“อืม? เธอรู้ว่าไหมการมาอยู่ที่มันหมายความว่าอย่างไร?” เจียงไป๋ขมวดคิ้วพลางถาม
เื่อย่างขาดเงินใครๆ ก็มีกันได้ ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลใดๆ วิธีการของจู้ซินซินก็ไม่ค่อยถูกต้อง เจียงไป๋ก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่ก็อดสั่งสอนเธอไม่ได้
จริงๆ แล้วเื่ที่จะโน้มน้าวให้สาวขายบริการกลับใจนั้น ถึงแม้ฟังดูแล้วราวกับว่าผู้หญิงทุกคนก็ล้วนเคยมีเื่น่าเศร้าในอดีตมา่หนึ่งกันทั้งนั้น แต่พูดไปพูดมาแล้วก็ไม่ใช่เพื่อเงินหรือ จะหลอกคนโง่ก็พอได้ แต่ผู้าุโแห่งวงการ ใครบ้างจะไม่รู้เื่แย่ๆ แบบนั้น?
ด้วยเหตุนี้แต่ไหนแต่ไรมาเจียงไป๋ก็แค่ยิ้มเยาะเื่นี้มาตลอด แต่เห็นได้ชัดว่าจู้ซินซินไม่ใช่คนแบบนั้น โดยเฉพาะหวงชานก็ไม่กล้าหาผู้หญิงแบบนั้นมาให้เขาแน่นอน
“ฉัน ฉันรู้ค่ะ … แต่ แต่ … ”
จู้ซินซินถูกเจียงไป๋พูดใส่แค่ประโยคเดียวก็หน้าแดงแล้ว สักพักหน้าก็ซีดลงและพูดจนแทบจะร้องไห้ออกมา
“พอแล้ว ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เธอก็เป็เด็กสาวที่โตขนาดนี้แล้วน่าจะตั้งอกตั้งใจเรียน ไม่ใช่มารับภาระของคนอื่นอยู่อย่างนี้ อ้อ เอาอย่างนี้ แม่ของเธออยู่ที่ไหน? ค่ารักษาต้องใช้เงินเท่าไร ฉันให้เธอยืมได้ เธอไม่ต้องฟังหวงชานหรอก”
เจียงไป๋ถอนหายใจพลางพูดอย่างทนไม่ไหว
เขาคิดที่จะช่วยเด็กสาวตรงหน้านี้แล้ว ความรู้สึกที่เธอมีให้เจียงไป๋เหมือนกับรักครั้งแรกในชาติก่อนมาก ไม่ใช่แค่รูปโฉม ลักษณะท่าทาง แม้แต่นิสัย เจียงไป๋ก็รู้สึกว่ามีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง และนี่ก็ทำให้เจียงไป๋อดไม่ได้ที่อยากจะช่วย
นานแล้วที่ไม่มีความรักท่วมท้นอย่างนี้ …
แต่เจียงไป๋ก็ยังคงตัดสินใจช่วยเธอ อย่างไรเื่เงินสำหรับเจียงไป๋แล้ว ตอนนี้ก็มีความหมายไม่มาก
“หวง เถ้าแก่หวงได้ให้แล้ว … ” จู้ซินซินรีบปฏิเสธติดๆ กัน
เธอรู้เจตนาของเจียงไป๋ แต่เธอก็ไม่สามารถตกลงได้
เถ้าแก่หวงได้ช่วยเธอในยามที่เธอลำบากที่สุด และเธอก็รับปากจะช่วยงานเถ้าแก่หวง
ในเมื่อตกลงแล้วก็ไม่ควรกลับคำ จิตใจที่ถือทิฐิได้หยั่งรากลึกอยู่ในใจเธอแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็รู้จักหวงชานมา่หนึ่งแล้ว และก็รู้ว่าหวงชานเป็คนอย่างไร เธอไม่กล้าเอาตัวเองกับคนในครอบครัวมาเสี่ยงด้วย
เธอแพ้ไม่ได้ ถึงจะเป็ชายหนุ่มที่แม้แต่หวงชานก็ยังประจบประแจงตรงหน้านี้
แต่จู้ซินซินก็ยังโชคดีมาก เดิมทีเธอคิดว่าเถ้าแก่หวงจะส่งตัวเธอไปให้ผู้ชายที่ทั้งอัปลักษณ์ทั้งแก่ และพุงใหญ่คนหนึ่ง แต่ตอนที่เห็นเจียงไป๋ เธอก็ถอนหายใจเสียยาวเหยียด
อย่างน้อยโชคชะตาชีวิตของตัวเองก็ไม่ได้เศร้าสลดอย่างที่คิด เธอเองก็พอใจมาก แล้วยังจะกล้าเพ้อฝันอะไรอย่างอื่นอีกหรือ?
