“...ดังนั้น เ้าบอกว่าเ้า้าชำระหนี้คืน เช่นนั้นเ้าจะคำนวณเงินเดือนในฐานะนางกำนัลหรือนางสนมของฮ่องเต้แห่งหยวนฉีกันล่ะ?” โม่ซีบังคับให้นางเดินถอยหลัง ทำให้ฉีซีถอยไปชนเข้ากับขอบโต๊ะ นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ไม่อาจถอยหนีได้อีกแล้ว
"...ข้า...ข้าเป็...ข้าเป็นางกำนัล..." ฉีซีกลัวถูกฆ่า จึงทำได้เพียงปฏิเสธ
“เ้า!” โม่ซีถลึงตามองนางด้วยความโกรธ คว้าฉีซีเดินไปที่กระจกทองแดงที่นางใช้แต่งหน้าหวีผมในชีวิตประจำวัน
“ดูให้ชัด! รูปร่างเช่นนี้ของเ้า จะเป็นางกำนัลได้อย่างไร? คิดว่าข้าซีอ๋องแห่งต้าจิ้งถูกหลอกง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?” โม่ซีบังคับให้ฉีซีหันหน้าไปมองกระจกทองแดง ยืนอยู่ข้างหลังนาง คว้าแขนเสื้อของนางด้วยสองมือและดึงลงมาอย่างโกรธเคือง!
อาภรณ์ที่ทอด้วยไหมเทียนซือมีความทนทาน ทว่าให้ความรู้สึกบางเบาและเย็นสบายอย่างมาก ด้วยการดึงเช่นนี้ ชุดของฉีซีจึงลื่นไหลลงมาเผยให้เห็นผ้ารัดอกสีแดงเข้มปักดิ้นทองที่อยู่ด้านใน!
“อ๊าย!” ฉีซีอุทานด้วยความใและเอื้อมมือไปปิดหน้าอก
“มือเท้าของเ้างุ่มง่ามถึงเพียงนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่เคยรับใช้ผู้ใดมาก่อน ร่างกายเพรียวบาง ผิวพรรณผุดผ่อง เย้ายวนใจ คล้ายนางกำนัลที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัดตรงไหนกัน? ในวังหลวงไม่มีทางเลี้ยงนางกำนัลที่มีผิวพรรณผุดผ่องและงดงามขนาดนี้หรอก! หากมีก็คงถูกเลื่อนขั้นเป็สนมไปนานแล้ว”
การหลอกลวงของฉีซีทำให้เขานึกถึงการเสแสร้งของหลี่อวิ๋นเจิน ซึ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เมื่อเห็นขอบตาของฉีซีเริ่มเปลี่ยนเป็สีแดง เขาจึงอยากจะรังแกมากยิ่งขึ้นไปอีก เขายกมือคว้าแขนเรียวราวกิ่งไผ่ของฉีซีล็อคไว้รอบเอวของนาง เพื่อป้องกันไม่ให้นางปกปิดร่างกายที่ปรากฏออกมา
“ไม่ ไม่ใช่เช่นนั้น นี่เป็เพียงการคาดเดาของท่าน... หลังจากข้าเข้าไปในวังหลวงได้ไม่นานก็พบกับหายนะครั้งใหญ่ และถูกคนลักพาตัวไปที่หอนางโลม...”
ฉีซีมองเงาสะท้อนของโม่ซีในกระจกทองแดง เห็นแววตาโกรธแค้นในดวงตาของเขาจึงรู้สึกหวาดกลัวสุดขีด นางไม่รู้ว่าตนไปทำอะไรให้เขาโกรธ และสิ่งที่กังวลยิ่งกว่านั้นคือหากเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของนาง จะปล่อยนางไปได้อย่างไร?
“ยังอยากเล่นลิ้นอยู่อีกหรือ? นางกำนัลจะสวมผ้ารัดท้องนี้ได้อย่างไร? เป็ไปได้ไหมว่าฮองเฮาแห่งหยวนฉีไม่เข้มงวดจนธรรมเนียมปฏิบัติยุ่งเหยิงถึงเช่นนี้?”
โม่ซีเ็ปเมื่อนึกถึงหลี่อวิ๋นเจิน ทุกคำเหน็บแนมที่เขาพูดล้วนเป็การประชดต้าจิ้งไม่ใช่หรือ?
ธรรมเนียมปฏิบัติในวังหลวงของต้าจิ้งนั้นไม่เข้มงวดเท่าที่ควร ไม่เช่นนั้นหลี่อวิ๋นเจินจะถูกผู้อื่นแย่งไปได้อย่างไร?
