ถังเยี่ยนที่อุ่นอาหารทุกอย่างจนร้อนหมดแล้ว เธอก็หยิบชามเล็ก ๆ ออกมาแล้วตักอาหารส่วนที่เป็เนื้อเพื่อแอบกินเอง เธอรีบกินอย่างรวดเร็วจากนั้นเธอก็ล้างชามและเช็ดปากให้สะอาด เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงโง่ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เธอทำอาหารเสร็จตั้งนานแล้ว แต่พึ่งจะมาแอบกินตอนที่ทุกคนกำลังจะกลับมาที่บ้านถ้าเธอกินตอนทำเสร็จก็ไม่ต้องมารีบเร่งอะไรแบบนี้ เมื่อคิดได้แบบนั้นก็อดหัวเราะตัวเองไม่ได้ คิดเสียว่าตอนนี้เธอก็เป็แค่เด็กเจ็ดขวบแล้วกัน เมื่อคิดถึงตนเองตอนเด็กในชาติที่แล้วเธอคงไม่กล้าทำอะไรแบบนี้
ทุกคนในบ้านเมื่อกลับมาถึงบ้านก็เห็นอาหารเตรียมพร้อมไว้บนโต๊ะหมดแล้ว และถังเยี่ยนยังเตรียมน้ำล้างมือเอาไว้ให้โดยเฉพาะ เพียงแค่ล้างมือเสร็จก็สามารถยกตะเกียบกินข้าวต่อได้เลย
เย่เหยาที่เห็นว่าลูกเลี้ยงจัดเตรียมทุกอย่างไว้พร้อม เธอก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
เมื่อสมาชิกทั้งสี่กินข้าว ถังเยี่ยน ก็แอบหลบเข้าไปในห้องนอนที่นอนกับพี่ชาย เมื่อคืนนี้ทั้งสองไม่ได้นอนในห้องนอนของตนเองเพราะไม่ได้จุดเตาเอาไว้ จึงนอนอยู่ที่ห้องรับแขกเพราะภายในห้องรับแขกจะจุดเตาให้ความอบอุ่นตลอดเวลาใน่ฤดูหนาว
แต่วันนี้ถังเยี่ยนก็เตรียมจุดไฟในห้องนอนของตนเองเอาไว้แล้ว ทำให้คืนนี้สองพี่น้องสามารถนอนในห้องของตนเองได้ ไม่ต้องไปนอนบนพื้นในห้องรับแขกอีกแล้ว
ภายในห้องที่ถูกจุดไฟเอาไว้นานแล้วเมื่อเข้ามาก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่มีอยู่ภายในห้อง ถังเยี่ยนก็หยิบเสื้อผ้าที่เธอแอบซ่อนเอาไว้ เอาออกมาซ่อมต่อจากเดิมที่ยังทำไม่เสร็จ
ถังหยวนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับชามอาหารที่เย่เหยาแบ่งให้เขา ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆ แม่เลี้ยงถึงได้แบ่งอาหารให้เขากับน้องสาว เพราะทุกวันทั้งสองจะต้องรอกินอาหารที่ทั้งสี่ กินเสร็จก่อนค่อยถึงเวลาของพวกเขากิน
เมื่อเดินเข้ามาก็เห็นน้องสาวของตนกำลังตั้งใจเย็บเสื้อผ้าที่มีรอยขาดของเขาอยู่
“เสี่ยวเยี่ยนน้องเย็บผ้าเป็ั้แ่เมื่อไหร่พี่ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย” เขาวางชามลงบนโต๊ะที่มีในห้อง ยิ่งเห็นน้องสาวตั้งใจเย็บผ้าอย่างละเอียดทุกฝีเข็มก็รู้สึกประหลาดใจจริงๆ
