หลินฟู่อินทราบว่าจูซื่อวางแผนเพื่อบ้านเดิม บ้านแม่ของจูซื่ออยู่หมู่บ้านข้างๆ ห่างกันเพียงแม่น้ำสายเล็กๆ กั้น นับว่าเป็เื่ที่ดีทีเดียว
“เช่นนั้นรบกวนท่านป้าสองด้วยนะเ้าคะ” หลินฟู่อินมองเด็กน้อยสองคนที่หลับปุ๋ยเหมือนตุ๊กตาแล้วค่อยออกจากห้องไปเพื่อจัดการเื่งานศพของมารดา
กระทั่งเย็นวันต่อมา ร่างของฉู่ซื่อจึงได้ถูกฝังลง
คนในหมู่บ้านต่างก็มารวมตัวกัน ล้วนแต่ทอดถอนใจว่าโชคดีที่ฉู่ซื่อคลอดลูกสาวคนโตแสนดีเช่นนี้ออกมา เป็เด็กที่ไม่เห็นเงินสำคัญกว่าความกตัญญูทั้งยังมีความคิด หาไม่แล้ว หากเป็เด็กคนอื่นคงได้แต่ต้องใช้เสื่อห่อร่างโยนเข้าสุสานรวมดังที่จ้าวซื่อว่าแล้ว
หลินฟู่อินร้องไห้หนักเสียจนปวดหัว ทว่าความคิดกลับชัดเจนยิ่งขึ้น
พระเ้าให้รางวัลเป็ชีวิตใหม่แก่นาง นางย่อมต้องสำนึกถึงคุณค่า ไม่ว่าชีวิตนี้จะยากลำบากอย่างไรนางก็ต้องอยู่ให้ดีให้ได้!
หลังจากผ่านเื่ราวหนักหนามามากมาย เด็กหญิงก็พาเ้าตัวเล็กสองคนเข้านอนแล้วผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว
ทว่าในคืนเดียวกันกลับมีคนที่ถูกกำหนดให้ไม่อาจข่มตานอนได้ตลอดคืน
ไม่เพียงหลินฟู่อินได้ฝังฉู่ซื่ออย่างเรียบร้อย เ้าเสือร้ายทั้งสองยังได้กินอิ่มนอนหลับ ทั้งหลินฟู่อินยังถึงกับจ่ายเงินหาแม่นมเพื่อมิให้เด็กทั้งสองต้องอดตายอีก…
เื่เหล่านี้ทำให้ในใจของจ้าวซื่อราวกับมีแมวมาข่วนตะกุยจนรำคาญไปหมด
เมื่อเอนตัวลงนอน พลิกกายไปมาหลายครั้งก็ไม่อาจข่มตาหลับ จนโดนหลินต้าซานผู้เป็สามีส่งเสียงรำคาญใส่
จ้าวซื่อหยุดขยับตัวแล้วหันไปสบถทันที “หากเ้ามีความสามารถสักครึ่งของเ้าสาม ข้าก็คงไม่ต้องมานั่งคิดเื่สมบัติของบ้านนั้นทั้งวันหรอก!”
หลินต้าซานแค่นเสียงเหอะ “รอเ้าสามกลับมาก่อนเถอะ เ้าจะอธิบายว่าอย่างไรได้!”
หลังฉู่ซื่อตายเขาก็โดนคู่แม่สามีลูกสะใภ้สั่งห้ามมิให้ไปบ้านสาม จึงได้แต่ต้องอยู่บ้านกับบิดาและบ้านสอง
เขายังทราบอีกว่าเื่นี้บ้านเขาเป็ฝ่ายทำไม่ถูกต้อง ก็ไม่รู้ว่าจะถูกคนบ้านนั้นก่นด่าสาปแช่งอย่างไรบ้าง
“ไม่ได้!” ทันใดนั้นจ้าวซื่อก็ผุดลุกขึ้นกระทันหัน “เงินทองบ้านสามล้วนแต่ถูกนางเด็กสารเลวนั่นผลาญไปจนหมดแล้ว ข้าจะยอมแพ้ไม่ได้! ข้ายังได้ยินมาว่านางยังจ่ายเงินมากมายให้จูซื่อกับพี่สะใภ้เพื่อให้พวกนางมาป้อนนมเด็กบัดซบไร้มารดาสองคนนั้นอีก”
“คิดอะไรของเ้าอีก? แค่นี้ยังวุ่นวายไม่พอหรืออย่างไร?” หลินต้าซานว่า “ได้ยินจากข้างนอกว่าฟู่อินสงสัยว่าเ้าจงใจวางแผนยึดทรัพย์สินนาง หากเื่นี้ถึงหูผู้ตรวจการณ์เมื่อใดเ้าก็มีแต่จะต้องเข้าคุกแล้ว!”
