เหลียงซื่อยิ้ม “เช่นนี้เ้าก็มาถูกที่แล้ว หมู่บ้านต้าเหอบ้านเดิมของอาสะใภ้เ้ามีแม่น้ำอยู่มาก ทุกบ้านต่างก็เลี้ยงเป็ดมากมาย ถ้าอยากจะซื้อไข่เป็ด เช่นนั้นไปหมู่บ้านต้าเหอจะดีที่สุด”
บ้านเดิมของเหลียงซื่ออยู่ที่หมู่บ้านต้าเหอ เป็สถานที่ที่มีแม่น้ำหลายสายสมชื่อ
ดังนั้นทุกบ้านในหมู่บ้านนั้นจึงเลี้ยงเป็ดกันจนมีไข่เป็ดมากมาย โดยปกติชาวบ้านมักจะนำไข่ที่ว่าไปขายยังตลาดในเมือง แต่ก็ไม่ได้ราคาดีเท่าไรนัก หากหลินฟู่อิน้าซื้อ ชาวบ้านก็ยินดีที่จะขายยิ่งกว่า
ต้ายาล้างจานเสร็จเช็ดมือจนแห้ง เมื่อได้ยินเหลียงซื่อบอกว่าหลินฟู่อินจะเดินทางไปหมู่บ้านต้าเหอเพื่อซื้อไข่เป็ด นางก็พูดทันทีว่านางช่วยได้
หลินฟู่อินจึงขอให้ซ่งซื่อแม่ของต้ายาเป็คนช่วยรับซื้อไข่เป็ดวันละครั้ง โดยให้ค่าจ้างวันละห้าอีแปะ
แม่ของต้ายามองหน้าแม่สามีของตนที่นั่งฟังอยู่ไม่ห่าง
เหลียงซื่อยิ้ม มองหลินฟู่อิน “เช่นนั้นก็ให้ป้าสะใภ้ช่วยเ้าเถอะ และข้าจะให้ต้ายาไปช่วยเ้าอีกแรง”
ต้ายาตกปากรับคำด้วยความยินดี
หลินฟู่อินมองหน้าเพื่อนสนิท อีกฝ่ายมองกลับด้วยสีหน้ากระตือรือร้น นางจึงยิ้มเล็กๆ “ดีเลย ยังไงข้าก็้าไข่จำนวนมากอยู่แล้ว เกรงว่าท่านป้าคนเดียวจะลำบากเกินไป แต่ถึงจะเป็ต้ายาข้าก็ยังให้ค่าจ้างวันละห้าอีแปะอยู่ดีนะเ้าคะ”
“กับต้ายาเ้าไม่ต้องให้ค่าจ้างหรอก” เหลียงซื่อปฏิเสธทันที
หลินฟู่อินถือคติว่าใครดีมาต้องดีตอบ เมื่อเห็นเหลียงซื่อปฏิเสธด้วยท่าทางจริงใจ นางจึงตอบกลับด้วยความจริงใจเช่นกัน “ท่านย่าเหลียงเ้าคะ ขนาดลูกพี่ลูกน้องของข้าเองข้ายังให้ค่าจ้างเลย ลูกพี่ลูกน้องของข้าทำได้ ต้ายาก็ทำได้ เช่นนี้จะไม่ให้ค่าจ้างได้ยังไง?”
หลินฟู่อินเปรียบเทียบต้ายากับอาเฟินอาฟางเช่นนี้ ถือเป็การบังคับด้วยวิธีสุภาพ
เหลียงซื่อย่อมรู้ดี เมื่อเห็นหลินฟู่อินตอบทันควันชนิดตาไม่กะพริบก็นึกชื่นชมอยู่ในใจ ไม่พูดอะไรอีก
“เช่นนี้ข้าต้องขอบคุณฟู่อินแล้ว ให้ต้ายาติดตามเ้าเพื่อหาสินเดิมเถอะ”
คำพูดของเหลียงซื่อทำเอาต้ายาหน้าแดงก่ำ ขณะที่หลินฟู่อินมองสหายพร้อมกับเม้มปากกลั้นยิ้ม
ชนบทห่างไกลเช่นนี้เด็กผู้หญิงอายุสิบสามสิบสี่ปีก็ต้องวุ่นวายหาคู่แต่งงานกันแล้ว ต้ายาเองก็เริ่มสนใจเื่นี้ นางคิดอยากหาเงินส่วนตัวจากหลินฟู่อินเหมือนอาเฟินอาฟางของบ้านสองสกุลหลินมาตั้งนานแล้ว
“ฟู่อิน เ้ามีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่?” จูซื่อเห็นพี่สะใภ้กับหลานสาวได้งานจากหลินฟู่อิน และยังได้ค่าจ้างสูงเช่นนี้ก็กระตือรือร้นขึ้นมา
เหลียงซื่อรู้ว่าสะใภ้รองของนางมีความคิดอยู่ในใจ แต่อย่างไรจูซื่อก็เป็คนให้นมน้องๆ ของหลินฟู่อินอยู่ทุกวัน เกรงว่าหากเหน็ดเหนื่อยเกินไปน้ำนมจะหมดเอาได้
หญิงชราจึงกล่าวว่า “เ้ายังต้องให้นมเด็กๆ อยู่ ดูแลทั้งสองให้ดี โอกาสหาเงินยังมีอีกมาก”
หลินฟู่อินรู้สึกประทับใจในตัวเหลียงซื่อขึ้นมาทันที คนผู้นี้นับว่าเป็แม่สามีที่ดีมาก
จูซื่อทราบว่าแม่สามีหวังดีจึงได้ยิ้มรับ “เ้าค่ะ”
หลินฟู่อินลองคิดสักครู่ก็กล่าวว่า “ข้ายัง้ารับซื้อไข่ไก่ แต่ยังหาคนไม่ได้เ้าค่ะ”
เมื่อเหลียงซื่อได้ยินเช่นนี้ก็คิดจัดการวางแผนให้เสร็จสรรพ “เื่นี้เ้ารีบหรือไม่?”