“ฉันอยู่บ้านหลังจากทำอาหารไม่มีอะไรทำก็เลยลองหัดดูน่ะ เห็นเสื้อผ้าของพี่มีรอยขาดเยอะฉันเลยอยากทำอะไรให้พี่บ้าง” ถังเยี่ยนเอ่ยพูดกับพี่ชายแต่มือก็ตั้งใจเย็บไม่หยุด
“น้องสาวพี่เก่งจริงๆ ถ้าแม่อยู่ก็คงจะดีใจ” เขาเอ่ยชมน้องสาว แต่เมื่อคิดถึงแม่ที่จากไปก็รู้สึกเศร้า
“พี่อย่าพูดถึงแม่เลยแม่ก็จากไปหลายปีแล้ว เรามาตั้งใจใช้ชีวิตตนเองให้ดี ดีกว่าแม่จะได้ไม่เป็ห่วง” ถังเยี่ยนก็คิดถึงแม่เหมือนกัน ถึงแม้แม่จะจากไปหลายปีแล้ว แต่เธอก็ยังจดจำความรักความอบอุ่นที่แม่มีให้
“เอาละพี่ไม่พูดแล้ว น้องรีบมากินข้าวเถอะยังร้อนๆ อยู่เลย” ถังหยวนยกชามมาวางตรงหน้าน้องสาว
ถึงแม้ในชามจะไม่มีเนื้อแม้แต่ชิ้นเดียว แต่สำหรับถังหยวนที่ต้องรอกินอาหารเหลือจากคนอื่นมาตลอด แต่วันนี้กลับได้ส่วนแบ่งอาหารมา เท่านี้เขาก็รู้สึกดีใจมากแล้วถึงจะไม่ได้กินเนื้อก็ตาม
“พี่กินเถอะฉันไม่หิวจริงๆ ” ถังเยี่ยนไม่ได้สนใจอาหารตรงหน้า เพราะตอนนี้ท้องของเธอรู้สึกอิ่มมาก
“ไม่ได้เธอต้องกินหากเธอไม่กินพี่ก็จะไม่กิน” ถังหยวนพยายามยัดตะเกียบใส่มือเล็กๆ ของน้องสาว
ถังเยี่ยนส่ายหัวแล้ววางตะเกียบกลับเข้าไปในมือของพี่ชาย
“พี่ชาย พี่กินเถอะฉันกินแล้วจริงๆ นะ ฉันแอบกินตอนทำอาหารน่ะ พี่นั่นแหละรีบกินเถอะ” ถังเยี่ยนกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของพี่ชาย
“น้องกินแล้วจริงๆ หรอ? ” ถังหยวนไม่อยากเชื่อว่าน้องสาวที่ขี้กลัวของเขา น้องสาวที่เชื่อฟังคำแม่เลี้ยงมาตลอดแต่กลับกล้าแอบกินอาหาร
“พี่ฉันกินแล้วจริงๆ และฉันยังแอบทำหมั่นโถวจากแป้งขาวเอาไว้ด้วยเอาไว้กินตอนพวกเราหิว” ถังเยี่ยนกระซิบบอกพี่ชายด้วยรอยยิ้ม
ถังหยวนที่ได้รู้ว่าน้องสาวต้องแอบกินข้าว เขากลับไม่ได้รู้สึกดีใจเลย ไม่ใช่เพราะว่าเขากลัวแม่เลี้ยงจะรู้ แต่เพราะเขารู้สึกว่าตนเองเป็พี่ชายที่ไร้ประโยชน์ ที่ไม่สามารถทำให้น้องสาวอิ่มท้องได้ ทำให้น้องสาวต้องแอบกินข้าวลับหลังคนอื่น
เขาลูบหัวน้องสาวด้วยความเอ็นดูแล้วพูดว่า “คราวหน้าระวังกินให้ดีนะ อย่าให้พวกเขาเห็น” เขาไม่ได้คัดค้านการกินแบบลับๆ ของน้องสาวเพราะน้องสาวของเขาก็ทำงานในบ้านควรจะได้กินอาหารเหมือนคนในบ้าน
ขนาดสองพี่น้องถังลี่จูกับถังลู่ชิงที่ไม่ได้ทำงานในบ้านเลย แต่พวกเขากลับได้กินอาหารดีๆ ทุกอย่างที่มีในบ้าน แม้แต่พ่อของเขายังยอมเสียสละให้เด็กสองคนนั้น