“หวงชานคือหวงชาน ฉันคือฉัน”
เจียงไป๋ขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธ
การเผชิญหน้ากับคำถามของเจียงไป๋ จู้ซินซินเลือกที่จะเงียบ และก้มหน้าราวกับเด็กที่ทำความผิด มือขาวๆ ทั้งสองข้างบิดชายเสื้อไปมา และก็ไม่ยอมตอบ
นี่ก็ทำให้เจียงไป๋รู้สึกหมดแรงทันที
คิดไม่ถึงว่า เด็กสาวที่ดูอ่อนแอคนนี้จะหัวรั้น
“แบบนั้นต่อไปเธอคิดจะทำอย่างไร?”
เจียงไป๋ทอดถอนใจ และไม่ถามเซ้าซี้เื่นี้อีก เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ในขณะเดียวกันก็ดื่มเหล้าแก้วหนึ่งจนหมด
เหมือนกับว่าจู้ซินซินจะมีปฏิกิริยาอะไร และรีบเปิดขวดเหล้าอย่างซุ่มซ่าม เพื่อจะเติมเหล้าให้เจียงไป๋ แต่การกระทำก็ไม่ค่อยคุ้นเคยนัก เหล้าจึงสาดลงบนโต๊ะอยู่บ้าง
“ฉัน … วันนี้เถ้าแก่หวงบอกกับฉันว่า ต่อไปฉันก็จะเป็คนของคุณ คุณ … หาก หากอนุญาต ฉันอยาก ฉันอยากจะเรียนหนังสือต่อ … หากไม่อนุญาตฉันก็จะติดตามคุณ … ”
จู้ซินซินหน้าแดงระเรื่อพลางพูดเสียงเบาๆ เธอมีอาการเขินอายและยังมีกลิ่นอย่างอื่นอีก ราวกับดอกลิลลี่ที่ลอยตามลมอาจจะฟุ้งกระจายได้ทุกเวลา
เพียงแค่คำพูดนี้ของเธอ กลับทำให้เขาอดที่จะเอ็นดูเธอไม่ได้
“เ้าหวงชานคนนี้!”
เมื่อเจียงไป๋ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็กลอกตาใส่อย่างไม่สบอารมณ์
ถ้าหากหาผู้หญิงที่สวยหยาดเยิ้มให้เขาสักคน เจียงไป๋ก็จะไม่ตำหนิ แล้ววันนี้ก็จะได้เสวยสุขสักหน่อย อดกลั้นมาตั้งนานขนาดนี้ พูดจริงๆ แล้วเจียงไป๋ก็รู้สึกแย่มาก
แต่เด็กสาวอายุสิบห้าสิบหกอย่างนี้ เขาจะทำลงได้อย่างไร?
ไอ้เ้านี่ช่างไม่เข้าใจเขาเสียเลย คิดว่าเขาจะเหมือนกับพวกสัตว์ร้ายอย่างนั้นหรือ ล้วนชอบเป็วัวแก่กินหญ้าอ่อน และทำลายดอกไม้ตูมๆ ที่งดงามแบบนั้นหรือ?