“ไม่รีบเ้าค่ะ ่นี้ชาวบ้านมารับการรักษาที่บ้านข้า ยังมีไข่ไก่ที่ได้เป็ค่ารักษาอยู่อีกมากเ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินว่าไม่เร่งด่วน เหลียงซื่อก็มองนางด้วยสายตาจริงจัง “หากฟู่อินไม่ถือสาอะไร ลองรับฟังคำแนะนำยายแก่คนนี้เถอะ เื่นี้ไปขอให้ป้าสองของเ้าจัดการให้นับเป็เื่ดี”
เมื่อหลินฟู่อินได้ยินก็เข้าใจทันที ว่ากันว่ายิ่งแก่ก็ยิ่งแข็งแกร่ง หญิงชราผู้นี้เห็นเื่ราวมามาก การตัดสินใจจึงรวดเร็วและแม่นยำ
นางลืมเฟิงซื่อไปเสียสนิท
ตอนที่คิดถึงเฟิงซื่อกับลุงสองนางคิดออกแต่เื่สร้างบ้าน ไม่ใช่ว่าใกล้เสร็จแล้วหรือ? ให้ลุงสองมาช่วยเช่นนี้ยังดีต่อชื่อเสียงของนาง แสดงให้เห็นว่าหลินฟู่อินไม่ใช่คนละเลยครอบครัว
แม้เดิมทีนางจะไม่ได้ละเลยบ้านสองั้แ่ต้น แต่ชาวบ้านต่างก็ให้ความสนใจกับเื่เล็กๆ น้อยๆ ทั้งยังเชื่อแต่สิ่งที่ตนเห็นเท่านั้น
หลินฟู่อินกล่าวขอบคุณเหลียงซื่ออย่างจริงใจ คิดว่าอีกสองวันพอไข่ดอกสนที่ทำไว้อีกหนึ่งชุดได้ที่ จะนำมาให้เหลียงซื่ออีกสักยี่สิบฟอง
เหลียงซื่อไม่รู้ว่าในใจเด็กสาวคิดอะไรอยู่ นางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอิจฉาเล็กๆ “ข้าพอจะเห็นอยู่ว่าแม่เ้าไม่ธรรมดา ดูเอาเถอะ ทิ้งของดีไว้ให้เ้าตั้งมากเพียงนี้…” นิ่งไปนิดก่อนนางจะกระแอม “เป็ตำรับที่แม่เ้าทิ้งเอาไว้ให้ เ้าก็สมควรเก็บเอาไว้สืบทอดให้คนรุ่นหลัง ข้าว่าเ้าเริ่มค้าขายได้ อีกหน่อยหากแม่เ้าได้เห็นว่าพวกเ้าสามพี่น้องไม่ลำบากต้องดีใจแน่นอน!”
หลินฟู่อินพยักหน้า “เช่นนั้นข้าต้องรบกวนให้ท่านคอยชี้แนะแล้วเ้าค่ะ!”
