"อืม"
จีอู๋ซวงลูบจมูกของเขาอีกครั้ง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับใบหน้าที่เย็นะเืจับใจของตี้หลิงหาน เขาถอนหายใจ "ข้าอยากจะรู้นัก ว่าจะมีผู้ใดสามารถกระตุ้นอารมณ์ของเ้าและทำลายปราการน้ำแข็งบนใบหน้าที่เ็าของเ้าได้ ไอ้หยา มีอายุยืนยาวก็ไม่ยังไม่รู้ว่าจะได้เห็นหรือไม่"
จีอู๋ซวงถอนหายใจเฮือกหนึ่งยาวๆ
แต่เสียงของเขากลับไม่ได้เบาลงเลย คิ้วของตี้หลิงหานขยับเล็กน้อย แววตาของเขาปรากฏประกายที่คาดเดาไม่ได้วาบผ่าน
มีคนกวนอารมณ์ของเขาได้สำเร็จแล้วหรือ?
อา
เป็เมื่อวานนี้แน่
เป็คุณหนูคนโตที่กล้าหาญของตระกูลมู่ที่ทำให้เืในกายของเขาไหลเวียนไปมาหลายครั้งและกวนอารมณ์ของเขาจนสำเร็จ ทว่ากลับเป็อารมณ์โทสะทั้งสิ้น
ยิ่งนึกถึงมู่อันเหยียน ใบหน้าของตี้หลิงหานก็ยิ่งเย็นเยียบลง
จีอู๋ซวงแค่คิดว่าตี้หลิงหานไม่โปรดที่จะฟังในสิ่งที่เขากล่าวจึงเปลี่ยนคำพูด "เอาล่ะ เอาล่ะ ข้าจะเข้าเื่แล้ว เมื่อสักครู่ที่ข้ามาถึง ได้ยินมาว่าอั้นจิ่วถูกเ้าลงโทษด้วยแส้ อีกทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนจำนวนมากในจวนของเ้าถูกวางยาพิษ เกิดเื่อันใดขึ้นกันแน่? เ้ายังสบายดีใช่หรือไม่? ”
ในตอนที่จีอู๋ซวงเข้ามาในศาลาคลายร้อน เขาได้มองประเมินตี้หลิงหานขึ้นบนลงล่างทั่วทั้งร่างแล้ว เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้รับาเ็ มีเพียงผิวของเขาที่ซีดเซียวลงเล็กน้อยจึงอดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงถามออกมาสักคำ
ได้ยินจีอู๋ซวงเอ่ยถามเกี่ยวกับเื่นี้ ใบหน้าของตี้หลิงหานก็ยิ่งดำมืดขึ้น "ไม่มีอันใด"
ดีเยี่ยม แค่คำเพียงไม่กี่คำก็สามารถไล่เขาได้แล้ว
สิ่งนี้ทำลายความอดทนของจีอู๋ซวงไปจนหมดสิ้น
เขาลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปด้านหน้าตี้หลิงหาน "ข้าจะจับชีพจรให้เ้า"
ตี้หลิงหานมิได้ปฏิเสธ เมื่อเห็นว่ามือของจีอู๋ซวงกำลังจะแตะเข้าที่ข้อมือของเขา ทว่ายังไม่ทันได้ัั ตี้หลิงหานก็ดึงมือของเขาออก
"ผ้าเช็ดหน้า"
จีอู๋ซวง "...! "
“อือ ใช่ ข้าลืมไป เ้ามีนิสัยรักสะอาด ไม่ว่าจะบุรุษหรือว่าสตรีล้วนไม่อาจแตะต้องเ้าได้ง่ายๆ สมองของข้าก็เหมือนกัน สามปีแล้วเหตุใดถึงจำไม่ได้นะ”
บ่นกระปอดกระแปดเสียนาน สุดท้ายจีอู๋ซวงก็หยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวออกมา จัดการวางบนข้อมือของตี้หลิงหาน ก่อนจะเริ่มจับชีพจรของเขา
ทว่าผลลัพธ์ที่ได้ ยิ่งจีอู๋ซวงตรวจพบชีพจรลึกเท่าใด ใบหน้าของเขาก็ยิ่งน่าเกลียดและจริงจังมากขึ้นเท่านั้น ท่าทางเอ้อระเหยลอยชายของเขาถูกพับเก็บจนเรียบ สุดท้ายก็เปิดปากกล่าวว่า "เหตุใดถึงเป็เช่นนี้? พลังงานในร่างกายเ้าวุ่นวาย ทว่าถูกเ้าบังคับกดไว้ สภาวะชีพจรจึงเต้นช้า เส้นชีพจรร้อนหมายความว่าต้องพิษ พิษในร่างกายของเ้าถูกกระตุ้น เกิดอันใดขึ้นกับเ้ากันแน่? "
