“เข้ามาดูสิ หลังจากเยาวชนคนสุดท้ายกลับไปเมื่อปีก่อน บ้านพักเยาวชนก็ถูกปิดไว้ไม่ได้เปิดอีกเลย พวกเ้าสองคนคงต้องทำความสะอาดกันนิดหน่อยก็สามารถอยู่ได้แล้วล่ะ” ผู้ใหญ่บ้านเปิดบ้านพักเยาวชนให้สองพี่น้องเข้ามาดู
ถังเยี่ยนเธอยังไม่เคยเข้ามาบ้านพักเยาวชนเลย เธอไม่รู้ว่ามันเป็อย่างไรแต่รู้ว่ามันถูกสร้างมาอย่างดีโดยชาวบ้านในหมู่บ้านร่วมมือกันสร้าง
“ไม่เป็ไรหรอกครับปู่ผู้ใหญ่บ้าน สำหรับผมกับน้องสาวตอนนี้ขอแค่มีที่บังลมบังฝนเท่านี้ผมก็พอใจแล้ว ไม่ได้้าอะไรมากเลยครับ” ถังหยวนจับมือเล็กๆ ของน้องสาวเดินตามผู้ใหญ่บ้านเข้าไปในบ้านพักเยาวชน
เมื่อเข้ามาแล้วก็พบกับห้องโถงขนาดใหญ่ กลางห้องโถงมีเตาไฟขนาดใหญ่ และก็มีห้องแยกอีกสี่ ห้อง และมีประตูสำหรับเปิดไปลานด้านหลังของบ้าน
“นี่เป็ด้านหลังของบ้าน ต้องทำความสะอาดหน่อยนะเพราะรกมากเลยมีต้นหญ้าขึ้นสูงมาก เดี๋ยวฉันจะให้ต้าหนิวมาช่วย กลัวจะมีงูหรือสัตว์มีพิษ” ผู้ใหญ่บ้านมองลานด้านหลังบ้านที่รกร้าง มีหญ้าขึ้นสูงเกือบเท่าตัวคน
“ลำบากลุงต้าหนิวแล้วนะครับ” ถังหยวนหันไปพูดกับต้าหนิวที่เดินตามหลังมา เขารู้สึกซาบซึ้งใจมากที่ผู้ใหญ่บ้านช่วยเขากับน้องสาวขนาดนี้
“เอาล่ะต้าหนิววันนี้แกก็อยู่ช่วยเด็กๆ แล้วกัน ฉันยังมีงานต้องทำต้องกลับก่อนล่ะ”
เมื่อผู้ใหญ่บ้านกลับไปแล้ว ต้าหนิวก็เริ่มช่วยเด็กทั้งสองทำความสะอาดลานหลังบ้าน เขารู้สึกใมากๆ ที่เด็กทั้งสองมีความอดทนมากขนาดนี้ ในขณะที่พวกเขายังมีแผลเต็มตัวขนาดนี้ แต่ก็ยังกัดฟันทำงานได้ทำให้เขารู้สึกทอดถอนใจไม่ได้ และไม่รู้จะสรรหาคำไหนไปพูดกับถังฉี
เมื่อถอนหญ้าในลานบ้านหมดแล้ว ก็นำไปกองรวมกันกับกิ่งไม้แห้งที่อยู่ในลานบ้าน ในลานหลังบ้านมีต้นแอปเปิ้ลกับต้นสาลี่ขนาดใหญ่สองต้นอยู่ แต่ก็มีต้นทับทิมอีกสองต้นทำให้ลานบ้าน จากตอนแรกที่รกจนดูไม่ได้ตอนนี้โล่ง ดูแล้วสะอาดตา
ส่วนเศษหญ้าและกิ่งไม้แห้ง ต้าหนิวก็ได้นำใส่รถจักรยานสามล้อเพื่อขนเอาไปทิ้งทีู่เาท้ายหมู่บ้าน
และในลานบ้านยังมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ด้วย ถึงแม้จะไม่ได้ใช้มาเป็เวลานาน แต่มันก็ยังใช้ได้
เมื่อทำความสะอาดลานบ้านเสร็จแล้วก็เริ่มทำความสะอาดภายในบ้านต่อ ภายในบ้านมีห้องนอนจำนวนสี่ห้อง แต่ทำความสะอาดห้องนอนเพียงห้องเดียว อีกสามห้องไม่มีความจำเป็ต้องทำความสะอาดเพราะคงไม่ได้อยู่ ถังหยวนกับถังเยี่ยนยังอาศัยอยู่ห้องเดียวกันเหมือนเดิม
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ทั้งสามคนที่กำลังวุ่นทำความสะอาดบ้านอยู่ตอนนี้ก็ทำเสร็จหมดแล้ว ทั้งลานบ้าน ห้องนอนและก็ห้องครัว ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว
ต้าหนิวเองก็ช่วยเด็กทั้งสองอย่างเต็มที่
“จะกลับไปขนของที่บ้านเลยไหม” ต้าหนิวเมื่อคิดว่าต้องพาเด็กทั้งสองกลับไปเอาของที่บ้านถังก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา
“ครับของพวกเราไม่ได้มีอะไรมาก ขนแค่รอบเดียวก็คงจะเสร็จแล้ว” ถังหยวนเมื่อนึกถึงของที่มีอยู่ในบ้านถัง ก็เหมือนว่าไม่มีอะไรเป็ของเขากับน้องเลย แต่ก็จะเก็บของบางส่วนที่อยู่ในห้องนอนของพวกเขาสองคนมาเท่านั้น
ในบ้านพักเยาวชนหลังนี้มีครบทุกอย่าง มีบ่อน้ำทำให้เขากับน้องไม่ต้องไปตักน้ำที่แม่น้ำแค่นี้ก็สบายมากแล้ว แล้วก็มีเตาไฟ ส่วนเครื่องครัวก็ได้มาจากชาวบ้านช่วยกันแบ่งให้ แค่นี้เขากับน้องก็สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้แล้ว
ส่วนเครื่องนอนผู้ใหญ่บ้านที่เห็นก็สงสารจึงได้ให้เครื่องนอนเก่ามาให้ทั้งสองคนมา ถึงแม้จะเป็เครื่องนอนที่ใช้มาแล้วหลายปี แต่ก็ดีกว่าเครื่องนอนที่พวกเขาเคยใช้ตอนอยู่บ้านถังมาก
ต้าหนิวขี่จักรยานสามล้อ พาสองพี่น้องกลับไปบ้านถัง
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้านถัง ก็มีสายตาอาฆาตมองมาที่ทั้งสามด้วยความไม่พอใจ ซึ่งสายตานั้นก็ไม่ใช่สายตาของใครแต่เป็แม่เลี้ยงใจร้ายเย่เหยานั้นเอง ส่วนถังฉีไม่เห็นเขาเลย
ถังหยวนไม่ได้สนใจแม่เลี้ยงของตนเองอีกแล้ว เขาจูงมือน้องสาวเข้าไปในห้องนอนของตนเอง ต้าหนิวเองก็เดินตามทั้งสองไปไม่ห่าง
“ไสหัวไปจากบ้านนี้ได้เสียก็ดี” เย่เหยามองตามหลังทั้งสามเดินเข้าไปในบ้านก็เอ่ยพูดคนเดียว
การกลับไปเก็บของที่บ้านถังครั้งนี้ราบรื่นกว่าที่คิด
ถังหยวนเก็บเพียงของเก่าที่เคยใช้กับน้องสาว และก็มีกล่องเหล็กที่แม่เคยทิ้งเอาไว้ให้ก่อนเสียชีวิต เขาฝังมันไว้ตรงนี้นานแล้ว แล้วก็ไม่ได้ขุดขึ้นมาอีกเลย เมื่อจะย้ายออกจากบ้านหลังนี้แล้วถังหยวนจึงขุดขึ้นมา
ส่วนถังเยี่ยนเองที่เธอกลับมาบ้านหลังนี้ เธอเพียงแค่้ากลับมาเอาเงินที่เธอเก็บเอาไว้เท่านั้น ส่วนของในบ้านหลังนี้เธอไม่มีความ้าจะเอาอะไรไปเลยสักอย่าง เพราะเธอมั่นใจว่าเธอมีความสามารถมากพอที่จะหาของพวกนี้ได้ในเวลาไม่นาน
ถังหยวนเมื่อขุดกล่องเหล็กนั้นขึ้นมาแล้วก็ใช้ผ้าห่มเก่าๆ ที่เคยใช้ห่อมันเอาไว้ แล้วก็เดินออกจากห้องนี้ไป สองพี่น้องหันกลับมามองห้องนอนที่พวกเขาเคยอยู่หลายปี พวกเขาไม่ได้รู้สึกอาลัยอาวรณ์ห้องนี้ แต่มันคงเป็ความคุ้นเคยมากกว่า
เมื่อเดินออกมาที่ลานบ้านก็เห็นเย่เหยายืนมองมาที่ทั้งสามด้วยสายตาอาฆาตเหมือนเดิม ั้แ่ทั้งสามเข้ามาในบ้านเธอก็จับตาดูทั้งสามตลอดเพราะกลัวจะขโมยของในบ้านของเธอไป แต่เมื่อเห็นว่าทั้งสาม แค่เดินเข้าไปในห้องนอนที่เด็กสองคนนั้นเคยนอนและไม่ได้ไปที่ไหนเธอก็รู้สึกวางใจ
