หลินฟู่อินเล่าเื่ทั้งหมดให้ย่าหลี่ฟังั้แ่ต้นจนจบ
พอฟังแล้วย่าหลี่ก็กัดฟันสบถด่า “บัณฑิตอะไรกัน หน้าตาเช่นนี้ นิสัยเช่นนี้เหมือนแม่แท้ๆ ไม่มีผิด!”
หลินฟู่อินรินน้ำอุ่นให้ย่าหลี่แล้วพูด “อย่าโมโหเลยเ้าค่ะท่านย่า ต่อให้ร้ายกาจยังไงก็ไม่กล้าเอาเปรียบเราแม้แต่น้อย ไม่อย่างนั้นก็มีแต่จะทำให้ผู้อื่นรู้เท่านั้นว่าเนื้อแท้เขาเป็ยังไง”
ย่าหลี่จิบน้ำที่หลินฟู่อินยื่นให้พลางพยักหน้า “โชคดีที่เ้าฉลาด หากเป็เด็กทั่วไปป่านนี้ไม่ใช่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านแล้วหรือ? แล้วหากเขาพอใจ ตาแก่หลินนั่นยิ่งมีความสุข เช่นนั้นคงไม่ยึดบ้านเ้าหรอกกระมัง? ซานหลางคนเดียวยังไม่พอ ยังมีต้าหลางมาอีก ช่างกล้ายิ่งนัก…”
ย่าหลี่พูดไม่ออก นางอยู่มานาน เห็นอะไรมามาก แต่เพิ่งเคยเห็นคนบ้านหลินทำเช่นนี้
หลินฟู่อินก็ไม่มีทางเลือก โลกนี้มีคนอยู่ทุกรูปแบบ เมื่อได้เจอญาติแสนยอดเยี่ยมเช่นนี้ก็มีแต่ต้องยอมรับเท่านั้น
“ส่วนหยวนซื่ออะไรนั่นข้ารู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่ตัวดีอะไร!” ย่าหลี่ตบโต๊ะป้าบๆ ด้วยความหงุดหงิดใจ
“ท่านย่าอย่าโมโหเลยนะเ้าคะ วันนี้ข้าถอนฟืนใต้กระทะ [1] ไปแล้ว หลินต้าหลางกับหยวนซื่อคงไม่กล้ามาก่อเื่ที่นี่แล้วเ้าค่ะ” หลินฟู่อินว่า
ตอนนี้ย่าหลี่เป็ห่วงนางทุกทาง นางเองก็เกรงว่าย่าหลี่จะโมโหจนเสียสุขภาพ
เห็นสีหน้าเป็กังวลเช่นนี้ก็ทำให้อบอุ่นหัวใจยิ่งนัก ย่าหลี่จับมืออ่อนนุ่มของเด็กสาวเอาไว้ “ลำบากเ้าแล้วเด็กน้อย”
หลินฟู่อินส่ายหน้าไปมา
“กลัวแต่เ้าจะมองพวกนั้นในแง่ดีเกินไป ถึงหลินต้าหลางนั่นจะสอบผ่านเ้าก็คงไม่ได้อะไรตอบแทน ดูนิสัยหยวนซื่อจ้าวซื่อสองคนนั้น อีกหน่อยมีแต่จะหาทางข่มเหงเ้า” หญิงชรามองหน้าหลินฟู่อิน “หากชาตินี้สอบไม่ผ่าน เพื่อจะแต่งเมียที่ดีหน่อยเข้าบ้าน คนย่อมต้องหาทางจัดการเ้า”
หลินฟู่อินคิดกับตัวเอง ย่าหลี่คนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ มีสายตากว้างไกล เื่ที่อีกฝ่ายพูดมาล้วนแต่เป็เื่ที่นางกังวลทั้งนั้น
ตอนนี้นางต้องหาทางติดอาวุธให้ตัวเองก่อน มีแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้นจึงจะไม่โดนรังแก ทั้งยังสามารถกำราบพวกญาติที่ทำตัวเหมือนผีหิวส่วนบุญนั่นได้
หลินฟู่อินปลอบใจย่าหลี่อยู่หลายคำ จากนั้นจึงไปดูไข่ดอกสนที่ทำเอาไว้
่นี้นางได้รับไข่เป็ดไข่ไก่เป็ค่ารักษามามาก นางนำทั้งหมดไปทำไข่ดอกสน ดูๆ แล้วมีราวสี่ห้าร้อยฟองได้
อันที่จริงที่บ้านเกิดของนางเรียกสิ่งนี้ว่าไข่กลาย หากทำจากไข่เป็ดจะเรียกไข่ดอกสน