“พอแล้ว ฉันรู้แล้ว ตอนนี้เธอออกไปก่อนได้ไหม? ฉันมีเื่จะคุยกับหวงชานสักหน่อย”
เจียงไป๋พูดอย่างจำใจ และให้สาวน้อยผมหางม้าที่สะสวยคนนี้ออกไปก่อน
อีกฝ่ายตอบรับอย่างน่ารัก แล้วหันหลังเดินออกไป
พอจู้ซินซินเดินออกประตูไป ผู้หญิงที่อยู่เป็เพื่อนหวงชานสองคนนั้นก็ตามออกไปด้วย ดนตรีหยุดเล่น ในห้องเงียบกริบขึ้นมาทันที
“ทำไม คุณเจียงไม่พอใจ?”
หลังจากที่คนสองสามคนออกไปแล้ว หวงชานก็รีบเข้ามาพลางพูดเสียงต่ำ
“พอใจ ทำไมจะไม่พอใจล่ะ จู้ซินซินสวยมาก ฉันชอบมาก ก็แค่เด็กผู้หญิงดีๆ คนหนึ่ง นายไปเอาเธอมาทำไม? ในเมื่อช่วยแล้ว ก็ไม่ต้องหวังผลตอบแทนสิ นายช่วยเพื่อหวังผลตอบแทนอย่างนี้มันไม่ดีเลย”
เจียงไป๋ถอนหายใจ หยิบเหล้าขึ้นมาแก้วหนึ่งแล้วชนกับหวงชาน หลังจากที่ดื่มไปครึ่งหนึ่งแล้วก็พูด
“เหอะๆ เหลาหวงเป็คนหยาบ เป็ธรรมดาที่จะไม่ได้เป็สุภาพบุรุษที่อ่อนโยนต่อผู้หญิงอย่างคุณเจียง ผมจะจำคำของคุณไว้ ต่อไปผมสัญญาว่าจะไม่ทำเื่อย่างนี้อีก”
หวงชานหัวเราะ และรีบชูมือขึ้นเพื่อสาบาน ราวกับั้แ่นี้เป็ต้นไปจะเปลี่ยนแปลงตัวเองแน่นอน
สำหรับเื่นี้ เจียงไป๋หัวเราะเยาะเขา ชาติสุนัขอดกินขี้ไม่ได้หรอก หากมีโอกาสหวงชานก็ยังจะทำอีกแน่นอน
“นายทุ่มเทมากขนาดนี้ หาเด็กสาวที่สวยขนาดนี้มามอบให้ฉัน และก่อนหน้านี้ยัง้าจะเอาตัวชิงเฉิงไป เกรงว่าไม่ใช่แค่จะเอาอกเอาใจอย่างเดียวใช่ไหม ทำไม มีเื่เดือดร้อนอะไรจะให้ฉันช่วยล่ะ?”
เจียงไป๋มองหวงชานแวบหนึ่ง
วันนี้หลังจากที่หวงชานพบกับเขาแล้ว บนโต๊ะอาหารยังกระอึกกระอักอย่างกับอยากจะพูดอะไร แต่เขายังถือว่ามีมารยาทอยู่บ้างจึงไม่ปริปาก และกลั้นไว้จนตอนนี้ก็ไม่พูดออกมาสักคำ
แต่เจียงไป๋รู้ว่าเ้านี่มีเื่ขอร้องแน่นอน ไม่อย่างนั้นแค่ประจบเขาอย่างเดียว เกรงว่าไม่จำเป็ต้องทุ่มเทขนาดนี้ เขาก็ไม่ใช่พี่ใหญ่แห่งวงการอะไร ความพยายามก็ไม่มาก นอกจากสู้เก่ง อย่างอื่นก็ไม่มีแล้ว และก็ไม่้าให้ใครมาประจบเอาใจเป็พิเศษ
“เื่นั้น เื่นั้นในเมื่อคุณเจียงมองออกแล้ว ผมก็จะไม่ปิดบัง ผมเจอเื่เดือดร้อนนิดหน่อยจริงๆ”
หวงชานตะลึงงัน และมองเจียงไป๋อย่างแปลกใจ ต่อมาก็พูดอย่างยิ้มแย้ม
ตอนที่พูด มือทั้งคู่ถูกันไปมา ก็ไม่รู้ว่าตื่นเต้นหรือว่าเคอะเขิน