“ถ้าออกไปแล้วก็จงอย่ากลับมาที่บ้านหลังนี้อีก พวกแกสองพี่น้องจงจดจำเอาไว้ว่าบ้านหลังนี้ไม่ใช่ของพวกแกอีกแล้ว” เย่เหยาพูดจบเธอก็หันหลังเดินเข้าบ้านไป
“ไปเถอะ” ถังเยี่ยนจับมือพี่ชาย และก็พาเขาเดินออกจากบ้านหลังนี้ไป เธอรู้ว่าเขาค่อนข้างอาลัยอาวรณ์บ้านหลังนี้ เพราะบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความทรงจำของแม่ แม่แท้ๆ ของพวกเขา
ถังหยวนถึงแม้จะอาลัยอาวรณ์บ้านหลังนี้แค่ไหน แต่เขาก็รู้ว่าบ้านหลังนี้มันไม่ใช่ของเขาั้แ่แม่เสียชีวิตไปแล้ว เขาเพียงแค่พยักหน้ารับและยิ้มให้น้องสาวเท่านั้น
เมื่อต้าหนิวกลับมาส่งสองพี่น้องถึงบ้านพักเยาวชนแล้ว เขาก็ขอตัวกลับบ้านไปเพราะวันนี้เขาก็ช่วยเด็กทั้งสองมาทั้งวันแล้ว
“เสี่ยวเยี่ยน เสี่ยวหยวน”
สองพี่น้องที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง ทั้งสองก็หันมองหน้ากัน
“เสียงคุณย่าฟาง เดี๋ยวฉันออกไปดูเอง” หลังจากพระอาทิตย์ตกดินฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ตอนนี้เป็่ฤดูหนาวทำให้อากาศยิ่งมืดเร็วกว่าปกติ
“คุณย่าฟางมีอะไรหรือคะ” ถังเยี่ยนเมื่อเปิดประตูบ้านออกมาก็เห็นคุณย่าฟางยืนอยู่หน้าบ้าน
“ทำไมถึงได้รับาเ็หนักขนาดนี้” คุณย่าฟางรู้สึกใมากเมื่อเห็นรอยแผลบนหน้าของถังเยี่ยนเธอพึ่งได้ยินเื่นี้จากคนในหมู่บ้านก็รีบมาหาเด็กทั้งสองที่อยู่บ้านพักเยาวชน
ก็ไม่คิดว่าถังเยี่ยนจะได้รับาเ็ขนาดนี้วันนี้เธอไม่อยู่หมู่บ้านทั้งวัน กลับมาถึงหมู่บ้านก็ได้ยินชาวบ้านพูดคุยเื่สองพี่น้องเมื่อเธอรู้เื่นี้ก็รีบมาบ้านพักเยาวชนทันที
“คุณย่าฟางมันไม่เจ็บเลยค่ะ” ใบหน้าของถังเยี่ยนมีรอยแดงรอยช้ำ จนหน้าบวมไปหมด ตาข้างซ้ายบวมมากจนแทบจะปิดแล้ว
“เป็ขนาดนี้แล้วยังบอกย่าว่าไม่เจ็บอีก” คุณย่าฟางพูดพร้อมกับร้องไห้และอยากจะััไปที่หน้าของถังเยี่ยนแต่ก็ไม่กล้าจับเพราะกลัวว่าจะทำเธอเจ็บ
คุณย่าฟางช่วยสองพี่น้องมาตลอด และมองว่าสองพี่น้องเป็เหมือนลูกเหมือนหลานของตนเอง เมื่อเห็นสองพี่น้องถูกกระทำแบบนี้ก็เสียใจจนร้องไห้
“หนูไม่เป็อะไรจริงๆ ค่ะ รู้สึกดีมากที่ได้ออกจากบ้านหลังนั้น บ้านที่เป็เหมือนกงกักขังหนูกับพี่ชาย ตอนนี้พวกเราสองพี่น้องก็มีอิสระแล้วถึงแม้จะทนเ็ปหน่อยแต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ”
คุณย่าฟางเมื่อรู้ว่าเด็กทั้งสองแยกออกจากบ้านถัง เธอก็เป็ห่วงและเมื่อได้ยินชาวบ้านบอกว่าหัวหน้าหมู่บ้านจัดให้สองพี่น้องพักอยู่ที่บ้านพักเยาวชนเธอก็รีบมาดูเผื่อว่าจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง
“เอาล่ะดีแล้ว อยู่ที่นี่ก็ดี ตราบใดที่ออกมาจากบ้านถังได้ ไม่ต้องอยู่บ้านเดียวกันกับแม่เลี้ยงของพวกเธอ ไม่ว่าจะใช้ชีวิตทุกยากลำบากแค่ไหน คงจะดีกว่าชีวิตที่ผ่านมามาก”