หากทำไข่ดอกสนสำเร็จนางจะนำไปขายให้ร้านอาหารในเมือง ไข่ดอกสนเช่นนี้กินกับผักสดๆ เป็อาหารเรียกน้ำย่อยได้ดีมาก
ถ้านางทำถูกวิธีนะ
อาเฟินอาฟางตั้งอกตั้งใจเก็บอ้ายเฉ่าร่วมกับหลินซานหลางอีกคน ตอนนี้ผ่านมาหลายวันก็เก็บได้ถึงครึ่งหนึ่งของห้องเก็บของแล้ว
ระหว่างนี้หลินซานหลางยังพบพื้นที่หลายแห่งที่มีพวกสมุนไพรขึ้น เช่น หญ้าเชอเฉียน ทุกคนคุยๆ กันแล้วก็เก็บกลับมามากมาย
หลินฟู่อินดีใจเสียจนตกรางวัลให้ทั้งสามเพิ่มขึ้นอีกห้าอีแปะ
หลินฟู่อินคิดเอาไว้ว่าถ้าบ้านเดิมเชิญหมอหลี่มาจริงๆ นางจะคุยกับเขาแล้วให้คนนำต้นอ้ายเฉ่าไปขาย
แต่หลินฟู่อินยังไม่ทันจะได้รออะไร หลี่อี้ก็นั่งรถม้ามาที่หมู่บ้านในเช้าวันต่อมา
เมื่อหลี่อี้เดินเข้ามาในบ้านของหลินฟู่อิน เห็นใบหน้านางมีเืฝาดท่าทางแข็งแรงดีก็พยักหน้าพอใจ
จากนั้นเขาก็ไม่เสียเวลาจิบน้ำยืดยาด กล่าวออกมาตรงๆ ว่า “แม่นางหลิน สมุนไพรสามอย่างที่เ้าขายให้เราคราวก่อน ครั้งนี้เก็บได้มากเท่าไร?”
“คิดว่าพอๆ กับครั้งก่อน” หลินฟู่อินคิดเล็กน้อยก็ตอบกลับไป
หลี่อี้มองนางด้วยสายตาเปล่งประกาย ปรบมือกล่าว “โชคดี โชคดีจริงๆ! ไม่ขอปิดบังเ้า สมุนไพรสามอย่างนี้นำมาทำยาแล้วเข้ากันได้ดีมาก ตอนนี้ร้านยาบ้านข้านับว่ามีแต่ผู้้าหาซื้อ หวังว่าหลังจากข้ากลับไปคราวนี้ แม่นางหลินจะเก็บมากขึ้นอีก ไม่ว่าจะเก็บได้มากเท่าไรเราก็้าทั้งหมด!”
หลินฟู่อินเองก็เกิดสายตาวาววับ เป็ข่าวดีจริงๆ
ในใจของหลินฟู่อินมีแผนการอยู่ นางยิ้มมองหลี่อี้ตรวจสอบสมุนไพร เมื่ออีกฝ่ายเห็นอ้ายเฉ่ากองโตเป็ูเา ส่งกลิ่นสมุนไพรหอมๆ ลอยออกมาก็มีทีท่ายินดีอย่างยิ่ง
“แม่นางหลิน หาสมุนไพรดีๆ เช่นนี้มาจากที่ไหนกัน?” หลี่อี้ถามด้วยความสงสัย ยื่นมือออกไป “นี่ไม่ใช่อ้ายเฉ่าหรอกหรือ?”
“เป็อ้ายเฉ่าจริงๆ” หลินฟู่อินพยักหน้า ก่อนจะร่ายสรรพคุณของต้นอ้ายเฉ่าให้หลี่อี้ฟังจนเขาตกตะลึง
เมื่อได้ฟังว่าต้นอ้ายเฉ่าดีต่อร่างกายสตรี ดวงตาก็เปล่งประกายมากขึ้นเรื่อยๆ “ข้า… โอ พี่น้องของอาจารย์ข้ามีอยู่คนหนึ่งถนัดด้านโรคสตรี หากทราบว่าต้นอ้ายเฉ่าดีต่อการรักษาเช่นนี้คงยินดีเป็อย่างยิ่ง”
หลินฟู่อินคาดว่าสกุลหลี่น่าจะสนใจอ้ายเฉ่าแน่ๆ แต่ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะมีคนที่ถนัดรักษาโรคสตรีด้วย
ในบรรดาหมอยุคนี้นับว่าหายากยิ่งนัก
หลี่อี้เองก็เป็คนคิดการใหญ่ เห็นหลินฟู่อินมีอ้ายเฉ่าชั้นดีเก็บไว้จำนวนมากก็เสนอออกมา “แม่นางหลิน วันนี้ข้ามาที่นี่แล้ว ท่านว่าต้นอ้ายเฉ่าพวกนี้ขายให้ข้าด้วยจะดีหรือไม่?”
