเสียงที่ตะกุกตะกัก
“เหตุใดคุณชายเจียงถึงเอ่ยเช่นนั้น มีหลักฐานหรือไม่ว่าบุตรสาวของข้าขโมยดอกบัวพันปีขององค์รัชทายาทไป? ”
“หลักฐาน... แน่นอนว่า... อะไรนะ? บุตรสาวของท่านอ๋อง? แม่หญิงคนนี้มาจากตระกูลมู่หรือ? ”
ทันทีที่เจียงจื่อเฮ่าเอ่ยปาก สมองของเขาก็พลันฉุกคิดขึ้นมาได้จึงตอบสนองกลับไปในทันที ราวกับว่ามีผู้ใดตบหัวเขาดังฉาด เขาจ้องไปที่มู่เอ้าเทียนแล้วมองไปที่ฮวาเหยียนเพราะคิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป
“นางคือบุตรสาวของเปิ่นกง”
มู่เอ้าเทียนพูดอย่างโกรธเคือง
เจียงจื่อเฮ่ายังคงสับสนอยู่เล็กน้อย เขาจ้องไปที่ฮวาเหยียน จากนั้นก็มองไปที่มู่เอ้าเทียนแล้วจึงหันไปสบสายตากับมู่เสวียนเย่ "นี่คือน้องหญิงของท่านหรือ? น้องสาวแท้ๆ เลยหรือ? "
ใบหน้าของมู่เสวียนเย่ดูไม่ค่อยจะสู้ดีนัก หากอยู่ข้างนอก เจียงจื่อเฮ่าคงจะโดนเขาตีไปนานแล้ว
" น้องร่วมอุทรมารดาคนเดียวกัน "
มู่เสวียนเย่กล่าว
เฮือก
เจียงจื่อเฮ่าสูดลมหายใจเย็นเฉียบเข้าปอด เขากะพริบตาที่เหมือนกับดวงตาของนกการเวก [1] "ข้าจำได้เพียงว่าท่านอ๋องมีบุตรสาวอยู่คนหนึ่ง นางหายสาบสูญไปเมื่อสี่ปีก่อน คงจะไม่ใช่นางกระมัง? "
เจียงจื่อเฮ่าเบิกตากว้างแล้วชี้ไปทางฮวาเหยียนทันที
มู่เอ้าเทียนพ่นลมอย่างเ็า "เ้าคิดว่าอย่างไรเล่า? "
เจียงจื่อเฮ่ายังคงดูไม่เชื่อ เขาจ้องไปที่ฮวาเหยียนแล้วค่อยมองไปที่ตี้หลิงหานพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า "องค์รัชทายาท แม่นางคนนี้เป็หญิงสาวที่หายสาบสูญไปจากตระกูลมู่จริงๆ หรือ? อดีตคู่หมั้นของท่านหรือ? แม่นางที่ในตอนนั้นเขียนจดหมายมาหาท่านว่าไม่ประสงค์ที่จะอภิเษกกับท่านผู้นั้นหรือ? "
คราวนี้กลับเป็ใบหน้าของตี้หลิงหานที่เปลี่ยนเป็อึมครึมขึ้นมาทันที
ถ้าเจียงจื่อเฮ่าคนนี้ไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องของเขา เขาคงจะตบบุรุษคนนี้จนตายอย่างแน่นอน
เื่นี้สร้างความอับอายให้กับเขามาโดยตลอด หลายปีผ่านมานี้มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เื่นี้และเจียงจื่อเฮ่าก็เป็หนึ่งในนั้น อีกทั้งในวันนี้ชายหนุ่มยังเอ่ยออกมาต่อหน้าคนจำนวนมากอีก ใจของตี้หลิงหานในตอนนี้ปรากฏแววสังหารขึ้นมาลางๆ แล้ว
เขามองไปที่ฮวาเหยียนโดยไม่รู้ตัว และเห็นสตรีผู้นั้นจ้องมองมาที่เขาด้วยตาดวงตาที่เบิกกว้างเช่นกัน แววตาของนางเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกประหลาดใจ
สีหน้าของตี้หลิงหานเ็า เมื่อนึกถึงความรู้สึกยามที่ได้รับจดหมายฉบับนั้นเมื่อสี่ปีก่อน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเ็า คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลมู่ที่เคยทำให้เขาโกรธคราแรกเมื่อสี่ปีก่อน หลังจากนั้นสี่ปีถัดมาก็ยังทำให้เขาโกรธอีกเป็คราที่สอง
...
