“โอ๊ย!”
ตามมาด้วยเสียงร้องที่น่าอนาถ และเสียงขวดเหล้าแตก หัวของผู้กำกับเยียนถูกเจียงไป๋ตีจนเป็หลุมใหญ่หนึ่งหลุมแล้ว
เศษแก้วหล่นลงบนหน้าและหัวของเขา แล้วก็กรีดเป็แผลขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กอีกสองสามแผล ตีจนผู้กำกับเยียนล้มลงกับพื้น เืแดงฉานไหลออกมาจากหัวของเขาไม่หยุด
“นายเป็ใคร!”
ผู้ชายสองสามคนข้างๆ รีบยืนขึ้นทันที
ปกติแล้วพวกเขาก็ทำงานอยู่กับผู้กำกับเยียน เวลานี้ก้าวออกมาอย่างหาญกล้า ไม่อย่างนั้นอนาคตก็ไม่รู้จะสู้หน้าผู้กำกับเยียนอย่างไร
ระหว่างที่พูดอยู่นั้น ผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่งก็หยิบขวดขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าใส่เจียงไป๋
“ตุบ!” เจียงไป๋ถีบเขาติดประตูทันที
ต่อมาก็จับพวกนั้นไว้ข้างละคนแล้วดึงมาชนเข้าด้วยกัน และยังมีคนถูกเจียงไป๋ซัดจนปลิวออกไปอีกคนหนึ่ง
เพียงไม่นานในห้องก็ล้มกันเกลื่อนกลาดแล้ว ผู้ชายเจ็ดแปดคนถูกซัดจนหมอบ ส่วนผู้หญิงอีกสองสามคนก็ร้องอย่างใ และหวาดกลัว
“ผู้กำกับเยียนใช่ไหม? ผมชื่อเจียงไป๋ อ้อ งานหลักเป็บรรณารักษ์ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเทียนตู ตอนนี้เป็คนเขียนบทของกองถ่ายหนังเื่โหด เลว ดี”
“เดิมทีผมก็ไม่คิดที่จะพูดอะไรกับคุณ แต่คิดดูแล้วโรงภาพยนตร์กูซูก็ใหญ่แค่นี้ หากคุณจะหาตัวผมก็ไม่น่าจะยากมาก อยู่ที่ว่าจะอยากตามหาหรือไม่ แต่ผมก็ควรจะบอกคุณเองดีกว่า พูดจริงๆ ผมไม่ชอบพวกคนอย่างคุณเลย ถ่ายทำหนังแย่ๆ เื่หนึ่งแต่กลับคิดว่าตนเองเก่ง ไม่เอาเวลาไปคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ว่าจะถ่ายหนังออกมาอย่างไรให้คนดู วันๆ ก็คิดแต่จะใช้กฎซ่อนเร้นกับดาราสาวๆ ทำให้พวกเด็กผู้หญิงเสียหาย แกนี่มันไม่ใช่คนจริงๆ!”
“เย่ชิงเฉิง เป็น้องสาวที่ผมเพิ่งรู้จัก เื่ของเธอผมก็รู้มาบ้าง แบบนั้นก็ขอโทษด้วยที่ซัดคุณไป คุณจะเอาอย่างไรก็แล้วแต่คุณ ผมพร้อมเสมอ แต่พรุ่งนี้ทางที่ดีที่สุดคุณให้คนเอาของของเธอส่งไปที่โรงแรมของกองถ่ายด้วย ไม่อย่างนั้น … เหอะๆ ผมจะมาหาคุณอีก!”
เจียงไป๋เดินมานั่งยองๆ อยู่ข้างผู้กำกับเยียนที่กำลังใช้มือกุมหัวไว้ เจียงไป๋ตบหน้าอีกฝ่ายเบาๆ และแนะนำตัวอย่างยิ้มแย้ม
ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เจียงไป๋ไม่มีอะไรต้องคำนึงถึง หากแม้แต่ผู้กำกับตัวน้อยๆ ก็ยังจัดการไม่ได้ แล้วยังจะอยู่ในวงการนี้ได้หรือ!
“นาย … นายคอยดู!”
ถึงแม้จะเจ็บและหวาดกลัว แต่ผู้กำกับเยียนก็ยังฝืนทนความเจ็บและความหวาดกลัวพูดกับเจียงไป๋ไปอย่างสั่นเทา
เมื่อพูดจบเหมือนจะกลัวเจียงไป๋ซัดอีก ร่างกายของเขาจึงหดถอยไปด้านหลังเล็กน้อย
“ได้ ผมจะรอ!”
