หลินฟู่อินพยักหน้า น้ำเสียงสงบลงกว่าเดิมมาก “ข้ารู้ว่าเ้าหวังดี ข้าไม่เลิกหรอก”
ตอนที่ต้ายากำลังจะกลับ หลินฟู่อินก็ให้โหลแบะแซกลับไปด้วย
บ้านของต้ายามีน้องๆ ที่อายุน้อยกว่าอยู่อีกหลายคน และปกติมักไม่มีเงินซื้อขนมกิน ต้ายาจึงรับไว้อย่างยินดี
เมื่อต้ายาจากไป หลินฟู่อินจึงนั่งลงอย่างเหนื่อยหน่ายบนเก้าอี้ มือก่ายหน้าผากพลางคิดถึงสิ่งต่างๆ
ไม่นาน ย่าหลี่ก็กลับมาพร้อมน้องๆ ในอ้อมแขน
หลินฟู่อินรับมาคนหนึ่ง เป็น้องชาย คือเสี่ยวเป่า
วันนี้อากาศค่อนข้างร้อน แต่เขาก็หลับอย่างสบายใจ มองผ่านๆ ยังเห็นได้ว่าเขาอิ่มแล้ว เมื่อมองแก้มตุ้ยนุ้ยแดงเรื่อนั่น หลินฟู่อินก็สบายใจขึ้น
เ้าตัวน้อยกับน้องสาวของนางช่างน่ารักนัก เพื่อทั้งสองแล้ว นางจะล้มเหลวไม่ได้เด็ดขาด
“เ้าพาเสี่ยวเป่าไปเข้านอนเสีย เดี๋ยวที่เหลือข้าจัดการให้เอง” ย่าหลี่กล่าว
หลินฟู่อินรับคำ แล้วอุ้มเสี่ยวเป่าเข้าห้องนอน วางเ้าตัวน้อยลงบนเตียง ยื่นตัวไปหอมหน้าผากและแก้มของเ้าตัวน้อย เมื่อดูแล้วว่าไม่มียุงในมุ้งจึงกลับออกมา
เมื่อออกมาก็เห็นย่าหลี่กำลังเล่นกับเสี่ยวเป้ยอยู่
เสี่ยวเป้ยมองนางด้วยดวงตาที่ราวกับองุ่นผลโตนั่น แต่ความสามารถในการรับข้อมูลทางสายตายังไม่พัฒนาดีนัก
ไม่รู้เพราะเสี่ยวเป้ยเห็นนางหรืออย่างไร อยู่ๆ เ้าตัวน้อยก็เริ่มหัวเราะขึ้นมา เพียงแค่นั้นก็ทำให้หลินฟู่อินใจแทบละลาย
นางเห็นว่าย่าหลี่เองมีเหงื่อกาฬไหลท่วม ทั้งยังดูครั่นเนื้อครั่นตัวมาก นางจึงตักน้ำเย็นมาให้ย่าหลี่ถ้วยหนึ่ง
แล้วค่อยยื่นมือไปรับเสี่ยวเป้ยมาไว้ในอ้อมแขน
ย่าหลี่กำลังคอแห้ง นางดื่มน้ำในถ้วยแล้วกล่าวกับฟู่อิน “เ้าดูเสี่ยวเป้ยไป เดี๋ยวข้าไปเตรียมอาหารเอง”
หลินฟู่อินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านย่า ท่านพักเถอะ ข้าเตรียมอาหารไว้แล้ว เดี๋ยวข้าจะไปเก็บถั่วฝักยาวจากสวนมาผัดเพิ่ม”
ย่าหลี่จึงกล่าวชมพร้อมรอยยิ้ม “มีฟู่อินอยู่ด้วยแล้วสะดวกจริงๆ โชคดีแล้วที่ข้าเลือกติดตามเ้า”
“ต้องบอกว่าฟู่อินผู้นี้โชคดีที่มีท่านย่าอยู่ช่วยเหลือมากกว่า” ฟู่อินตอบทันที