ดูอย่างถังลี่จูที่อายุเพียงแค่ห้า ขวบแต่กลับตัวโตกว่าน้องสาวเขาที่มีอายุเจ็ดขวบ ทั้งสูงกว่า และมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า แล้วยังมีถังลู่ชิงที่อายุน้อยกว่าเขาถึงสามปีแต่กับตัวโตมากกว่าเขาเสียอีก ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าทำไมถึงเป็อย่างนั้น แต่ภายในใจของถังหยวนก็ยังรู้สึกไม่พอใจอยู่ดี ทั้งๆ ที่เขาก็เป็ลูกของพ่อเหมือนกัน แล้วเขายังเป็ลูกทางสายเือีกด้วย เมื่อคิดแบบนี้น้ำตาก็ไหลออกมาเพราะความน้อยใจ
“พี่เป็อะไรร้องไห้ทำไม” ถังเยี่ยนที่เห็นน้ำตาของพี่ชายไหลออกมาก็ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้
“ไม่มีอะไรหรอก สงสัยควันในห้องมันจะเยอะเกินไปเลยแสบตาน่ะ” เขาไม่กล้าบอกน้องสาวจริงๆ ว่าน้อยใจพ่อ เขาก็กลัวน้องสาวจะคิดมากด้วยเช่นกัน
“พี่รีบกินข้าวเถอะ” ถังเยี่ยนแม้เธอจะรู้ว่าทำไมพี่ชายถึงร้องไห้ แต่เธอก็ไม่คิดจะพูดมันออกไป กลัวจะทำลายความภาคภูมิใจของพี่ชาย เขาพยายามทำตัวเข้มแข็งเพื่อปกป้องเธอ
ถังเยี่ยนไม่ได้คิดจะบอกเื่ที่เกิดขึ้นกับเธอ แม้เธอจะรู้ว่าพี่ชายสามารถไว้ใจได้ และเขาจะไม่ทำร้ายเธอแน่นอน เธอไม่อยากให้พี่ชายโกรธแค้นคนอื่นเหมือนเธอ เธออยากให้เขาเป็พี่ชายที่ซื่อสัตย์บริสุทธิ์เป็พี่ชายที่ใจดีแบบนี้ตลอดไป ให้เธอเป็คนโกรธแค้นคนเดียวก็พอแล้ว เธอเจอโลกมามาก เื่พวกนี้เธอสามารถรับมันเอาไว้ได้
“พี่ชายกินนี่ด้วยสิ” ถังเยี่ยนเอาหมั่นโถวไปใกล้เตาไฟเพื่อให้ได้ไอร้อน ทำให้หมั่นโถวตอนนี้มีไออุ่นเล็กน้อย
เมื่อถังหยวนกินข้าวหมดเธอก็รีบเอาหมั่นโถวที่อุ่นเอาไว้ออกมาให้พี่ชายกิน เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าเขาค่อนข้างเป็คนกินเยอะเพราะทำงานหนัก และั้แ่แม่เสียชีวิตไปเขาคงไม่เคยได้กินอาหารจนอิ่มเลย วันนี้เธอเลยอยากให้เขาได้กินอาหารให้อิ่มท้องจนเต็มที่
ถังหยวนมองหมั่นโถวที่มีไอร้อน เขาเพียงคิดแค่ว่าน้องสาวอาจจะพูดเล่นเท่านั้น ที่น้องสาวพูดว่าแอบทำหมั่นโถวเอาไว้ เขาไม่คิดว่าน้องสาวจะทำมันจริงๆ
“เธอทำแบบนี้แม่ไม่รู้จริงๆ หรอ” ถังหยวนกลัวว่าแม่เลี้ยงจะรู้หากรู้น้องสาวคงจะถูกตีอย่างหนักแน่นอน
“พี่รีบกินเถอะ แม่ไม่รู้หรอกฉันทำอาหารมาหลายปีแล้วแม่ไม่เคยมายุ่งเื่อาหารในครัวเลย”
“เอาละพี่จะกินแล้ว” ถังหยวนเพิ่งเคยกินหมั่นโถวที่ทำจากแป้งบริสุทธิ์ขนาดนี้เป็ครั้งแรกในชีวิต
ขนาดตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่เขายังไม่เคยกินเลย การจะกินหมั่นโถวที่ทำจากแป้งขาวบริสุทธิ์ขนาดนี้ก็ถือว่าเป็ของสิ้นเปลือง
“น้องใส่น้ำตาลด้วยหรอ” ถังหยวนตั้งใจกินหมั่นโถวอย่างช้าๆ เพราะ้ารับรู้รสชาติของมันทั้งหมด เมื่อได้กินก็พบว่ามีรสชาติหวานๆ เล็กน้อย
“ใช่ฉันใส่ลงไปนิดหน่อยนะ พี่ว่าอร่อยไหม”
“อร่อยสิอร่อยมากพี่ไม่เคยกินอะไรอร่อยแบบนี้มาก่อนเลย” ถังหยวนเอ่ยพูดไปด้วย และก็กินไปด้วยบนใบหน้าของเขามีรอยยิ้มตลอด
ถังเยี่ยนที่เห็นรอยยิ้มของพี่ชายก็ยิ่งอยากทำให้ชีวิตของเธอกับพี่ชายดีขึ้น เธออยากให้พี่ชายได้กินของอร่อยมากมายที่เขาไม่เคยกิน เธออยากให้เขารู้ว่าบนโลกใบนี้มีของอร่อยอีกมากมาย ที่เขาสามารถกินได้
“พี่กินอีกชิ้นไหมฉันทำไว้หลายชิ้นเลยล่ะ” ถังเยี่ยนมองหมั่นโถวชิ้นโตที่ถูกพี่ชายเธอกินหมดไปอย่างรวดเร็ว
บนใบหน้าของถังหยวนฉายความลังเลว่าจะกินอีกดีไหม
ถังเยี่ยนเห็นความลังเลบนใบหน้าของพี่ชายเธอก็ไม่สนใจอะไรแล้ว หยิบหมั่นโถวอีกหนึ่งชิ้นออกมาจากนั้นก็ยัดใส่มือพี่ชาย ส่วนที่เหลือเธอก็เก็บซ่อนเอาไว้ใต้เตียงที่เดิม
“พี่รีบกินเถอะเดี๋ยวฉันจะออกไปเก็บโต๊ะก่อน” ถังเยี่ยนไม่รอให้พี่ชายปฏิเสธเธอยัดหมั่นโถวใส่มือของเขาจากนั้นเธอก็เดินออกไปจากห้อง
“พี่ชาย คุณมีเงินไหม?” ถังเยี่ยนเอ่ยถามถังหยวนเมื่อเขากลับมาจากทุ่งนาในตอนเย็นของวันต่อมา
ถังเยี่ยนอยากลองขายอะไรสักอย่าง แต่บนตัวของเธอไม่มีเงินแม้แต่เฟินเดียว เธอจึงลองเอ่ยถามพี่ชายดูเผื่อเขาจะมี หากไม่มีค่อยคิดหาวิธีใหม่ดู
“เสี่ยวเยี่ยนน้องอยากได้เงินหรอ เดี๋ยวนะ พี่ชายจะไปเอามันมาให้น้อง” ถังหยวนขุดดินใต้เตียงเล็กน้อยจากนั้นก็หยิบห่อผ้าออกมา
ถังหยวนเขาเปิดห่อผ้านั้นออกก็พบเงินเหรียญจำนวนมาก เมื่อสองพี่น้องช่วยกันนับดูแล้วก็พบว่ามีเงินจำนวนมากถึงสิบหยวนเลยทีเดียว เงินสิบหยวนในยุคนี้ถือว่าเป็จำนวนเงินที่มาก เทียบเท่ากับเงินเดือนของพนักงานในโรงงานที่สามารถทำได้ในหนึ่งเดือน
“เสี่ยวเยี่ยนเงินนี้น้องอยากได้อะไร อยากเอาไปซื้ออะไรน้องเอาไปใช้ได้หมดเลย” ถังหยวนลูบหัวเล็กๆ ของน้องสาวด้วยความเอ็นดู
ถังเยี่ยนมองเงินที่มีอยู่นี้ด้วยความหวัง เธอจะนำเงินนี้ไปลงทุนทำอะไรสักอย่างขาย หาเงินเป็หลักประกันให้เธอกับพี่ชายสามารถตั้งตัวได้