เจียงไป๋หัวเราะ จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เห็นคนแบบนี้อยู่ในสายตา เมื่อพูดจบเขาก็จูงเย่ชิงเฉิงที่ใอยู่หันหลังเดินออกไป
เมื่อทั้งสองคนออกจากประตูมาแล้ว เย่ชิงเฉิงก็รู้สึกโล่งใจมาก เธอโบกมือขยับเอวเต้นไปมา และระบายความแค้นใน่เวลานี้ออกมา
ไม่ทันไรทั้งสองคนก็มาถึงโรงแรมที่เจียงไป๋พักแล้ว
“เปิดห้องให้ผมห้องหนึ่ง!”
เพิ่งเข้าประตูมา เจียงไป๋ก็พุ่งไปที่แผนกต้อนรับ เขาหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา เพื่อเตรียมที่จะเปิดห้อง
“ขอโทษด้วยค่ะคุณผู้ชาย พวกเราไม่มีห้องว่างแล้วค่ะ”
น่าเสียดายที่คำตอบกลับไม่ได้ทำให้เจียงไป๋พอใจนัก
“ไม่มีห้องว่าง?”
เจียงไป๋ขมวดคิ้ว
แล้วจะทำอย่างไรดี?
จะให้เย่ชิงเฉิงไปพักที่อื่น เจียงไป๋ก็ไม่วางใจ แต่ที่นี่ก็ไม่มีห้องว่างแล้ว ที่อื่นก็ไม่แน่ว่าจะมี
แต่หากไม่มีห้องว่าง หรือว่าจะให้เย่ชิงเฉิงพักที่ห้องของเขาแบบนั้นหรือ? นั่นก็ … คงไม่เหมาะสมนัก
“ไม่เป็ไร พี่เจียงไป๋ พี่ไม่ใช่ว่ามีห้องหรือ? ฉันพักกับพี่ก็ได้! พี่วางใจได้ ฉันนอนพื้นได้ … อืม นอนโซฟาก็ได้!”
เมื่อเย่ชิงเฉิงได้ยินคำพูดนี้แล้วก็เผยรอยยิ้มที่สดใสอย่างเข้าอกเข้าใจและบริสุทธิ์ใจ แต่กลับนำมาซึ่งสายตาดูถูกของผู้หญิงที่แผนกต้อนรับสองสามคนนั้น
แน่นอนว่าสายตาดูถูกอย่างนี้ก็ไม่ได้พุ่งไปที่เย่ชิงเฉิงที่สะอาดบริสุทธิ์ราวกับสายน้ำแน่นอน แต่เป็เจียงไป๋ ถึงกับทำให้เจียงไป๋รู้สึกอึดอัด!
ไกลออกไป ยามคนหนึ่งบ่นอยู่ในใจอย่างทนไม่ได้
“ของฉันเป็ห้องมาตรฐาน สองเตียง ไม่ต้องนอนพื้นอะไรหรอก หากเธอยินยอมจริงๆ แบบนั้นก็เอาเถอะ!”
สำหรับเจียงไป๋ เขายังคงมีความมั่นใจมาก
ถึงแม้ว่าเย่ชิงเฉิงจะทำให้รู้สึกคิดไม่ซื่อจริงๆ และสาวน้อยคนนี้ไม่มีความระมัดระวังตัวเลย หากเขาจะทำอะไรเธอจริงๆ เธอก็หัวเดียวกระเทียมลีบหนีไม่พ้นหรอก
แต่เจียงไป๋ยอมรับว่าทำเื่อย่างนี้ไม่ได้ ดังนั้นเย่ชิงเฉิงพูดอย่างนี้ เขาก็เลยไม่ปฏิเสธ
ใครๆ ก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดอย่างนี้ ในความคิดของคนที่อยู่โดยรอบหลายคน ภาพลักษณ์ของเขาได้กลายเป็ “สัตว์ร้าย” ไปเสียแล้ว
ท่ามกลางสายตาที่แปลกใจและอิจฉาของคนที่แผนกต้อนรับหลายคน เจียงไป๋พาเย่ชิงเฉิงขึ้นอาคารไปอย่างไม่สนใจพวกเขา
ห้องที่ทั้งแคบทั้งเล็กมีพื้นที่แค่สิบกว่าตารางเมตร ห้องธรรมดาตามมาตรฐาน มีสองเตียง โต๊ะตัวเล็กๆ หนึ่งตัว เก้าอี้สองตัว โทรทัศน์หนึ่งเครื่อง และห้องน้ำเล็กๆ หนึ่งห้อง
“ที่ ที่นี่น่ะ เธอนอนๆ ไปก่อนเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะจัดการงานให้เธอ เป็ตัวประกอบ หลังจากนั้นให้สตาฟฟ์กองถ่ายเปิดห้องให้เธอ”
พอเข้าประตูมา เจียงไป๋ก็รู้สึกเคอะเขินอยู่บ้าง ห้องทั้งแคบทั้งเล็ก หญิงชายอยู่ด้วยกันสองต่อสองไม่สะดวกนัก
“อ้อ ดีมากเลย ก็พอๆ กับที่ฉันพักก่อนหน้านี้! พี่เจียงไป๋ ฉันเหนื่อยแทบตาย ฉันจะไปอาบน้ำนอนก่อน! พี่จะอาบไหม?”