ย่าหลี่หัวเราะอย่างสุขใจก่อนจะกล่าว “ตอนข้าพาเ้าตัวน้อยทั้งสองไปข้างนอกวันนี้ ข้าได้ยินคนในหมู่บ้านคุยกันว่าอาเฟินกับอาฟางกำลังขุดผักป่าที่หมูยังไม่กินอยู่ ข้ารู้ว่าเ้าจ้างสองคนนั้น แต่เ้าก็ควรจะมีขอบเขตบ้างแม้จะอยากช่วย”
ย่าหลี่ย้ำกับนางว่าการให้ทานไม่ใช่เื่ที่จำเป็ต้องทำ
หลินฟู่อินหัวเราะแล้วเอ่ยตอบ “ตอนแรกข้ายังไม่ได้บอกท่านเพราะข้าไม่รู้ว่าผลมันจะเป็ยังไง แต่เมื่อท่านย่าเป็กังวลเช่นนี้ ข้าคงต้องบอกท่านเสียแล้ว”
ได้ยินเช่นนั้น ย่าหลี่จึงมองนางอย่างจริงจัง
หลินฟู่อินก้มลงมองเด็กน้อยผิวอมชมพูในอ้อมแขน จึงได้เห็นว่านางหลับไปแล้วอย่างสงบ
นางเม้มปากเป็รอยยิ้มบาง “ท่านย่า ข้าพาเสี่ยวเป้ยไปนอนก่อนนะ”
เมื่อกลับมาแล้ว นางก็นั่งลงข้างๆ ย่าหลี่แล้วกล่าว “ข้าขอให้สองคนนั้นไปขุดสมุนไพรคุณภาพสูง เมื่อล้างและตากเสร็จ ข้าจะขาย”
“นั่น เป็สมุนไพรหรือ?” ย่าหลี่อ้าปากค้าง ตกตะลึงกับการที่หลินฟู่อินบอกว่าผักป่าที่หมูยังไม่กินเ่าั้เป็สมุนไพรชั้นดี
แม้ความรู้ด้านการแพทย์ของต้าเว่ยจะก้าวล้ำกว่าแคว้นเป่ยหรงมาก แต่หลินฟู่อินมาพร้อมกับความรู้วิชาแพทย์จีนที่สั่งสมกันเป็เวลาหลายพันปี นี่จึงเป็ข้อได้เปรียบของนาง
หลินฟู่อินพยักหน้ารับ แล้วกล่าว “ข้าคุยกับศิษย์ของท่านหมอหลี่ไปแล้ว และให้เขานำสมุนไพรกลับไปหารือกับอาจารย์เขาอีกที หากไปได้สวย พวกเขาก็จะกลับมาซื้อสมุนไพรนี้จากข้า”
“แม่หนู นี่เ้าให้เขานำสมุนไพรกลับไปด้วยหรือ?” ย่าหลี่ตกตะลึง นางเชื่อหลินฟู่อินอย่างสุดซึ้งแล้ว
หลินฟู่อินพยักหน้าแล้วยิ้ม
ย่าหลี่ยื่นมือมาจับต้นขาหลินฟู่อิน เมื่อเห็นว่าหลินฟู่อินยอมให้ศิษย์ผู้นั้นนำสมุนไพรกลับไปเฉยๆ นางจึงมองหลินฟู่อินอย่างอ่อนแรง “นี่เพราะข้าไม่คุยกับเ้าดีๆ สินะ จิตใจของมนุษย์นั้นยากแท้สุดหยั่งถึงนะ ฟู่อิน…”
หลินฟู่อินรู้ว่าย่าหลี่เป็กังวล จึงคลี่ยิ้มบาง แล้วกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “ท่านย่า ไม่ต้องห่วง ข้าเชื่อในตัวท่านหมอหลี่”
ย่าหลี่เม้มปากแล้วไม่กล่าวอะไรอีก
จนถึงวันนี้ นางรู้อยู่แล้วว่าหลินฟู่อินผู้นี้ไม่เหมือนเด็กสาวทั่วไป