ทั้งสองยื้อยุดกันจนสายผ้ารัดท้องของฉีซีเลื่อนหลุดออก ทันใดนั้นดอกไม้ก็บานสะพรั่งออกมา หน้าอกอันอวบอิ่มนุ่มนวลพร้อมกลิ่นหอมเข้มของกล้วยไม้ถูกเปิดเผยต่อหน้ากระจก ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
รอยนิ้วสีม่วงอ่อนบนหน้าอกใหญ่เรียบเนียนคู่นั้น เต็มไปด้วยรอยนิ้วมือของบุรุษ
เมื่อฉีซีเห็นภาพสะท้อนร่างเปลือยเปล่าของตนในกระจก โดยมีซีอ๋องยืนอยู่ด้านหลังนาง แววตาของเขาวาววับในแสงสลัว ราวกับรู้สึกทึ่งและประทับใจ นางจึงรู้สึกอับอายมากขึ้นไปอีก
สายตาของเขาแตกต่างอะไรจากเ้าหน้าที่หอนางโลมตอนกำลังจะย่ำยีนางกัน? บุรุษที่ไปหาความสำราญบนถนนดอกไม้ล้วนเหมือนกันหมด
เหตุใดนางจึงโง่เขลาติดตามเขามา กลับกลายเป็ว่ายิ่งทำให้ตนตกอยู่ในอันตรายและต้องเผชิญกับความอัปยศมากขึ้นไม่ใช่หรือ?
ฉีซีมีสายตาเ็ป ไม่สามารถระงับอารมณ์โศกเศร้าได้อีกต่อไป ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลรินออกมาและดิ้นรน "ไม่! อย่ามองนะ! ปล่อยข้าไป... ปล่อยข้าไป..."
ทันทีที่เขาเห็นฉีซีบนตรอกโกวหลานก็รู้ได้ว่านางถูกหอนางโลมเอาเปรียบ ทว่าไม่คิดว่านางจะได้รับาเ็สาหัสถึงเพียงนี้
ภายในใจรู้ดีว่าบังคับให้นางเปิดเผยตัวตนอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ นางสนมของหยวนฉีก็ดีหรือนางกำนัลของหยวนฉีก็ช่าง ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าอาณาจักรต้าจิ้งทำลายอาณาจักรหยวนฉีจนพินาศย่อยยับ การซักถามนางซ้ำๆ เพื่อเป็การเปิดโปงคำโกหกและทำลายความภาคภูมิใจในหยวนฉีของนาง ทว่าท้ายที่สุดเขาก็รังแกนางด้วยอารมณ์ส่วนตัวของตน
การรังแกสตรีจะไปมีประโยชน์อะไร?
เขารู้ว่าเขาควรหยุด ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะะโบอกนางเสียงเข้ม "ร้องไห้ทำไม? ในฐานะนางสนมในวังหลังที่ได้ลิ้มรสความรุ่งเรืองและความมั่งคั่ง ย่อมรู้ดีว่าชะตากรรมหลังจากราชวงศ์ล่มสลายจะเป็เช่นไรไม่ใช่หรือ?”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของฉีซีราวกับถูกมีดเฉือนนับพันครั้ง อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้
หยดน้ำตาของนางหยดลงบนโต๊ะเครื่องแป้งไม้หลีฮวา รอยดำบนโต๊ะนั้นน่าใ ราวกับน้ำตาและหยดเืของหยวนฉี
ั้แ่สมัยโบราณเหล่าสตรีในตระกูลของผู้พ่ายแพ้ในาย่อมไม่มีจุดจบที่ดี แม้พวกนางจะไม่ได้เป็ผู้ก่อเหตุ ทว่าก็ต้องแบกรับความทุกข์ทนเพื่อคนในตระกูล
เมื่อโม่ซีเห็นไหล่ของนางสั่นเทิ้มจากการร้องไห้ แขนและหน้าอกที่ขาวดั่งหิมะของนางสั่นไหว ยอดถันที่บอบบางนั้นสั่นสะท้าน ทิวทัศน์ช่างงดงามเหลือเกินจนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ด้วยท่าทางเช่นนี้ยังพูดอีกหรือว่าไม่ใช่นางกำนัล? ความงามของนางนั้นเพียงพอที่จะมอมเมาผู้คน ยิ่งเมื่อเห็นเรือนร่างอันบอบบางยั่วยวนใจ กระตุ้นให้เืลมสูบฉีด ทำให้ใครเห็นเป็ต้องอยากเข้าใกล้และัันาง
"เงยหน้าขึ้น"
หน้าอกแน่นของโม่ซีดันชิดฉีซี เมื่อเห็นว่านางยังคงไม่เงยหน้าขึ้น จึงปล่อยมือและบีบคางของฉีซีเพื่อบังคับให้เงยหน้า
นางสะอื้นไห้อย่างน่าสงสาร ใบหน้าเล็กเปอระเปื้อนไปด้วยน้ำตา เสียงสะอื้นของนางแ่เบาราวกับดอกไป๋ซานฉาที่ร่วงหล่นลงพื้นในยามฝนพรำ เมื่อเห็นแล้วก็รู้สึกสงสารจับใจจนเขาอดไม่ไหวต้องถอนหายใจออกมา "ร้องไห้ทำไม เลิกดิ้นได้แล้ว เ้าคนโง่!"