ในเวลานี้น้ำเสียงของจีอู๋ซวงจริงจังเป็อย่างยิ่ง เขาเก็บมือกลับมาและมองไปที่ตี้หลิงหาน
"ไม่มี"
ตี้หลิงหานเม้มปาก ไม่ยอมกล่าววาจามากความอันใดอีก
“ไม่มีเื่อันใดเกิดขึ้น? เป็ไปได้อย่างไร? ตี้หลิงหาน พวกเรารู้จักกันมาสามปีแล้ว หลายปีนี้ข้าเป็หมอของเ้า แม้กระทั่งพี่ชายน้องชายของเ้าก็ด้วย วิชาแพทย์ของข้ายังไม่ถึงขั้นนัก ไม่สามารถแก้พิษในร่างของเ้าได้ แต่หลายปีมานี้พิษก็ยังถูกกดเอาไว้ อย่างน้อยก็อยู่ภายใต้การควบคุมของข้า
ข้าพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหายาถอนพิษและกำลังศึกษาว่าต้องทำเช่นไรจึงจะล้างพิษในกายของเ้าได้ ข้าเคยบอกเ้าแล้ว ตราบใดที่พิษของเ้ายังสามารถควบคุมได้ ภายในระยะเวลาห้าปีนี้ชีวิตของเ้าจะไม่ตกอยู่ในอันตราย และภายในห้าปีนี้หากพบยาถอนพิษ ร่างกายของเ้าก็มีความหวังว่าจะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้
ทว่าในเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วัน ตกลงแล้วเกิดเื่อันใดขึ้นกับเ้ากันแน่? เหตุใดสารพิษถึงถูกกระตุ้นเร่งเร้า? หากเ้ายังไม่รักถนอมร่างกายตนเองเช่นนี้ เวลาห้าปี เกรงว่าจะอยู่ได้ไม่ถึงด้วยซ้ำ"
ใบหน้าของจีอู๋ซวงแดงก่ำ ไม่มีทีท่าล้อเล่นสบายใจอย่างเมื่อสักครู่เลยแม้แต่นิด
เขาจ้องไปที่ตี้หลิงหานด้วยความโมโหเป็อย่างยิ่ง
การแสดงออกของตี้หลิงหานยังคงเ็าไม่เปลี่ยนแปลง มีเพียงคิ้วของเขาที่ลดระดับลง และก็มีเพียงจีอู๋ซวงที่บันดาลโทสะ แต่เขาหาได้โกรธไม่ ทว่าอย่างไรก็ตามความเ็าบนร่างกลับลดระดับลง เขาเงยหน้าขึ้น "ข้าสบายดี เมื่อวานนี้เป็อุบัติเหตุเล็กน้อย"
“อุบัติเหตุอันใด? ”
จีอู๋ซวงถามขึ้นมาอีกครั้ง
ความสัมพันธ์ของเขากับตี้หลิงหานเริ่มขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว ในตอนนั้นเนื่องจากถูกสหายร่วมสำนักทำร้าย เขาที่กำลังกระเสือกกระสนหนีจากหุบเขาเย่าหวางกลับถูกพวกนั้นไล่ล่าตามฆ่า ใน่เวลาแห่งชีวิตและความเป็ความตายของเขา กลับได้รับการช่วยเหลือจากตี้หลิงหาน
เขาเกิดมาเป็เด็กกำพร้าไม่มีบิดามารดา ต่อมาถูกรับเลี้ยงโดยท่านอาจารย์บนหุบเขาเย่าหวางั้แ่ยังเป็เด็ก ทว่าเขากลับถูกทำร้าย โดนท่านอาจารย์และศิษย์ร่วมสำนักไล่ฆ่า พื้นฟ้ากว้างแผ่นดินใหญ่ [1] ตอนนั้นเขาไม่รู้เลยว่าที่ใดกันแน่ที่จะเป็ที่ที่ปลอดภัยให้เขาสามารถหลีกหนีความวุ่นวายนี้ได้
จนกระทั่งเขาได้พบกับตี้หลิงหาน