เย่ชิงเฉิงเผยรอยยิ้มที่สดใส เธอมองไปรอบหนึ่งแล้วพูด แต่กลับทำให้เจียงไป๋แทบกระอักเื
“เื่นี้ … ไม่ต้อง … ไม่ต้อง”
เจียงไป๋กระแอมสองสามที และรีบโบกมือ
สาวน้อยคนนี้พูดอย่างนี้ ความหมายก็ค่อนข้างหลากหลายเลย
หรือเธอจะไม่รู้ว่า ผู้หญิงคนหนึ่งพูดอย่างนี้กับผู้ชายในยามวิกาล หมายความว่าอย่างไรกันแน่?
“แบบนั้นก็ได้ ฉันไปอาบก่อน!” เย่ชิงเฉิงพูดอย่างยิ้มแย้ม
เมื่อพูดจบก็ถอดรองเท้าเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ แต่จู่ๆ ก็คิดอะไรอยู่สักพัก เธอยื่นหน้าออกมามองเจียงไป๋ที่อยู่ตรงหน้าอย่างระแวง “พี่เจียงไป๋ พี่จะไม่แอบดูใช่ไหม?”
“แน่นอนว่าไม่!”
เจียงไป๋ตอบกลับอย่างโมโห
คิดไม่ถึงว่าสาวน้อยจะระแวงพี่ชาย?
เื่แอบดู เป็เื่ที่พี่ชายจะทำหรือ?
หากยอมจริงๆ เย็นวันนี้ก็จะจัดการเธอ!
“ฮ่าๆ แบบนั้นก็ดี! จริงๆ แล้วจะแอบดูก็ไม่เป็ไร!”
ปฏิกิริยาของเจียงไป๋กลับทำให้เย่ชิงเฉิงหัวเราะออกมา หลังจากนั้นก็ส่งตาหวานให้เจียงไป๋ แล้วก็พูดจนทำให้เขาเืพลุ่งพล่านอย่างไม่คิด
สักพักเสียงน้ำก็ดังขึ้น “ซู่ๆ” เจียงไป๋เปิดทีวีดู และมองไปที่ห้องอาบน้ำแวบหนึ่ง
กระจกฝ้าอย่างนั้นไม่ใสแจ๋วเอาเสียเลย แต่จากด้านนอกก็สามารถเห็นเรือนร่างอรชรได้รางๆ ทำให้เจียงไป๋แทบจะเืกำเดาไหล และรีบจุดบุหรี่สูบหนึ่งมวนทันที
หากจะพูดว่าเจียงไป๋ไม่คิดอะไรกับเย่ชิงเฉิง นั่นก็ไม่ใช่เื่จริง
ผู้หญิงอย่างเย่ชิงเฉิง แค่เป็ผู้ชายก็ล้วนต้องคิดอะไรกับเธอ ก็แค่เจียงไป๋ไม่สนใจที่จะฉวยโอกาสเท่านั้น เวลาอย่างนี้ควรจะสงบนิ่งไว้จึงจะดี
ยี่สิบนาทีต่อมา หลังจากที่เจียงไป๋สูบบุหรี่ติดต่อกันไปสี่ห้ามวนแล้ว ร่างอรชรร่างหนึ่งก็เดินออกมาจากห้องอาบน้ำ
เย่ชิงเฉิงถือเสื้อผ้าของตัวเอง และใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินออกมา เธอเผยขาที่เรียวงาม ผิวพรรณใสแวววาว ผมที่เปียกโชกปิดอยู่ตรงหน้าอก ทำให้เห็นแล้วอย่างจะกระทำเื่ไม่ควร
เมื่อสังเกตเห็นว่าเจียงไป๋มองมา เย่ชิงเฉิงก็ตะลึงงัน และก็หน้าแดง วินาทีต่อมาก็เหมือนกับกระต่ายตื่นตูม รีบวิ่งมุดเข้าไปในผ้าห่ม และไม่ยอมยื่นหน้าออกมาอีก …
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้