“จับอีก!”
เจียงไป๋ขอจับรางวัลอีกอย่างไม่ลังเล
หนึ่งเดือนนี้ หนังสือเื่กระบี่เทพสังหารของเขาก็จบแล้ว ถึงแม้ยังมีคนอ่านต่ออยู่ แต่แต้มบารมีที่สามารถจัดสรรให้ได้ก็มีจำกัดแล้ว แต่เดือนสุดท้ายก็ยังคงให้แต้มบารมีแก่เขามากมาย
บวกกับแต้มบารมีสามหมื่นแต้มที่ได้รับจากทางอู่เทียนซีในก่อนหน้านี้ เจียงไป๋ในตอนนี้มีแต้มบารมีสามหมื่นสามพันกว่าแต้ม สามารถใช้ได้อย่างกำเริบอีกสองสามครั้ง
เครื่องสล็อตแมชชีนปรากฏขึ้นอีกครั้ง หลังจากนั้นก็หมุนตามเจตนาของเจียงไป๋
น่าเสียดายที่โชคไม่ดีนัก รางวัลที่เจียงไป๋จับได้ในครั้งนี้คิดไม่ถึงว่าจะเป็ช่องสีขาวหนึ่งช่อง ให้เงินหนึ่งแสนหยวน ทำให้เจียงไป๋อยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา
เงินหนึ่งแสนหยวนสำหรับเจียงไป๋ในตอนนี้แล้ว ก็เป็เหมือนฝนตกปรอยๆ จะมีประโยชน์อะไร?
“จับอีก!”
เจียงไป๋ไม่ล้มเลิก ราวกับถูกปีศาจเข้าสิงแล้ว
การจับรางวัลสองครั้งล้วนไม่สมความปรารถนา เปลืองแต้มบารมีไปสองหมื่นแต้มแล้ว ทำให้เจียงไป๋ตกอยู่ในสภาพจิตใจของนักพนันที่ไม่มีทางถอนตัวได้
ดูไปดูมาก็เหลือแต้มบารมีหนึ่งหมื่นกว่าแต้ม เจียงไป๋รีบจับรางวัลอีกรอบทันที
เครื่องสล็อตแมชชีนหมุนอีกครั้งและรวดเร็วมาก สิบกว่าวินาทีต่อมาก็หยุดลง เสียงของระบบดังตามมา “ยินดีด้วย เ้าได้รับเคล็ดวิชาการต่อสู้สีม่วงที่สุดยอด รางวัลฝึกฝนขั้นแรกอัตโนมัติ”
“พละกำลังดั่งัและช้างหรือ? นิยายจอมยุทธ์?”
หลังจากที่เจียงไป๋ได้ยินชื่อนี้แล้ว ปฏิกิริยาแรกก็คือนี่ช่างน่าขำ
ของอย่างนิยายจอมยุทธ์ก็ล้วนปรากฏขึ้นแล้วหรือ?
แต่ไม่นานก็ยอมรับความจริงนี้ ตอนที่ระบบปรากฏ ก็พูดแล้วไม่ใช่หรือว่า ไม่มีอะไรที่มันทำไม่ได้ และแลกของได้ทุกอย่าง ในเมื่อเป็เช่นนี้ การจับรางวัลจะปรากฏเคล็ดวิทยายุทธ์ก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าใจไม่ได้
ก็แค่ของอย่างนี้จะมีประโยชน์อะไร?
