" ตกลงแลกเปลี่ยน! "
คำสองคำที่ฮวาเหยียนกล่าวว่าออกมานั้นช่างเรียบร้อยและชัดเจน
จีอู๋ซวงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางน้อยตรงหน้าตอบตกลงด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข
“เช่นนั้นแล้ว แม่นางเหยียน เ้าจะกลับไปที่จวนเพื่อนำของมาหรือไม่? ”
จีอู๋ซวงถาม
วินาทีถัดมา แม่นางน้อยที่อยู่ตรงหน้าจู่ๆ ก็ล้วงหยิบของออกมาจากสาบเสื้อบริเวณข้อมือของนาง มือน้อยหยิบกล่องใบหนึ่งออกมา ก่อนจะนำมันมาวางลงบนโต๊ะ "ของที่ท่าน้าอยู่ที่นี่"
จีอู๋ซวงลูบจมูกของเขา แม่นางน้อยพกของที่ล้ำค่าติดตัวไปด้วยทุกที่ ช่างกล้าหาญยิ่งนัก
เขาหยิบมันขึ้นมาและเปิดกล่องต่อหน้าฮวาเหยียน มีความรู้สึกใจร้อนอยู่เล็กน้อย
เมื่อเปิดกล่องออกมา สิ่งที่ดึงดูดสายตาได้ทันทีคือผลไม้ที่มีรูปทรงงดงาม มันมีขนาดเท่าฝ่ามือ ทั้งผลเป็สีแดงโลหิต สุกใสและหยดย้อยราวกับสามารถคั้นเืจริงๆ ให้ไหลออกมาได้ บนิัชั้นนอกมีชั้นของหมอกบางๆ เกาะอยู่ซึ่งโดยทั่วไปเรียกกันว่าพลังิญญา
ผลไม้ิญญาโลหิตสีชาดผลนี้สดใสและเป็มันเงา ไม่สูญเสียพลังิญญาใดๆ ราวกับว่าเพิ่งเก็บสดๆ มาจากต้นของมัน
น่าเหลือเชื่อยิ่งนัก
ดวงตาอันเกียจคร้านของจีอู๋ซวงเบิกกว้างขึ้นมาทันที "เป็ไปได้อย่างไร? "
เขาอุทานอย่างประหลาดใจ
ชายหนุ่มเงยหน้ามองฮวาเหยียน “แม่นางเหยียน เ้าเก็บผลไม้ิญญาโลหิตสีชาดนี้ั้แ่เมื่อใด เหตุใดมันจึงสดยิ่งนัก? ”
เขาถามอย่างตื่นเต้น
ในใจของฮวาเหยียนย่อมทราบว่าเขาประหลาดใจด้วยเหตุอันใด พื้นที่ันที (蛟龙空间) ของนางมีพลังงานที่คงความสดใหม่ไว้ นางจึงใส่ผลไม้จิติญญารวมถึงยาอายุวัฒนะลงในไข่มุกัคะนองน้ำ (蛟龙珠) ดังนั้นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็จะยังคงความสดใหม่อยู่เสมอ
แต่ฮวาเหยียนไม่ได้วางแผนที่จะอธิบายให้จีอู๋ซวงฟังถึงเื่นี้เพราะพวกเขายังไม่รู้จักและคุ้นเคยกันเท่าไหร่นัก
เห็นเพียงฮวาเหยียนที่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย "หลงจู้จี สินค้าสดใหม่ย่อมดีที่สุดมิใช่หรือ? "
“แน่นอนว่าย่อมดี ทว่าข้าก็เพียงสงสัยเท่านั้น”
จีอู๋ซวงลูบจมูกของเขาอีกครั้ง นั่นเผยให้เห็นถึงความคิดที่ระมัดระวัง
ฮวาเหยียนเหลือบมองเขาและยืนขึ้น "ท่าน้าจะทราบก็ย่อมได้ ราคาข้อมูลระบุไว้ชัดเจนที่หนึ่งหมื่นตำลึง"
จีอู๋ซวง "...! "
เขามองนางไม่ออกเลย แม่นางตรงหน้านี้... ที่แท้แล้วเป็พวกที่เห็นแก่เงิน
“ช่างมันเถิด เงินหนึ่งหมื่นตำลึง คุณชายเช่นข้าสามารถใช้เงินนี้จ่ายเพื่อฟังเพลงที่หอหลิ่วเซียงได้หลายสิบเพลงเชียว…”
หอหลิ่วเซียงเป็หอคณิกาที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง
“ไม่คิดว่าหลงจู้จีจะมีงานอดิเรกเช่นนี้” ฮวาเหยียนเลิกคิ้วขึ้น
"คุณชายเช่นข้ามีงานอดิเรกที่โปรดปรานอยู่สองอย่างในชีวิตคือนอนและฟังเพลง"
น้ำเสียงของจีอู๋ซวงแสดงอารมณ์ที่ชัดเจนว่าช่วยไม่ได้ที่ถูกนางปฏิเสธ
ฮวาเหยียนยักไหล่และไม่ได้ต่อบทสนทนากับเขา เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง ่เวลาทานอาหารก็ใกล้จะจบลงและนางก็รู้สึกหิวเล็กน้อย เสี่ยวไป๋ที่นอนอยู่บนโต๊ะและดื่มชาไปสามถ้วยก็หิวจนแทบจะทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน บรรยากาศเริ่มน่าอึดอัด จะอยู่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นนางจึงยืนขึ้นและกล่าวว่า "หลงจู้จี วันนี้ไว้เพียงเท่านี้ก่อนเถิด พรุ่งนี้ข้าจะกลับมาหาท่านที่นี่ในเวลาเดิม"
“เ้ายังมีสินค้าที่้าจะขายอีกหรือ? ”
จีอู๋ซวงถามไปโดยม่รู้ตัว
ฮวาเหยียนเม้มริมฝีปากของนาง นางเองก็ไม่ได้้าจะขายมัน แต่ช่วยไม่ได้ที่ตอนนี้นางที่ติดหนี้ไว้สามล้านตำลึง ยังหาเงินได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของมันเลย...
"มี"
"คือสิ่งใด? "
ดวงตาหงส์ของจีอู๋ซวงสว่างขึ้นทันที แม้แต่หัวใจทั้งดวงของเขาเองก็ตื่นเต้นเช่นกัน
เขารู้สึกว่าสตรีที่อยู่ข้างหน้าตอนนี้เป็คลังสมบัติ
"พรุ่งนี้ค่อยคุยเถิด"
ฮวาเหยียนตอบกลับ
คืนนี้นางจะกลับไปรวบรวมและวางแผนว่าจะขายอะไรบ้างเพื่อให้ได้เพียงพอกับเงินสามล้านตำลึง หลังจากนั้นค่อยพาสมาชิกของตระกูลมู่ไปที่จวนไท่จื่อ โยนทองและเงินทั้งหมดใส่หน้าคนสารเลวนั่น เมื่อนึกถึงภาพนั้น ฮวาเหยียนก็รู้สึกสบายอกสบายใจยิ่งนัก
นางลุกขึ้นและเงยหน้าขึ้นมองไปที่ผลไม้ิญญาโลหิตสีชาดที่อยู่บนโต๊ะ “คิดเงินเถิดหลงจู้ เวลาไม่เช้าแล้ว”
จีอู๋ซวง "...! "
แม่นางคนนี้ คิดว่าหออู๋ิของพวกเขาจะปิดตาคิดเงินส่งเดชให้นางหรือ?
แต่เมื่อเห็นว่าฮวาเหยียนกำลังทำท่าจะจากไปจริงๆ เขาจึงไม่ลังเลอีก แม่นางบอกแล้วว่าพรุ่งนี้จะมาอีกมิใช่หรือ?
ดังนั้นเขาจึงเรียกข้ารับใช้มาเพื่อออกคำสั่งให้เขานำสัญญาซื้อขายมา และคำนวณราคาของผลไม้ิญญาโลหิตสีชาด ซึ่งนั่นก็คือเงินจำนวนสามแสนห้าหมื่นตำลึง
ดวงตาของข้ารับใช้ที่มองฮวาเหยียนส่องประกายวาบวับ แม่นางท่านนี้ขายสินค้าใดถึงมีราคาถึงสามแสนห้าหมื่นตำลึง บวกรวมกับเงินจากหญ้าิญญาลึกลับเมื่อสักครู่ รวมเป็หนึ่งล้านห้าแสนห้าหมื่นตำลึง
์ทรงโปรด
ร่ำรวยยิ่งนัก
มหาเศรษฐี
“แม่นาง นี่ให้ท่าน”
ข้ารับใช้ยิ้มตาหยี บริการเหนือระดับ ใช้สองมือประคองสัญญาส่งถึงตรงหน้าฮวาเหยียน
ฮวาเหยียนเก็บสัญญาอย่างระมัดระวัง ดูเคร่งขรึมเป็อย่างยิ่ง
ทั้งหมดนี้คือหนี้ของนางนี่นา!