เจียงจื่อเฮ่าไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้เปิดเผยความลับที่ยิ่งใหญ่ออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้คนทั้งหมดล้วนตกตะลึงเมื่อได้รู้ตัวตนของฮวาเหยียน "เ้าเป็คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลมู่หรือ? เช่นนั้นเ้าก็คือหญิงสาวผู้ปฏิเสธการอภิเษกกับองค์รัชทายาทในตอนนั้นหรือ? "
ฮวาเหยียน "...! "
ตี้หลิงหาน "เจียงจื่อเฮ่า หุบปาก"
มู่เอ้าเทียนและมู่เสวียนเย่มองหน้ากัน ทั้งคู่ดูเหมือนจะใกับคำพูดของเจียงจื่อเฮ่า มู่เอ้าเทียนขมวดคิ้วมองเจียงจื่อเฮ่าและกล่าวว่า “คุณชายเจียง เ้าอย่าพูดจาเลื่อนเปื้อน เพราะมันจะทำร้ายชื่อเสียงของบุตรสาวข้า
เื่ระหว่างบุตรสาวของข้ากับฝ่าา มีแค่เื่หนังสือถอนหมั้นที่องค์รัชทายาทเป็ผู้จัดการเท่านั้น เช่นนั้นแล้วมีความเกี่ยวข้องอันใดกับบุตรสาวของข้าหรือ?”
มู่เอ้าเทียนตำหนิอย่างโกรธเคือง
เจียงจื่อเฮ่าเหลือบมองการปฏิเสธของมู่เอ้าเทียน พลันถอนหายใจ ในยามนั้นเขารู้สึกไร้ซึ่งความสุขและความโกรธก็พลันพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว "ท่านอ๋องมู่ ท่านหมายความว่าอย่างไร? ท่านกำลังจะบอกว่าข้าโกหกหรือ? องค์รัชทายาทก็อยู่ที่นี่ ท่านลองถามพระองค์เองก็ได้ว่าบุตรสาวของท่านได้ส่งจดหมายมาหาพระองค์หรือไม่ ในจดหมายยังบอกอีกว่าหวังว่าองค์รัชทายาทจะทรงเขียนหนังสือถอนหมั้นให้ บุตรสาวของพวกท่านนับว่ามีจิตใจยิ่งใหญ่นัก
หลังจากนั้นสี่ปี บุตรสาวแห่งตระกูลมู่ของพวกท่านกลับขโมยเอาดอกบัวพันปีขององค์รัชทายาทไป นี่มันหมายความว่าอย่างไร? หรือเ้ารู้สึกเสียใจภายหลังจึงอยากดึงดูดความสนใจขององค์รัชทายาท? ช่างน่าเสียดายนัก บุตรสาวตระกูลเ้าสูญเสียความบริสุทธิ์ในหอนางโลม... ไอ๊หยา มันผู้ใดตีข้า...”
ใบหน้าของเจียงจื่อเฮ่าเปี่ยมไปด้วยความขุ่นเคือง เขากำลังพูดถึงจุดที่ทำให้เขาโกรธที่สุดอยู่ จู่ๆ พลันมีก้อนหินก้อนหนึ่งถูกโยนมา หินก้อนนั้นกระแทกเข้าที่ปากของเขาตรงๆ เจียงจื่อเฮ่าถึงกับล้มลงจนก้นกระแทกกับพื้นและปากก็แตกจนได้รสฝาดของเื
ตี้หลิงหานลืมตาขึ้นและเห็นใบหน้าที่เคร่งขรึมของมู่เสวียนเย่ เขาถูมือของตัวเองไปมา เห็นได้ชัดว่าเขาเป็คนขว้างก้อนหินก้อนนั้น
เขาลงมือต่อหน้าองค์รัชทายาทเช่นนี้ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะโกรธยิ่งนัก
เจียงจื่อเฮ่าโมโหเป็อย่างยิ่ง เขาชี้ไปที่มู่เสวียนเย่และจ้องมองอย่างโกรธเคือง "เหตุใดเ้าถึงตีข้า หรือเ้าจะไม่ให้คุณชายผู้นี้พูดความจริง? "
“คุณชายเจียง อาหารอาจสามารถกินมั่วซั่วได้ แต่คำพูดนั้นไม่อาจพูดมั่วซั่วได้”
มู่เสวียนเย่พูดอย่างไร้ความรู้สึก
“เ้า...”