ดวงตาจ้าวซื่อทอประกายวาวโรจน์ “ที่นี่แม้แต่นกยังไม่มาขี้ ผู้ตรวจการณ์หรือจะมาสนใจ? แล้วเด็กฟู่อินนั่นคลอดในคืนฝนดาวตกจริงไม่ใช่หรืออย่างไร?”
“คืนนั้นมีเด็กตั้งกี่คนที่คลอดออกมา ทั้งต้าเว่ยนี้มีเพียงฟู่อินหรืออย่างไรที่เป็ดาวหายนะ? ” หลินต้าซานเกรงว่าจะโดนน้องสามของตนตำหนิมากจริงๆ
ตอนอายุเพียงสิบสามปี น้องชายคนนี้ก็ติดตามขบวนพ่อค้าเดินทางไปเป่ยจิง ไม่กลับมาจนอายุยี่สิบ ยามนี้กลายเป็บุรุษโดดเด่นที่มีประสบการณ์จากโลกภายนอกหลายปี
ฉู่ซื่อกับฟู่อินสองคนนี้น้องชายเขายกให้สำคัญยิ่งกว่าชีวิต เกรงว่าเมื่ออีกฝ่ายกลับมาคงจะได้ยิงจ้าวซื่อกับพี่ชายคนนี้ให้ตายเข้าจริงๆ
“เหอะ ข้าไม่อยากรู้จักเ้าจริงๆ ถึงกับกลัวเ้าสามเช่นนี้! น่าขายหน้านัก เป็พี่ชายกลับกลัวน้องชายตนเอง ข้าอายแทนเ้าจริงๆ!” จ้าวซื่อตวาดก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง หันหลังให้หลินต้าซาน
“เ้าไม่กลัวแม่สามีบ้างหรืออย่างไร?” หลินต้าซานโกรธจนหน้าเสีย ใบหน้าเ็ายื่นมือเข้าหาแผ่นหลังภรรยาทว่ามิกล้าโต้เถียง
เขาหวาดกลัวน้องสาม ทว่ากลับกลัวภรรยาและแม่มากกว่า!
จ้าวซื่อไม่ได้อยากจะเมินอีกฝ่ายเนื่องจากยังมีความคิดดีๆ อยู่
วันต่อมา จ้าวซื่อตื่นแต่เช้า เห็นน้องสะใภ้สองตื่นมาให้อาหารหมูแล้วก็ทำปากยื่น ถามอย่างเกียจคร้าน “น้องสะใภ้สอง เ้าทำข้าวเช้าหรือยัง?”
“เสร็จแล้ว” สะใภ้สองเฟิงซื่อตอบเสียงเรียบ
ลูกชายคนรองหลินต้าเหอกับภรรยาเฟิงซื่อเป็คนซื่อสัตย์ เมื่อวานไม่เพียงเฟิงซื่อจะไม่ฟังคำสั่งของจ้าวซื่อกับอู่ซื่อว่าทำให้หลินฟู่อินอับอายแล้วยังลงมือช่วยเหลือฉู่ซื่ออีก
เื่นี้ทำให้จ้าวซื่อไม่พอใจยิ่งนัก รู้สึกว่าเฟิงซื่อคนนี้จงใจทำตัวดูดีต่อหน้าคนนอก ทำดีต่อหลินฟู่อินด้วยหาผลประโยชน์เข้าตัว
“เมื่อวานเ้าลงมือช่วยเหลือเื่ฝังฉู่ซื่อนั่นตั้งนาน นางเด็กฟู่อินให้เงินเ้าหรือไม่” จ้าวซื่อถามเสียดสี
เฟิงซื่อไม่เงยหน้า “พี่สะใภ้ นี่เป็ภรรยาของน้องสาม ข้าเองก็ควรช่วยด้วย ยังจะ้าเงินอะไรอีก?”