“แม่นาง หออู๋ิของข้ามีสภาพทางการเงินที่คล่องเป็อย่างยิ่ง หากแม่นาง้าถอนเงินก็สามารถมาได้ตลอดเวลา”
ข้ารับใช้พูดอย่างจริงจัง
ฮวาเหยียนชำเลืองมองเขาและตระหนักว่าคนคนนี้เป็ข้ารับใช้ต้อนรับที่ฉลาดเฉลียวคนนั้น เป็คนที่ตีก้นม้า [1] ของฉู่รั่วหลานจนได้รับรางวัลมากมาย
มองดูดวงตาที่เปล่งประกายของเขา ฮวาเหยียนรู้สึกว่าข้ารับใช้คนนี้ยังถือว่ามองแล้วสบายตา นอกจากนี้นางยังทำเงินได้เป็จำนวนมากที่นี่ ในใจรู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย ดังนั้นนางจึงล้วงๆ หยิบๆ ของออกมาจากแขนเสื้อ ได้มาเป็เงินตำลึงก้อนเล็กๆ ยื่นให้เขา "เงินพิเศษ"
ข้ารับใช้ "...! "
เงินตำลึงชิ้นเล็กชิ้นนี้มีมูลค่าไม่เกินสองตำลึง
เหตุใดสตรีนางนี้ถึงแคะประตู [2] ขนาดนี้เล่า!
แม้แต่จีอู๋ซวงก็ตกตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน สตรีนางนี้ใช้ชีวิตได้เก่งเกินไปแล้ว นางมีเงินอยู่ในมือตั้งมากมาย แต่กลับให้รางวัลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ดูเหมือนนางจะเข้าใจสายตาของสองคนนี้ ฮวาเหยียนเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะกล่าวเบาๆ "อะไร? น้อยไปหรือ? เช่นนั้นก็เอาคืนมา"
ฮวาเหยียนขมวดคิ้ว นี่คือสิ่งที่นางใช้ความอุตสาหะหยิบออกมาเชียวนะ
ต้องรู้ก่อนว่าตอนนี้นางกำลังมีหนี้สินล้นพ้นตัว
“ไม่น้อย ไม่น้อย ขอบคุณท่านมากสำหรับเงินรางวัล”
ข้ารับใช้รีบเก็บเงินสองตำลึงนั่น ล้อกันเล่นหรือเปล่า นี่ก็นับเป็เงินเช่นเดียวกันนะ
“หลงจู้จี พรุ่งนี้เจอกัน”
ฮวาเหยียนเปิดปากลา พลางย่างเท้าเดินลงไปชั้นล่าง
“โอ้ แม่นางเหยียน ข้าจะลงไปส่งเ้าข้างล่าง”
จีอู๋ซวงเก็บกล่องผลไม้ิญญาโลหิตสีชาดไว้กับตัว ก่อนจะตามฮวาเหยียนลงไปข้างล่าง เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ท่าทีในปัจจุบันของเขาไม่รู้ว่าใส่ใจมากขึ้นกี่เท่ากัน
เมื่อลงไปชั้นล่าง ห้องโถงของหออู๋ิมีชีวิตชีวาอย่างหาใดเปรียบ และพวกเขาต่างก็รอที่จะซื้อหญ้าิญญาลึกลับ เมื่อพวกเขาเห็นจีอู๋ซวงลงมาก็รีบโอบล้อมกันเข้ามาทันที "หลงจู้จี ตกลงแล้วหญ้าิญญาลึกลับนี่จะขายหรือไม่ หากขาย พวกเราก็จะซื้อมันเดี๋ยวนี้”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ดีที่ข้าพกเงินติดตัวมาด้วย”