"หุบปาก"
ในยามนั้นตี้หลิงหานพลันเปล่งเสียงออกมาอย่างเ็า
เจียงจื่อเฮ่ากลัวเขามากที่สุดั้แ่ยังเป็เด็ก ดังนั้นทันทีที่ตี้หลิงหานส่งเสียงพูดออกมา ล้มธงทหาร หยุดตีกลอง เดินทัพอย่างลับๆ ไม่เปิดเผยเป้าหมาย [2] เป็เพราะในใจเขาไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่นัก เขาทำแก้มป่องด้วยความรู้สึกไม่พอใจ หลังจากปิดปากไว้พักใหญ่เขาก็เริ่มเปิดปากพูด “องค์รัชทายาท ท่านไม่จำเป็ต้องรู้สึกเสียหน้าไปหรอก เื่นี้ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว อีกทั้งเื่นี้ก็มีคนรู้ไม่มาก แต่ถึงอย่างนั้นท่านกลับยังอยากแก้แค้นมู่อันเหยียนอยู่ ฮ่าๆ ท่านเห็นไหมว่าบัดนี้นางได้กลายเป็ขโมยไปแล้ว และนางก็ยังลากขวดน้ำมันด้วย [3] ท่านผู้เฒ่าผู้น่าสงสาร..."
"เจียงจื่อเฮ่า"
มู่เอ้าเทียนไม่สามารถฟังได้อีกต่อไป ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ เขาก้าวไปข้างหน้าและคว้าคอเจียงจื่อเฮ่าเอาไว้
"อ๊ากก ทำอะไรน่ะ ท่านกำลังคิดที่จะทำอันใด? บิดาของข้าคือแม่ทัพเหล่ยถิง มารดาของข้าคือน้องหญิงของฮองเฮา ลูกพี่ลูกน้องของข้าคือองค์รัชทายาท อ๊ากๆๆ... องค์รัชทายาท ช่วยด้วย”
เจียงจื่อเฮ่าถูกมู่เอ้าเทียนหนีบเอาไว้จนแน่น เขาร้องเสียงดังด้วยความใเพราะเขารู้ระดับวรยุทธ์ของมู่เอ้าเทียนดี ทันทีที่เมื่อมู่เอ้าเทียนยกเขาขึ้น ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดด้วยความใ ชายหนุ่มรีบะโขอความช่วยเหลือเสียงดังไปทางตี้หลิงหานทันที
“ท่านอ๋องมู่ โปรดวางเขาลงเถิด”
"หึ"
มู่เอ้าเทียนจำต้องไว้หน้าตี้หลิงหานจึงวางเจียงจื่อเฮ่าลง การกระทำของมู่เอ้าเทียนนั้นหยาบคายยิ่งนัก เขาสะบัดเจียงจื่อเฮ่าทิ้งจนชายหนุ่มล้มลงก้นจ้ำเบ้า
เจียงจื่อเฮ่าเอามือกุมก้นของเขาและคร่ำครวญ ใบหน้าเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองราวกับอยากจะตำหนิติเตียนแต่เมื่อเขาได้สบเข้ากับดวงตาที่ดุร้ายโกรธเคืองของมู่เอ้าเทียน ราวกับทั้งร่างสลายหายไปชั่วพริบตา เหลือเพียงเสียงหึสุดท้ายไว้
ในยามนั้นมู่เอ้าเทียนและฮวาเหยียนก้าวเดินขึ้นไปข้างหน้า มองตรงไปทางตี้หลิงหานแล้วพูดพร้อมกับสูดลมหายใจลึกๆ ว่า "ฝ่าา เื่ราวเมื่อสี่ปีก่อนกระหม่อมผู้นี้ไม่อยากเอ่ยถึงแล้ว บุตรสาวของกระหม่อมถูกผู้อื่นใส่ร้ายใส่ความ หลุดเข้าไปในหอนางโลมจนทำให้พระองค์ต้องเสียหน้า นี่นับเป็ความผิดมหันต์ของตระกูลมู่ แต่หลังจากที่ฝ่าามาถอนหมั้นถึงหน้าบ้านนั้น บุตรสาวตัวน้อยของกระหม่อมกับฝ่าาก็ถือว่าไม่มีความสัมพันธ์อันใดให้เกี่ยวข้องกันแล้ว ั้แ่ต้นจนจบ ผู้ที่ต้องเ็ปมากที่สุดก็คือบุตรสาวของกระหม่อมเอง
นางหายตัวไปถึงสี่ปี ตระกูลมู่ก็ตามหานางมาสี่ปี ตอนนี้นางกลับมาแล้ว เื่ราวคับแค้นขุ่นเคืองพระทัยขอให้จบสิ้นกันไปเสียเถิด กระหม่อมขอเพียงให้นางได้ใช้ชีวิตเฉกเช่นคนธรรมสามัญเถิดพ่ะย่ะค่ะ"