“ใช่แล้วค่ะถึงแม้จะลำบากหน่อย แต่ก็คงไม่ลำบากเท่าอยู่บ้านถังหรอกค่ะ”
“แล้วนี่ได้อะไรกินหรือยังถ้ายังไม่ได้อาหารไปกินที่บ้านย่าก่อนก็ได้นะ” คุณย่าฟางไม่รู้ว่าเด็กทั้งสองได้รับความช่วยเหลือหลายอย่างจากคนในหมู่บ้าน จึงกลัวว่าทั้งสองจะไม่มีอะไรกิน
“ไม่เป็ไรเลยค่ะคนในหมู่บ้านใจดีกับหนูมาก” ถังเยี่ยนพาคุณย่าฟางเข้ามาดูภายในบ้านเพื่อให้เธอวางใจว่าเธอกับพี่ชายสามารถใช้ชีวิตได้
“บ้านพักเยาวชนก็ดี อยู่ที่นี่ไปก่อนก็ดีแล้วล่ะ ยังไงที่นี่ก็ว่างไม่มีใครอาศัยอยู่แล้ว หากปล่อยที่นี่ไว้นานๆ บ้านที่ไม่มีคนอยู่เดี๋ยวมันก็เก่า ให้พวกเธอสองคนมาอยู่ก็ดีแล้วล่ะ” คุณย่าฟางเมื่อเดินตามเข้ามาในบ้านก็เห็นบ้านที่ถูกเก็บกวาดทำความสะอาดเป็อย่างดี
และกลางห้องโถงของบ้านตอนนี้ก็กำลังจุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นอยู่ คุณย่าฟางเดินตามถังเยี่ยนเข้ามาในห้องครัวก็เห็นถังหยวนกำลังตักอาหารใส่จานอยู่
เธอเดินไปดูอาหารที่สองพี่น้องทำ เมื่อเห็นว่าอาหารที่สองพี่น้องกินก็เป็อาหารที่ดีเท่านี้เธอก็วางใจแล้ว
และก็เห็นเครื่องครัวเครื่องใช้ที่ใช้อยู่ แม้หม้อนั้นจะค่อนข้างเก่าและมีรอยรั่วเล็กๆ แต่ก็สามารถใช้ได้ใน่ที่ขัดสนแบบนี้
“เอาล่ะถ้าอย่างนั้นก็กินข้าวแล้วพักผ่อนเถอะนะ ชีวิตดีๆ กำลังรอพวกเธอสองคนอยู่” ถังเยี่ยนเดินตามออกมาส่งคุณย่าฟางถึงหน้าบ้าน แล้วก็เดินกลับไปกินข้าวกับพี่ชายที่ห้องครัว
ในบ้านหลังนี้ไม่มีโต๊ะกินข้าวถังเยี่ยนคิดว่า พรุ่งนี้เธอจะไปขอให้ช่างไม้ในหมู่บ้านทำโต๊ะกินข้าวให้เธอ เพราะตอนนี้เธอก็มีเงินเพียงพอสำหรับใช้จ่าย และยังมีเงินเพียงพอสำหรับเช่าร้านเพราะเธออยากจะเปิดร้านอาหารและร้านขนม
คุณย่าฟางเมื่อกลับมาถึงบ้านก็เล่าเื่ที่เกิดขึ้นกับเด็กทั้งสองคนให้สามีฟัง คุณปู่ฟางเมื่อได้ยินเื่ที่เกิดขึ้นก็โกรธมากๆ และสั่งให้ลูกชายคนโตเอายามาให้สองพี่น้อง คุณปู่ฟางโกรธมากที่ถังฉีทำกับลูกแท้ๆ ของตนเองแบบนี้ โกรธจนคุณปู่อยากจะบุกไปเอาเื่กับถังฉีแต่ถูกคนในบ้านกับคุณย่าฟางห้ามเอาไว้ กลัวมันจะเป็เื่ใหญ่ เพราะคุณปู่ฟางเคยเป็ทหารที่เคยต่อสู้ในสนามรบมาก่อน เมื่อเห็นสองพี่น้องไม่ได้รับความเป็ธรรมจึงอยากไปทวงความเป็ธรรมให้ทั้งสอง
เมื่อสองพี่น้องทำความสะอาดห้องครัวเสร็จแล้ว ก็กินยาที่ลูกชายคนโตของคุณย่าฟางนำมาให้ และก็เข้านอนอาจจะเพราะวันนี้ทั้งสองเจอเื่หนักมามาก แล้วยังมีอาการเ็ปบนตัวอีกมากมาย แค่เพียงทิ้งตัวลงนอนในห้องที่จุดไฟอบอุ่น ผ่านไปไม่นานทั้งสองก็ผล็อยหลับไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้