เช่นนั้นก็คงไม่ต้องกังวลอะไรอีก
เมื่อฟ้าเริ่มมืด อาเฟินและอาฟางก็กลับมาที่บ้านของหลินฟู่อิน โดยมีสมุนไพรสะอาดบนหลัง
หลินฟู่อินเห็นทั้งสองทำงานได้ดี จึงนำข้าวต้มมาให้ทาน
ไม่รู้เพราะนางใส่น้ำมากไปหรือเปล่า ทั้งสองจึงอิ่มอย่างรวดเร็ว
สองพี่น้องเริ่มคุ้นเคยกับหลินฟู่อิน การพูดจาของพวกนางจึงเป็กันเองมากขึ้น
หลินต้าเหอและเฟิงซื่อมาถึงในตอนที่ทั้งสองทานและเก็บกวาดจานชามเสร็จแล้ว
เพราะตอนนี้มันมืดแล้ว ทั้งสองจึงเป็ห่วงเด็กๆ
เมื่อเห็นว่าเด็กๆ ทานอาหารจากบ้านหลินฟู่อินแล้วเรียบร้อย พวกเขาก็สบายใจขึ้นมา เฟิงซื่อมองหลินฟู่อินอย่างปลาบปลื้ม
“ฟู่อินปฏิบัติกับทั้งสองเหมือนพี่แท้ๆ เลย” หลินต้าเหอถอนหายใจ
หลินฟู่อินมองเขาอย่างแคลงใจ ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเหตุใดคนซื่อสัตย์เช่นเขาจึงถอนหายใจเช่นนั้น
เฟิงซื่อเห็นความแคลงใจในสีหน้าของฟู่อิน นางจึงกัดฟันอธิบาย “คนบ้านพี่สะใภ้ใหญ่ ทั้งเอ้อร์หลาง และลูกๆ อาตานกับอาฉิน ไม่เคยเห็นอาเฟินกับอาฟางเป็ดั่งพี่น้องเลย คนที่ยังพอจะส่งเสียงคุยกับทั้งสองมีเพียงซานหลางเท่านั้น”
หลินฟู่อินเข้าใจได้ทันที
อาเฟินเดินออกมาพลางเช็ดปาก ก่อนกล่าวอย่างเ็า “ใครสนเื่ที่พวกนั้นทำกับข้าและอาฟางเหมือนไม่ใช่พี่น้องกัน”
หลินฟู่อินนึกหน้าตาลูกสาวทั้งสองคนของจ้าวซื่อไม่ออก แต่หลินซานหลางนี่ยังพอนึกออกได้รางๆ ว่าเป็คนี้เี
ส่วนหลินเอ้อร์หลางนั้น แม้เป็คนเงียบๆ แต่ก็เป็คนอารมณ์รุนแรง
ครั้งหนึ่ง เ้าของเดิมของร่างนี้ไปซักผ้าที่แม่น้ำ นางได้พบกับหลินเอ้อร์หลาง แล้วเผลอไปชนถังไม้ที่เขาแบกอยู่จนล้ม นางจึงถูกหลินเอ้อร์หลางผลักอย่างแรงจนข้อเท้าแพลง เป็ผลให้ฉู่ซื่อเรียกจ้าวซื่อมาต่อว่ารุนแรง
“ข้าไม่เคยเห็นลูกๆ ของป้าใหญ่เลย” หลินฟู่อินกล่าว
อาฟางแค่นจมูกแล้วย่นคิ้ว “ป้าใหญ่เรียนรู้จากอาสะใภ้สาม ส่งทั้งสองไปให้คนมีเงินเลี้ยง จนตอนนี้ทั้งสองก็ยังคิดว่าพวกตนเป็ลูกคุณหนูบ้านคนมีเงิน ยังทะเลาะกับป้าใหญ่เพราะอยากให้ซื้อคนใช้มาให้อยู่เลย น่าตลกดีใช่หรือไม่เล่า?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้