ก็แค่เคล็ดลับเล่มหนึ่ง ถึงแม้จะมอบขั้นแรกให้ แต่เจียงไป๋ก็ไม่ได้โง่
ของอย่างพละกำลังดั่งัและช้าง ในฐานะแฟนหนังแฟนละครคนหนึ่ง ทำไมเจียงไป๋จะไม่รู้จัก
วิทยายุทธ์สุดยอดในผลงานที่มีชื่อเสียงของกิมย้ง
วิทยายุทธ์สุดยอด “พละกำลังดั่งัและช้าง” ของเคล็ดวิชาแบ่งเป็สิบสามขั้น ขั้นแรกเป็กังฟูที่เรียบง่ายมาก แค่ได้รับและฝึกฝนต่อ หนึ่งหรือสองปีจึงจะฝึกสำเร็จได้
ขั้นที่สองลึกซึ้งกว่าขั้นแรกเท่าตัว ต้องใช้เวลาสามหรือสี่ปี
ขั้นที่สามก็ลึกซึ้งกว่าขั้นที่สองอีกเท่าตัว ต้องใช้เวลาเจ็ดหรือแปดปี
หากเพิ่มเป็เท่าตัวอย่างนี้ และต่อๆ ไป ก็ยิ่งยากที่จะก้าวหน้า หลังจากที่ถึงขั้นห้าแล้ว หากหวังที่จะฝึกให้ลึกซึ้งอีกขั้น ก็น่าจะใช้เวลาสามสิบปีขึ้นไป
พระพุทธศาสนาล้วนปรากฏอรหันต์ในทุกๆ ชาติ ในขั้นสิบสามนี้ กลับไม่มีใครฝึกถึงขั้นสิบขึ้นไปได้แม้แต่คนเดียว
ราชครูจักรทองในนิยายก็ถือว่าเป็ผู้มีความสามารถจาก์แล้ว แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ใช่แค่ขั้นสิบเท่านั้นหรือ และก็ได้กลายเป็แค่ชายแก่คนหนึ่ง
เจียงไป๋ไม่คิดว่าคุณสมบัติของตนเองจะสามารถเทียบได้กับบุคคลในนิยาย ดังนั้นการฝึกเคล็ดวิชาอย่างนี้ ใครจะรู้ได้ว่าต้องฝึกนานเท่าไรกว่าจะสำเร็จได้
ที่สำคัญคือ ละครเจียงไป๋ก็เคยดู แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าราชครูจักรทองเก่งกาจมากนัก
ขนานนามว่ากำลังสิบัสิบช้าง จริงๆ แล้วก็ล้วนเป็การคุยโว เขาน่ากลัวอย่างนั้นที่ไหนกัน
จากที่เจียงไป๋ดูแล้ว ตามการพรรณนาในนิยายกับโทรทัศน์ พื้นฐานเล็กน้อยอย่างราชครูจักรทอง มากสุดก็พอๆ กับปรมาจารย์จีนหนึ่งคน หากสู้กันขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่แน่ว่าใครจะเก่งกาจ
เจียงไป๋ก็เป็ปรมาจารย์วูซูจีนคนหนึ่ง ยัง้าของอย่างนี้อยู่อีกหรือ?
ขั้นสิบก็มีกำลังแค่ห้าร้อยกิโลกรัมเองหรือ?
ล้อเล่นน่า!
ปรมาจารย์วูซูจีนปกติก็ล้วนมีกำลังประมาณนี้
สำหรับเขาในตอนนี้ รักษากำลังไว้ที่หนึ่งพันกิโลกรัมขึ้นไป สองอย่างนี้ไม่มีอะไรจะเทียบกันได้เลย ดูแล้วเขาก็จับได้ของไร้ประโยชน์อีกหนึ่งอย่าง
แต่ไม่นาน ความคิดของเจียงไป๋ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
กำลังภายในของ “พละกำลังดั่งัและช้าง” ขั้นแรกก่อตัวขึ้นภายในตัวของเจียงไป๋ และนำเอาพลังจิ้นลี่ ิจิ้น อั้นจิ้น ฮั้วจิ้น ที่แฝงอยู่ภายในตัวทั้งสามผสานกันเป็พลังใหม่ เคลื่อนไหวไปมาภายในตัวและระหว่างเส้นลมปราณของเจียงไป๋ ทำให้เจียงไป๋รู้สึกถึงความต่างแล้ว
เขารู้สึกว่าแค่ในเวลาฉับพลันพลัง ความเร็ว การตอบสนองของตนเองก็ยกระดับขึ้นมาก กล้ามเนื้อภายในก็ยิ่งแน่นขึ้น ความเร็วยิ่งรวดเร็ว การตอบสนองก็ยิ่งรวดเร็ว ตัวเขาราวกับเข้าสู่ขอบเขตใหม่อีกขอบเขตหนึ่งแล้ว
เวลานี้เจียงไป๋เพิ่งรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ตนเองผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง
เห็นได้ชัดว่า “พละกำลังดั่งัและช้าง” นี้ไม่ใช่แบบฉบับเดิม อานุภาพแข็งแกร่งไร้เทียมทาน แค่พลังขั้นแรก เจียงไป๋ก็รู้สึกว่าตนเองราวกับเป็ไทแรนโนซอรัสในร่างคนแล้ว อยู่ยงคงกระพัน มีพลังดั่งัและช้างจริงๆ
ัหนึ่งตัวมีพลังมากเท่าไร เจียงไป๋ไม่ชัดเจน แต่พลังของช้างหนึ่งตัวนี้เจียงไป๋รู้สึกได้แล้วจริงๆ โดยเฉพาะเป็พลังของช้างแมมมอธขนาดใหญ่
ลองดูสักหน่อย เจียงไป๋รู้สึกว่าพลังของแขนทั้งคู่อยู่ที่สี่พันกิโลกรัมขึ้นไป โดยเฉพาะยิ่งมากขึ้น
นี่ก็เหนือการคาดคิดของมนุษย์แล้ว
ก็คือหากตอนนี้เจียงไป๋ยินยอม เขาก็สามารถยกรถยนต์ด้วยมือเดียวได้ และโยนออกไปได้อย่างง่ายดายราวกับเล่นฟองอากาศ และไม่เปลืองแรงแม้แต่น้อย มือทั้งคู่สามารถยกรถปิกอัพหนึ่งคันได้ก็ไม่ใช่ปัญหา แน่นอนว่า อาจจะกินแรงอยู่บ้าง
พลังอย่างนี้หากซัดเข้าที่ตัวของคนจะเป็อย่างไรบ้าง? แค่คิดก็รู้แล้ว
“ฮ่าๆ! ถูกรางวัลแล้ว!”