หลังจากพูดจบ โม่ซีก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปกอดนาง ััอกหิมะที่สั่นเทา เนื้อนุ่มนวลและเย็นเยียบระหว่างนิ้วเรียบเนียนราวกับผ้าไหม กระตุ้นอารมณ์ทำให้เขาแทบสิ้นสติ
เขาไม่ได้ตั้งใจจะล่วงละเมิดนางั้แ่แรก เพียง้าบีบบังคับให้ฉีซีเปิดเผยภูมิหลัง ทว่าในความขัดแย้ง เสื้อคลุมของนางกลับหลุดออก เมื่อเห็นท่วงท่าอันเย้ายวนของนางจึงทำให้หัวใจเขาเต้นระรัว อดไม่ได้ที่จะโอบกอดก้อนนุ่มนิ่มโดยไม่อยากปล่อยมือ
สำหรับเขา ฉีซีเป็สตรีของเขานับั้แ่ติดตามเขากลับมาจากถนนดอกไม้และไม่มีอะไรที่ไม่สามารถแตะต้องได้ ทว่าฉีซีกลับใอย่างมากจนงอหลังและย่อตัวลง
เพียงเห็นโม่ซีกอดนางจากด้านหลัง กางนิ้วทั้งสองนิ้วออกจากกัน และดอกตูมก็เด้งออกมาระหว่างง่ามนิ้วของเขา
โม่ซีมองเกสรดอกไม้อันบอบบางในกระจก ผิวพรรณเปล่งปลั่งดั่งหยกเนื้อดี ฉีซีใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายและความโกรธเคือง กัดริมฝีปากด้วยความลืมตัว โม่ซีหนีบยอดดอกสีแดงสดไว้ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง ปลายนิ้วลูบไล้ไปมาอย่างแ่เบา
ยอดถันบอบบางดั่งกลีบดอกท้อไวต่อความรู้สึกอย่างยิ่ง ไม่สามารถทนต่อการหยอกล้ออันอ่อนโยนของโม่ซีได้ แม้ว่าฉีซีจะไม่้า ทว่ายอดถันของนางกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกสุขสมและพุ่งไปตรงไปยังบุปผาที่ช่องท้องส่วนล่าง
ฉีซีไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนอดไม่ได้ที่จะหดเกร็งช่องท้องส่วนล่าง มีความชื้นแฉะบริเวณแกนกลางบุปผา ทันใดนั้นก็มีเสียงครวญครางแ่เบาหลุดออกมา
เสียงครวญครางอันแ่เบาทำให้ทั้งสองคนตกตะลึง โดยเฉพาะฉีซีที่ไม่อยากจะเชื่อ
หัวใจนางเต้นรัวราวกับกลอง ทั้งตื่นตลึงและตื่นตระหนก ยอดถันของนางแข็งขึ้นมาจากการลูบไล้และการหยอกล้อของเขา ทว่านางไม่อยากยอมรับว่าการลูบไล้ดังกล่าวทำให้เกิดความสุขที่ไม่คุ้นเคยแผ่กระจายไปทั่วร่าง!
เห็นได้ชัดว่านางถูกบังคับขืนใจ ทว่าร่างกายกลับร้อนรนอย่างมาก จนนางทนไม่ไหวและโหยหาการััที่มากกว่านี้ ความปรารถนาที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาทำให้นางสุดจะทานทน หรือนางจะเป็สตรีที่หมกมุ่นในกามารมณ์อย่างนั้นหรือ?
ฉีซีไม่รู้ว่าเพราะโอสถเร้ากำหนัดที่บุรุษร่างอ้วนโยนลงในตะเกียงน้ำมันก่อนหน้านี้เพื่อเพิ่มความตื่นเต้น จึงเปลี่ยนให้สตรีบริสุทธิ์กลายเป็สตรีที่มักมากในกามหรือเปล่า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้