เมื่อมู่เอ้าเทียนพูดเช่นนี้ ในใจเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกอึดอัดใจจนล้นปรี่ น้ำเสียงนั้นปนเปไปด้วยเสียงสะอื้น
ฮวาเหยียนรู้สึกเจ็บที่หน้าอกเป็อย่างยิ่ง เดิมทีนางยังเป็คนจิตใจเหี้ยมโหด แต่ตอนนี้นางอยากจะร้องไห้ออกมาเสียจริง การได้รับการปกป้องจากบิดาและพี่ชายเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกได้รับความอบอุ่นและอ่อนโยนซึ่งนางไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน ความอบอุ่นที่นางได้รับมาตลอดชีวิตทั้งยี่สิบเอ็ดปีของนาง ก็ยังไม่อาจเทียบวันนี้เพียงวันเดียวได้เลย
ถึงนางจะรู้ว่าความอบอุ่นทั้งหมดที่ได้รับคือสิ่งที่นางขโมยมา แต่นางก็ยัง้าที่จะถนอมมันเอาไว้
...
นางไม่ใช่มู่อันเหยียนตัวจริง แม้ว่านางจะไม่เตือนตัวเองแต่ก็มีคนที่คอยเตือนนางตลอดเวลา
ยกตัวอย่างเช่นเจียงจื่อเฮ่า
ที่เขาพูดทั้งหมดคือ เื่ราวที่เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีที่แล้ว มู่อันเหยียนเคยส่งจดหมายหาตี้หลิงหานเพื่อขอให้เขาถอนหมั้น เื่ราวเหล่านี้ไม่ใช่ประสบการณ์ของนาง นางจึงไม่อาจรู้เื่ราวเบื้องลึกได้ แต่จากคำพูดไม่กี่ประโยคของเจียงจื่อเฮ่าก็ทำให้นางเข้าใจได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
ปีนั้นงานอภิเษกนี้ หากคนภายนอกมองเข้ามาคงเป็งานที่ยิ่งใหญ่ราวกับเทพประทานสรรค์สร้างก็ไม่ปาน องค์ชายที่เป็ที่โปรดปรานรักใคร่ และตระกูลมู่ผู้สูงส่งงามสง่า แต่ทว่ามู่อันเหยียนและตี้หลิงหานทั้งสองคนกลับไม่พอใจในงานอภิเษกในครั้งนี้
มิฉะนั้นแล้วมู่อันเหยียนคงจะไม่เสี่ยงชีวิตของนางรวมทั้งตระกูลมู่ทั้งตระกูล ด้วยการส่งจดหมายนั้นให้กับตี้หลิงหานหรอก
และในตอนที่เกิดเื่ขึ้นกับมู่อันเหยียน ตี้หลิงหานก็คงจะไม่ถอนหมั้นนางจนทำให้มู่อันเหยียนต้องพบเจอกับเื่ราวที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
ฮวาเหยียนคิดวิเคราะห์ในใจ นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดแม่นางที่ฉลาดหาใดเปรียบคนนั้นถึงได้ตัดสินใจเขียนจดหมายขอให้องค์รัชทายาทถอนหมั้น นางย่อมต้องทราบดีแน่ว่าหากผิดพลาดแม้แต่น้อย อาจมีโทษถึงขั้นปะาศีรษะเลยทีเดียว
เว้นเสียแต่ว่า…
เชิงอรรถ
[1] ดวงตานกการเวก หมายถึง ลักษณะดวงตาแบบหนึ่งที่ หัวตาโค้งลง หางตาชี้ขึ้น
ล้มธงทหาร หยุดตีกลอง เดินทัพอย่างลับๆ ไม่เปิดเผยเป้าหมาย อุปมาสำหรับการพักรบหรือการยุติกิจกรรมอย่างเงียบ ๆ
[2] ลากขวดน้ำมัน อุปมาถึง เด็กที่เกิดจากอดีตสามีที่แต่งงานใหม่และถูกพามาที่บ้านของสามีภายหลังในสังคมเก่า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้