เขาคนนี้บอกว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้สำคัญไปกว่าการมีชีวิตอยู่
เพราะการมีชีวิตอยู่เท่านั้นที่จะทำให้เราสามารถล้างความอัปยศอดสูและเรียกคืนความบริสุทธิ์กลับมาได้
บุรุษผู้นี้ แม้อายุจะยังไม่มาก แต่กลับมีบรรยากาศที่ทำให้คนรอบข้างต้องเคารพนบน้อม
ดังนั้นเขาจึงติดตามบรุรุษผู้นี้ั้แ่นั้นเป็ต้นมา
หลังจากที่คุ้นเคยกับเขาแล้ว จึงรู้ว่าบุรุษผู้นี้เป็ถึงองค์รัชทายาท แต่เขาถูกวางยาพิษ มีผู้คนในเงามืดนับไม่ถ้วนที่ปรารถนาให้เขาตาย แค่ฐานะที่ดูสง่างามของเขานั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขามีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงพิษร้ายที่อยู่ภายในตัวเขา
นั่นคือพิษร้ายแรงที่จะกัดกินพลังชีวิตของเขาทุกๆ วันที่สิบห้า ในตอนที่พิษเริ่มกัดกร่อนนั้น มันทรมานราวกับมีชีวิตอยู่มิสู้ตาย
อีกทั้งตอนที่เขาตรวจร่างกายแล้วพบว่ายาพิษชนิดนี้ใกล้จะถึงขั้นสุดท้ายแล้ว กล่าวคือองค์รัชทายาทได้รับพิษชนิดนี้มาเมื่อครั้งยังเยาว์นัก หลายปีมานี้ เขามีชีวิตอยู่ท่ามกลางสายธารแห่งคมมีดและเปลวเพลิง เขาเติบโตผ่านสนามรบ ทุกข์ทรมานสาหัส เป็ชีวิตที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย
ใน่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาทำงานอย่างหนักเพื่อศึกษาพิษชนิดนี้ รวมถึงวิธีถอนพิษ แต่พิษชนิดนี้ค่อนข้างเป็พิษที่พบได้ยากและวัสดุยาก็หายากมากเช่นกัน
ในที่สุดปีนี้ก็นับว่ามีความก้าวหน้า แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่ตอนนี้ชายคนนี้กลับกระตุ้นการโจมตีของสารพิษในร่างกายของตนเอง
จะไม่ให้เขาบันดาลโทสะได้อย่างไร?
...
เมื่อเห็นดวงตาของ จีอู๋ซวงจ้องมาที่เขาอย่างหนักแน่น เขาย่อมรู้ว่าจีอู๋ซวงรู้สึกเป็ทุกข์
บุรุษผู้นี้ทำงานหนักเพื่อเขามาหลายปีแล้ว
ทว่าเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ นับเป็เื่ยากที่จะบอกเล่า
แม้แต่จีอู๋ซวงที่สนิทสนมราวกับพี่ชาย
เขาไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ท่ามกลางดวงตาแดงระเรื่อที่จดจ้องของจีอู๋ซวง ในที่สุดตี้หลิงหานก็ยอมเปิดปากกล่าว "เมื่อวานนี้ เพราะมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น ข้าจึงสูญเสียการควบคุมอารมณ์ของข้าไป และเข้าสู่ร่างปีศาจ แต่ข้าก็หลุดพ้นได้อย่างรวดเร็วและไม่มีผลกระทบจริงจังอะไร"
“เื่อะไรที่ทำให้เ้าหลุดการควบคุมตนเอง? ”
จีอู๋ซวงรู้สึกฉงนเป็อย่างยิ่ง
เมื่อกี้เขาแค่หยอกล้อเท่านั้น เป็ผู้ใดกันที่สามารถทำให้ใบหน้าน้ำแข็งขององค์รัชทายาทพังทลายลงได้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดว่าจะมีคนผู้นี้อยู่จริง?