เหลียงซื่อย่นคิ้วน้อยๆ สุดท้ายก็ช่วยอีกหน่อย “รู้ใช่หรือไม่ว่าเหล่าเฉินข้างบ้านเ้าเปิดร้านขายของอยู่ในเมือง? หากเ้าทำไข่ดอกสนนี้อีก เ้าก็ส่งไปให้เขา ขอให้เขาช่วยเอาไปขายในร้าน”
หลินฟู่อินไม่ได้คิดไปถึงเหล่าเฉินแม้แต่น้อย เพราะเท่าที่ร่างเดิมนี้จำได้คือบ้านของเหล่าเฉินเปิดร้านขายของอยู่ในเมือง แทบจะไม่กลับมาที่หมู่บ้านหูลู่ ยกเว้นก็แต่คืนก่อนวันปีใหม่ที่จะกลับมาไหว้บรรพบุรุษ
ดังนั้นนางไม่ได้คิดถึงอีกฝ่ายเลย แต่ในเมื่อเหลียงซื่อใจดีแนะนำให้ นางย่อมยินดี
ส่วนเหล่าเฉินที่ว่านี้เป็บ้านพ่อค้าผู้แสวงหากำไร ขอแค่ไข่ดอกสนที่นางทำขายดี นางก็ไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่มาหา
หลินฟู่อินกล่าวขอบคุณเหลียงซื่ออีกครั้ง ก่อนจะถามเื่ราคาไข่เป็ด จึงได้ทราบว่าราคาไข่เป็ดของหมู่บ้านต้าเหอล้วนเหมือนกันคือสามฟองต่อหนึ่งอีแปะ แต่ในวันที่อากาศร้อนเช่นนี้ เนื่องจากเกรงว่าไข่จะเน่าเอาได้จึงมีคนที่ขายในราคาสี่ฟองต่อหนึ่งอีแปะอยู่ด้วย แต่แน่นอนว่าเป็ไข่เก่าจากเมื่อวาน
หลินฟู่อินลองคิดดู เห็นว่าอย่างไรก็ต้องทำไข่ดอกสนที่เป็ของหมักอยู่แล้ว นางจึงไม่กลัวเื่ไข่ไม่สด
เอาจำนวนมากเข้าว่า ขอแค่ทำออกมาเป็ไข่ดอกสนก็สามารถเก็บได้นานแล้ว
“ท่านป้าเ้าคะ หากมีใครคิดจะขายให้ข้าสี่ฟองหนึ่งอีแปะก็ซื้อมาได้หมดเลยนะเ้าคะ หนึ่งตำลึงเงินไม่ใช่ปัญหา” หลินฟู่อินคำนวณจากราคาสี่ฟองต่อหนึ่งอีแปะ แล้วก็ควักเอาเงินสิบตำลึงกับเหรียญทองแดงสิบพวงเหรียญออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะส่งให้แม่ของต้ายา “คิดจากสี่ฟองหนึ่งอีแปะ ก่อนอื่นก็ซื้อสักแปดพันฟอง ถ้าไม่ได้ก็ค่อยซื้อสามฟองหนึ่งอีแปะมาหกพันฟอง”
ไม่ต้องพูดถึงต้ายา กระทั่งเหลียงซื่อก็ยังใกับความบ้าบิ่นนี้ ซื้อไข่เป็ดยี่สิบตำลึงเงินในครั้งเดียว นับเป็การซื้อขายครั้งใหญ่สำหรับชาวชนบทอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ฟู่อิน ครั้งแรกซื้อน้อยๆ ก่อนไม่ดีกว่าหรือ?” เหลียงซื่อถามด้วยความเป็ห่วงกลัวว่าเด็กสาวจะสิ้นเนื้อประดาตัว เงินยี่สิบตำลึงเงินนี้นับว่ามหาศาลสำหรับชาวไร่ชาวนาเช่นพวกนางที่ต้องก้มหน้าก้มตาปลูกพืชกันทั้งปี
ยำไข่ดอกสนจานนี้ครอบครัวพวกนางชอบ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะต้องชอบด้วย
หลินฟู่อินมองเหลียงซื่อด้วยความใคร่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดเห็นว่าอย่างไร
เมื่อเหลียงซื่อเห็นว่าเด็กสาวมีท่าทีรับฟัง นางก็รีบเกลี้ยกล่อม “ฟู่อิน ไม่ใช่ว่าอาหารที่พวกข้ากินเข้าไปมันไม่อร่อย แต่ข้าเห็นว่าต่อให้ทุกคนจะชอบไข่ดอกสนพวกนี้ แต่การจะทำจนเสร็จยังต้องใช้ทั้งเงินทุน ทั้งความพยายามใช่หรือไม่? หากเ้าขายออกไปราคายิ่งต้องแพงกว่านี้ ชาวบ้านซื้อไข่ไก่สามฟองหนึ่งอีแปะยังแทบไม่มีปัญญา แล้วจะหาเงินทองจากที่ไหนมาทานไข่ดอกสนที่แพงยิ่งกว่าได้ล่ะ?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้