“พี่ชายฉันไม่ได้จะเอาเงินนี้ไปซื้ออะไรกินหรอกนะ ฉันก็ไม่มีอะไรอยากจะได้เป็พิเศษด้วย แค่อยากจะเอาเงินนี้ไปเป็เงินทุนทำอะไรขาย” ถังเยี่ยนเอ่ยด้วยความมั่นใจและความหวังที่มีอยู่
ถังหยวนที่เห็นน้องสาวตั้งใจอยากทำอะไรสักอย่างเขาก็ไม่ได้คิดจะเอ่ยห้ามหรือขัดขวาง ไม่ได้รู้สึกเสียดายเงินที่มีอยู่เลย หากเสียเงินนี้ไปเขาก็คิดว่าสักวันก็หาใหม่ได้
ถังเยี่ยนที่มีเงินอยู่ในมือแล้วเธอก็มีความมั่นใจ วันต่อมาเมื่อทุกคนในบ้านออกไปทำงานกันหมดแล้ว เธอก็รีบออกจากบ้านด้วยเช่นกันเพราะจะต้องรีบไปซื้อของที่้า ยังต้องรีบกลับมาก่อนเที่ยง
ถังเยี่ยนใช้เงินที่มีอยู่ซื้อน้ำตาล ห้าชั่ง และก็ซื้อเกลืออีกชั่ง และเธอก็ยังซื้อกระดาษไขสำหรับทำอาหาร และก็ซื้อกล่องใส่ขนมมาด้วย ใช้เงินทั้งหมดไปเพียงแค่ห้าหยวนเท่านั้น
เมื่อเธอซื้อของทั้งหมดตามที่้าแล้วเธอก็รีบเดินกลับบ้าน เมื่อใกล้ถึงทางเข้าหมู่บ้าน เธอก็เอาของที่เธอซื้อแอบซ่อนไว้ในพงหญ้า เธอไม่กล้าขนมันกลับอย่างโจ่งแจ้งเธอกลัวจะมีคนในหมู่บ้านมาบังเอิญเห็นเข้า หากมีคนเห็นจะต้องมีคนนำเื่นี้ออกไปพูดแน่นอนว่าเห็นเธอซื้อของมาจำนวนมาก และเื่นี้คงจะต้องไปถึงหูของแม่เลี้ยงของเธอแน่นอน หากถูกถามเธอก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
ถังเยี่ยนคิดว่าเมื่อทุกคนหลับไปแล้ว เธอก็จะพาพี่ชายมาช่วยขนเอาของพวกนี้ กลับซ่อนไว้ในห้อง เพราะเย่เหยาไม่เข้ามาห้องพวกเธออยู่แล้ว
“ทำไมน้องถึงซื้อน้ำตาลกับเกลือมามากขนาดนี้ล่ะ? ” ถังหยวนมองน้ำตาลกับเกลือและกระดาษไขจำนวนมากที่น้องสาวซื้อมาเขาเพียงรู้สึกประหลาดใจ แต่เขาไม่ได้ตำหนิน้องสาว
“ถึงห้องเดี๋ยวฉันจะอธิบายให้พี่ฟังแล้วกัน หากมีคนบังเอิญมาเห็นเข้าคงจะเป็เื่แน่”
พี่ชายและน้องสาวเดินอย่างระมัดระวัง ในหมู่บ้านตอนนี้มืดสนิทไม่มีแม้แต่แสงไฟ ตอนกลางคืนค่อนข้างมืดและน่ากลัวเล็กน้อย และยังเป็่ฤดูหนาวที่ตอนนี้อากาศช่างหนาวเย็น
เมื่อกลับมาถึงบ้านสองพี่น้องก็รีบเข้าไปที่ห้องนอนของตนเอง ก่อนออกจากห้องถังเยี่ยนได้จุดไฟในห้องเอาไว้แล้ว ทั้งสองที่เผชิญความหนาวจากข้างนอกเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องก็ได้รับไออุ่น
ถังหยวนวางของที่ซื้อมาไว้บนเตียงจากนั้นก็ล็อคประตูห้องให้สนิท จากนั้นก็จุดเทียนในห้อง ทำให้ภายในห้องตอนนี้สว่างและสามารถเห็นทุกอย่างได้ทั้งหมด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้