“เ้าประชดประชันข้าหรือ?” สีหน้าจ้าวซื่อไม่น่ามองขึ้นมาทันที
เฟิงซื่อรู้เพียงนางคงจะพูดอะไรที่ล่วงเกิดพี่สะใภ้เอาใจยากคนนี้เข้าอีกแล้ว จึงได้ตัดสินใจเม้มปากไม่กล่าวคำใดต่อ
จ้าวซื่อซื่อแค่นเสียงเ็าคำหนึ่งแล้วเดินจากไป
เมื่อเดินมาถึงหน้าเตา ดวงตาก็ทอประกายขึ้นมา นางดึงกระดาษออกมาจากคอเสื้อ สิ่งนี้เป็ของดี ไร้กลิ่นไร้รส ใส่ลงไปในอาหารก็ไม่มีใครรู้สึก
นางยกโจ๊กสองถ้วยที่ดูแห้งกว่าถ้วยอื่นนี้ออกมา แล้วจึงเติมส่วนที่เหลือลงไปในหม้อ
โจ๊กที่แห้งที่สุดสองถ้วยนี้ย่อมเป็ของสองผู้เฒ่า อู่ซื่อและสามี
ไม่นานนัก อู่ซื่อกับท่านปู่หลินก็เริ่มวิ่งเข้าห้องน้ำไม่หยุด ผ่านไปอีกสักพัก คนอื่นๆ ในบ้านก็พากันทยอยเข้าห้องน้ำไม่หยุดถึงกับต้องยืมห้องน้ำเพื่อนบ้าน
เพื่อนบ้านโดยรอบต่างพากันงุนงง ไม่ทราบว่าสองผู้เฒ่าสกุลหลินเป็อะไรกันแน่
ผ่านไปครึ่งวัน อู่ซื่อกับท่านปู่หลินก็ได้แต่นอนโอดโอยอยู่บนเตียง
ส่วนคนอื่นในบ้านยังอายุน้อยกว่าและแข็งแรงกว่า พอเข้าห้องน้ำไม่กี่รอบก็ดีขึ้น
เมื่อจ้าวซื่อหายดีแล้วก็ลุกขึ้นมาป่าวประกาศไปทั่ว ว่าเป็ไปดังคำทำนายของนักทำนายจ้าวที่หมู่บ้านจ้าวเจี่ยเคยว่าไว้ มีแต่ต้องรีบเผาดาวหายนะจึงจะนำความสงบสุขกลับคืนมา
ดังนั้นภายในวันเดียว กระทั่งหมู่บ้านข้างเคียงก็ทราบกันแล้วว่าหลินฟู่อินเป็ดาวหายนะจริงๆ
แรกสุดนางสังหารมารดา ต่อมาครอบครัว ทั้งปู่ย่าและคนอื่นๆ ในครอบครัวต่างก็ล้มป่วยใกล้ตาย
ไม่เพียงหมู่บ้านหูลู่สกุลหลิน แม้แต่ชาวหมู่บ้านข้างเคียงก็ยังหวาดกลัวจนตัวสั่นจนพากันเดินทางมาหาหลี่เจิ้งแห่งหมู่บ้านหูลู่ ขอให้รีบเผาดาวหายนะให้ตายเสีย
ที่จริงหลี่เจิ้งก็ได้รับเงินจากหลินฟู่อินมาไม่น้อย คราแรกยังคิดจะรอจนเ้าสามกลับมาก่อนค่อยคุยกัน อาจจะให้บ้านสามออกจากหมู่บ้านหูลู่ก็คงเป็ไปได้
มิคาดเพียงวันเดียวหลังจัดการศพฉู่ซื่อ บ้านหลินกลับเกิดเื่ขึ้นในทันที กอปรกับความกดดันที่ได้รับจากชาวบ้านรวมไปถึงชาวหมู่บ้านข้างเคียง จึงยื้อต่อไปไม่ได้
หลินฟู่อินกำลังดูน้องทั้งสองที่ยามนี้ท้องอิ่มหลับสบายอยู่ ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูหนักๆ ก็ดังขึ้น สาวชาวบ้านหลายคนที่มีร่างกายใหญ่โตไม่พูดจาอะไรก็กระชากเสื้อดึงตัวนางออกไปทันที
“เกิดอะไรขึ้น? พวกเ้าทำอะไรกัน?” หลินฟู่อินถามด้วยความสงบไม่แตกตื่นแม้แต่น้อย
สตรีร่างใหญ่เ่าั้ไม่คุยกับนาง มีแต่จะดึงตัวออกไปเท่านั้น
หลินฟู่อินนิ่วหน้าแล้วพูดเสียงดัง “เ้าลากข้าออกมาเช่นนี้แล้วน้องชายน้องสาวข้าจะทำอย่างไร? ให้ข้าขอให้ผู้อื่นมาดูแลเด็กๆ ก่อนได้หรือไม่?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้