ในเมื่อหลี่อี้กล้ารับอ้ายเฉ่าพวกนี่ไว้ อีกฝ่ายย่อมมีอำนาจในการตัดสินใจอยู่ไม่น้อย หรืออาจจะกระทั่งได้รับมอบอำนาจจากหมอหลี่ให้สามารถรับซื้อสมุนไพรใหม่ๆ ได้ตามความเหมาะสม
ได้ผลลัพธ์แบบนี้หลินฟู่อินยินดียิ่งนัก การทำการค้ากับสกุลหลี่นับว่าเป็การตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ
“แม่นางหลิน?” หลี่อี้เห็นหลินฟู่อินเอาแต่ยิ้มไม่พูดอะไรก็เรียกเสียงเบาอย่างงุนงง
“โอ ดีเลยเ้าค่ะ เช่นนี้อ้ายเฉ่าก็ขายให้พวกท่านแล้วกัน” หลินฟู่อินรู้สึกตัวก็รีบตอบรับทันที
หลี่อี้เองก็ยินดี ท่านอาจารย์และท่านลุงของเขาล้วนแต่ย้ำอยู่หลายครั้งว่าต้องผูกมิตรกับแม่นางหลินให้ได้ และซื้อสมุนไพรดีๆ จากนางให้มากหน่อย
ดูจากสิ่งที่ท่านลุงพูดแล้ว แสดงว่าอีกฝ่ายชื่นชมแม่นางหลินไม่น้อย
เขาเองก็ชอบแม่นางหลินคนนี้มากเช่นกัน เมื่อเป็เช่นนี้เขาเองก็ยินดี
ครั้งนี้หลี่อี้พาผู้ติดตามมาด้วย เด็กคนนี้เป็เหยาถงหรือก็คือคนที่ช่วยขายยา สมุรไพรต่างๆ เหยาถงคนนี้ฉลาดมาก ระหว่างที่หลี่อี้กับหลินฟู่อินคุยกัน เขากับย่าหลี่ก็ช่วยกันชั่งน้ำหนักสมุนไพร
อ้ายเฉ่าน้ำหนักไม่มากอยู่แล้ว ูเาอ้ายเฉ่ากองย่อมๆ นี้ชั่งออกมาได้ราวสองร้อยจิน เนื่องจากตากแดดจนแห้งทั้งยังสะอาดสะอ้าน หลี่อี้จึงให้ราคาจินละแปดสิบเฉียน
หลินฟู่อินเห็นราคาก็พอใจยิ่งนัก หลี่อี้ใจกว้างกับนาง นางก็ยินดีใจกว้างกลับ ลดราคาให้สองจิน รวมออกมาแล้วเป็สองร้อยจินพอดี
ดังนั้นอ้ายเฉ่าจึงขายออกไปในราคาหนึ่งร้อยหกสิบตำลึงเงิน
หลี่อี้หยิบตั๋วแลกเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงินออกมาสามใบ แล้วสั่งให้เหยาถงน้อยควักเงินอีกหลายสิบตำลึงเงินออกมาให้หลินฟู่อิน
หลินฟู่อินได้เห็นตั๋วแลกเงินตำลึงเป็ครั้งแรก อย่าว่าแต่หนึ่งใบเลย สามใบยิ่งไม่เคย หัวใจนางพลันสั่นไหวขึ้นมา…
----------------------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] ถอนฟืนใต้กระทะ เป็สุภาษิต คือการดึงฟืนที่กำลังเผาไหม้ออกจากใต้หม้อหรือกระทะ มีความหมายว่า การแก้ปัญหาที่ต้นตอ และยังเป็หนึ่งในสามสิบหกกลยุทธ์ของสามก๊ก ชื่อว่ากลยุทธ์ถอนฟืนใต้กระทะ คือการใช้วิธีอ่อนพิชิตแข็ง ฉกฉวยจังหวะและโอกาสในการทำลายกองทัพส่วนหนึ่งของศัตรูให้แตกพ่ายย่อยยับในภายหลัง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้