ริมฝีปากบางของตี้หลิงหานถูกเม้มอย่างแ่าทันที เขาจะพูดอะไรได้? เขาสามารถบอกได้หรือว่าโกรธอดีตคู่หมั้นของตนเอง และรู้สึกควบคุมตนเองไม่ได้หลังจากถูกประกบจุมพิต? คำพูดเช่นนี้ เขาไม่สามารถพูดออกมาได้
ทำได้แค่เปลี่ยนเื่
“หัวขโมยที่ขโมยดอกบัวพันปีถูกจับได้แล้ว”
หลายปีที่ผ่านมาทำให้จีอู๋ซวงนับว่ารู้จักและเข้าใจตี้หลิงหานเป็อย่างดี ดังนั้นเหตุใดเขาถึงไม่รู้ว่าองค์รัชทายาทกำลังเปลี่ยนเื่
อย่าถามในสิ่งที่เขาไม่้าจะพูดออกมาจากปากของเขา
"เป็ผู้ใดกัน เหตุใดถึงไม่กลัวตาย? "
จีอู๋ซวงถามกลับ
เขาย่อมทราบเื่คนที่ขโมยดอกบัวพันปี เมื่อคิดว่าตี้หลิงหานเองก็เป็บุคคลที่มีชื่อเสียงขจรไกลของใต้หล้านี้ เหตุใดจึงพบกับลูกพี่ลูกน้องเช่นเจียงจือฮ่าวได้ ทุกอย่างได้ตระเตรียมไว้พร้อมแล้ว [2] ขอเพียงแค่นำสิ่งของกลับมาย่อมหมายถึงความสำเร็จ ทว่ายังสามารถเกิดปัญหาขึ้นมาเสียได้
“ตระกูลมู่ มู่อันเหยียน”
ตี้หลิงหานเปิดปากกล่าว
จีอู๋ซวงตัวสั่นเทาขึ้นมาทันที เหตุใดถึงรู้สึกว่านามนั้นถูกเค้นออกมาจากฟันที่กัดแน่นของตี้หลิงหาน
“มู่อันเหยียนแห่งตระกูลมู่ เหตุใดชื่อนี้ถึงคุ้นเคยนัก เป็ผู้ใดกันแน่? ”
จีอู๋ซวงเกาหัวครุ่นคิดอยู่นาน ทันใดนั้นภายในสมองของเขาก็เกิดประกายวาบผ่าน เขานึกออกแล้ว
“นั่น...คือ คนนั้น? บุตรีคนโตของตระกูลมู่แห่งจวนหรูหนานอ๋อง? อดีตคู่หมั้นของเ้า? ”
จีอู๋ซวงตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด เขาอุทานออกมาเพราะความใ
ใบหน้าของตี้หลิงหานดำทะมึนลง "อืม"
เชิงอรรถ
[1] 天大地大 ฟ้ากว้างแผ่นดินใหญ่ ความหมายคือ ตรงที่เราอยู่นั้นเล็กมาก ยังมีโลกที่กว้างใหญ่อีกมากถ้าเราออกไปค้นหาหรือในโลกที่กว้างใหญ่นี้ อะไรก็เป็ไปได้ เรานั้นเป็อิสระจะไปไหนก็ได้
[2] มาจากสำนวนในสามก๊กที่ว่า 万事俱备,只欠东风 ทุกอย่างพร้อมพรัก ขาดแต่บูรพาหรือหมายถึง ทุกอย่างได้ตระเตรียมไว้พร้อมแล้ว ขาดเพียงสิ่งที่สำคัญอย่างเดียว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้