“พูดมาเถอะ ในเมื่อนายก็เป็เพื่อนกับฉวีเจี๋ย พวกเราก็ถือว่ารู้จักกันแล้ว และยังรับสินน้ำใจจากนายตั้งมากมาย นายมีเื่เดือดร้อนหากฉันช่วยได้ แน่นอนว่าจะช่วยอย่างเต็มที่” เจียงไป๋พูดอย่างยิ้มแย้ม
“เื่นี้ … เื่นี้ คุณก็รู้ว่าหลายปีมานี้เศรษฐกิจของหัวเซี่ยพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การค้านำเข้าและส่งออกต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นทุกปี เมื่อก่อนผมรู้จักเพื่อนที่ทำเื่นำเข้าการค้าต่างประเทศอยู่สองสามคน รู้ว่าตอนนี้อุปกรณ์ไฟฟ้าและรถยนต์ของต่างประเทศได้รับความนิยมมาก ดังนั้นจึงนำเข้าของมาลอตหนึ่ง ้าจะหารายได้สักหน่อย เส้นทางที่จะค้าขายก็ล้วนหาไว้แล้ว รอแค่ให้ของมาถึง … แต่่นี้เกิดเื่นิดหน่อย ของถูกยึดอยู่ที่ท่าเรือทางเหนือ”
หวงชานพูดอย่างเกรงใจอยู่บ้าง พอพูดถึงของ ใบหน้าเขาก็เศร้าหมอง
“อ้อ? ของอะไร? เื่ผิดกฎหมายฉันไม่ทำนะ และ … สถานการณ์ของฉันนายก็น่าจะเข้าใจ เื่นี้ถึงฉันอยากจะช่วยแต่ก็คงช่วยไม่ได้!” เมื่อเจียงไป๋ได้ยินอย่างนี้แล้ว สีหน้าก็แปรเปลี่ยนพลางขมวดคิ้วพูด
โลกนี้ก็พอๆ กับใน่สิบปีก่อนของโลกที่เขาเคยอยู่ ดังนั้นเวลานี้ ของนำเข้ายังคงขายดีมาก หลายคนกำลังหันมาจับธุรกิจนี้
แน่นอนว่ามีบางคนนำเข้ามาโดยผ่านทางที่ถูกกฎหมาย แต่มีบางคนก็ใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใส
หวงชานเป็ใคร เจียงไป๋ก็รู้ดี แค่ปฏิกิริยาแรกก็รู้ว่าเ้านี่ไม่ได้ขนส่งมาทางที่ถูกกฎหมาย
“อ้อ มีของส่วนตัวนิดหน่อย แต่ปริมาณไม่มาก ไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วน ของอื่นๆ ผมรับประกันว่าล้วนเป็ของถูกกฎหมาย มีระเบียบการ ออกภาษีประเทศ ล้วนเป็ของจริงทั้งหมด ไม่มีปลอมแม้แต่น้อย คุณก็รู้ ยุคนี้ถึงจะเป็นักธุรกิจที่ตรงไปตรงมาแค่ไหนก็มักจะแอบยัดไส้ของส่วนตัวมาด้วยเล็กน้อย คุณก็อย่าดูว่าหวงชานไม่ได้เดินทางที่ถูกต้อง แต่เื่ความถูกต้องและไม่ถูกต้องอย่างนี้ พอเกิดเื่ก็อาจจะหัวขาดได้ทุกเวลา ผมจะไม่ลังเลและไม่กลัวคุณหัวเราะใส่ ธุรกิจนี้ของผมถูกกฎหมายยิ่งกว่าบริษัทที่ถูกกฎหมายเสียอีก!”
เมื่อหวงชานได้ยินคำพูดของเจียงไป๋แล้ว ก็เข้าใจความหมายทันที เขารีบตบอกพูดสัญญาอย่างเต็มไปด้วยน้ำใสใจจริงและน่าเชื่อถือ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้