เจียงไป๋หัวเราะเสียงดัง และมีความสุขเหลือเกิน
แต่ความสุขอย่างนี้ก็ไม่ได้อยู่นานนักและแล้วก็หายไป เพราะเขาอ่านพบว่าจำนวนแต้มที่จะใช้ในการเพิ่มระดับของวิทยายุทธ์ขั้นสุดในลำดับต่อไปนี้ ก็พอที่จะทำให้เจียงไป๋กระอักเืได้
หาก้าฝึกฝนขั้นสองได้ต้องใช้แต้มบารมีแปดพันแต้ม
พอเถอะ นี่ก็ไม่มาก ตอนนี้เจียงไป๋ยังเหลือสามพันแต้ม เก็บรวบรวมสักหน่อยเดี๋ยวก็มีแปดพันแต้มได้ไม่ยาก
แต่ขั้นสามต้องใช้หนึ่งหมื่นหกพันแต้ม หลังจากนั้นก็เพิ่มขึ้นเป็เท่าตัว ขั้นสี่สามหมื่นแปดพันแต้ม ขั้นห้าเจ็ดหมื่นสองพันแต้ม ขั้นหกหนึ่งแสนสี่หมื่นแต้ม ขั้นเจ็ดก็ต้องใช้สองแสนแปดหมื่นแปดพันแต้มแล้ว
หลังจากนี้เจียงไป๋ก็ไม่กล้าคำนวณอีก
แต้มบารมีจำนวนมหาศาลอย่างนี้ แทบจะทำให้เจียงไป๋เป็ลม
ล้อเล่นอะไร พยายามมานานขนาดนี้แล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะสำเร็จได้ และสะสมแต้มบารมีได้แค่ห้าหกหมื่นแต้มเท่านั้นเอง
เดิมทีคิดว่าไม่น้อย แต่ตอนนี้ดูแล้ว เมื่อเทียบกับที่ต้องใช้อย่างแท้จริงแล้ว นั่นก็เป็น้ำน้อยแพ้ไฟชัดๆ
ที่สำคัญที่สุดคือไอ้เ้า “พละกำลังดั่งัและช้าง” มีสิบแปดขั้นเต็มๆ แค่คิดก็ใแล้ว!
“ควรจะอยู่กับความเป็จริงหน่อย ไม่ควรไปคิดถึงของบ้าๆ อย่างนี้ ควรจะแลก “การฟื้นฟูเหลือล้น” จึงจะเป็จริงหน่อย”
เจียงไป๋ส่ายหัวไปมา และไม่เซ้าซี้กับปัญหานี้อีก ตัดสินใจว่าจะไม่ใช้จ่ายแต้มบารมีไปกับวิทยายุทธ์นี้เด็ดขาด
ถึงแม้ของอย่างนี้มีผลที่แข็งแกร่งต่อร่างกายของตนเองอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนเป็เท่าตัว แต่เจียงไป๋ก็ไม่ยินยอมที่จะทุ่มแต้มบารมีลงไปในหลุมที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้
เขาตัดสินใจหยุดจับรางวัลชั่วคราว เก็บสะสมแต้มบารมี และแลก “การฟื้นฟูเหลือล้น” ออกมา
อย่างไรของอย่างนี้ก็นำชีวิตที่ยาวนานและความหนุ่มมาให้เขาได้ ในขณะเดียวกันก็ให้การเพิ่มระดับความสามารถในการมีชีวิตอยู่ของเขาได้มาก แทบจะเป็ร่างกายะ
ความสามารถที่พลิกฟ้าอย่างนี้้าแต้มบารมีแค่หนึ่งแสนแต้ม?
เมื่อเจียงไป๋รู้สึกว่าระบบใจดำเกินไปแล้ว แต่เมื่อเทียบกับ “พละกำลังดั่งัและช้าง” ในตอนนี้ เจียงไป๋รู้สึกว่าคุ้มค่าแล้ว ใช่ไหม!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้