"เร็วหน่อยเถิด ข้ารอมานานมากแล้ว"
ฝูงชนโห่ร้องอย่างกระตือรือร้นเพราะกลัวว่าหากพลาดไปในวันนี้ จะหาซื้อไม่ได้อีกในอนาคต
ฮวาเหยียนเพิกเฉยต่อสายตาที่แสดงถึงคำถามของทุกคน นางเดินไปถึงประตูแล้ว ในตอนนั้นถึงได้ยินจีอู๋ซวงพูดว่า "ขาย! สอหมื่นตำลึงต่อต้น"
"สองหมื่นตำลึง? แพงขึ้นอีกเท่าเลยนะ"
มีคนอุทานขึ้นมา
ลูกค้าของหออู๋ิก่อนหน้านี้ล้วนทราบว่าฮวาเหยียนขายหญ้าิญญาลึกลับนี้ให้แก่หออู๋ิในราคาหนึ่งหมื่นตำลึง
"แพงไปหรือ? ไม่้าก็ย่อมได้"
จีอู๋ซวงเปิดปากพูดอย่างไม่ใส่ใจ เขาหันไปพูดกับข้ารับใช้ว่า "มีสิบต้นอยู่ในคลังแต่ไม่ขายให้บุคคลภายนอก"
ข้ารับใช้ด้านข้างพยักหน้า แสดงถึงการรับรู้
ทันทีที่จีอู๋ซวงพูดออกมาเช่นนี้ ลูกค้าเ่าั้ก็รีบพุ่งไปที่หน้าโต๊ะคิดเงินอย่างบ้าคลั่ง "ข้า้าหนึ่งต้น ข้าขอหนึ่งต้น"
"สองต้น"
“ข้าเองก็้าเช่นกัน สองหมื่นตำลึงไม่ถือว่าแพงจนเกินไป สตรีนางนั้นที่ใช้เงินไปหนึ่งแสนตำลึงเพื่อซื้อนั่นย่อมไม่มีคุณภาพเท่าต้นนี้”
"แย่งมาเร็วเข้า หญ้าิญญาลึกลับมีราคาแพงและหาซื้อไม่ได้ในตลาด หากซื้อช้าก็จะหมดไป"
ทันใดนั้นในหออู๋ิก็เกิดการแย่งชิงกันขึ้น
ฮวาเหยียนที่เดินมาถึงประตูแล้ว ตอนที่ได้ยินราคาที่จีอู๋ซวงะโ นางสะดุดจนเกือบจะล้มลงกับพื้น
ใจดำ ใจดำยิ่งนัก ตับก็ดำยิ่งนัก พ่อค้าใจดำ!
ไม่แปลกใจเลยที่ร่ำรวยมหาศาล!
เพียงพลิกฝ่ามือคว่ำก็ขายได้เป็ทวีคูณ! !
หัวใจของฮวาเหยียนเปรี้ยวด้วยความอิจฉาริษยา
แต่ว่าก็ช่วยไม่ได้ หากหญ้าิญญาลึกลับเหล่านี้อยู่ในมือของนาง ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นางก็คงจะไม่สามารถขายในราคาที่สูงขนาดนี้ได้เช่นกัน สิ่งนี้เรียกว่าอิทธิพล
"พ่อค้าหน้าเื"
เชิงอรรถ
[1] ตีก้นม้า 拍马屁 [pāi mǎpì] หมายถึง ขี้ประจบ
[2] แคะประตู 抠门儿 [kōu ménr] หมายถึง ขี้งก คำนี้มีเื่เล่าอยู่สองเื่ เื่แรกเล่ากันว่า มันมีเศรษฐีขี้งกคนนึง ตอนไปเผากระดาษไหว้ที่วัด เหลือบไปเห็นผงทองติดอยู่ที่ประตูวัด เลยไป "แคะประตู (วัด)" เอาทองมา ส่วนอีกเื่บอกว่ามีคนงกมากๆ คนหนึ่ง งกเสียจนขนาดที่มีประตูบ้านไม่สร้างที่จับประตูไว้ เวลาเปิดประตูบ้านต้อง "แคะ (ขอบ) ประตู" เพื่อเปิดประตูบ้านตัวเอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้