หลังจากนั้นเจียงไป๋ก็เริ่มยืนพูดอยู่บนแท่นนั้นอย่างไม่เกรงใจแล้ว
เศรษฐศาสตร์ขั้นพื้นฐาน พอเจียงไป๋เริ่มบรรยาย ก็บรรยายถึงแิและความรู้ของตนเอง และทำให้คนที่เดิมทียังยิ้มแย้มค่อยๆ เข้าสู่การครุ่นคิด
การบรรยายของเจียงไป๋ไม่เหมือนกับพวกศาสตราจารย์แก่ๆ เขาบรรยายได้อย่างตามใจชอบ แต่กลับถี่ถ้วนมาก โดยเฉพาะสร้างแนวความคิดแปลกใหม่และแหวกแนว มีแิใหม่มากมาย และให้ความสนใจกับการเงินอินเทอร์เน็ต และการวิเคราะห์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจล่วงหน้า ทำให้ทุกคนจุดประกาย
นักศึกษาที่มาเรียนอยู่ที่นี่ได้ล้วนมีแต่นักเรียนหัวกะทิ เป็ธรรมดาที่ความสามารถในการเข้าใจจะไม่ธรรมดา โดยเฉพาะนักศึกษาจำนวนไม่น้อยล้วนมีความคิดของตนเอง สิ่งที่เจียงไป๋บรรยายทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์มากมาย
โดยเฉพาะคนที่รีบมาเตรียมที่จะชี้ความผิดพลาดของเจียงไป๋ หรือว่าดูเขาขายหน้า หรือว่าเตรียมที่จะวิพากษ์วิจารณ์ศาสตราจารย์คณะการเงินและนักเศรษฐศาสตร์เ่าั้ของเขาเพราะไม่พอใจที่ฟางเทียนหรูแทรกคนเข้ามาอย่างมั่วซั่วก็ล้วนฟังอย่างน่าสนใจ
ทุกคนล้วนฟังกันอย่างจริงจังมาก พอกริ่งเตือนเลิกเรียนดังขึ้น ในห้องเรียนยังคงเงียบกริบ
“อ้อ ถึงเวลาแล้ว … ครูต้องเลิกงานแล้ว”
เสียงกริ่งดังขึ้น แต่ในห้องเรียนยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ บรรยากาศที่เงียบกริบทำให้เจียงไป๋แปลกใจ หลังจากนั้นจึงปิดหนังสือเรียน แล้วพูดแบบนี้
วินาทีต่อมา เสียงปรบมือดังขึ้นตามมา
การสอนของเจียงไป๋ไม่คร่ำครึ บรรยายได้อย่างน่าสนใจและมีชีวิตชีวามาก ที่สำคัญที่สุดคือแิและความรู้ที่แฝงอยู่ในนั้น ทำให้ทุกคนได้ฟังอะไรใหม่ๆ เป็ธรรมดาที่จะได้รับเสียงปรบมือ
“ศาสตราจารย์เจียง คาบนี้ของคุณยังบรรยายไม่จบ บรรยายอีก คาบต่อไปคือการฝึกฝนด้วยตนเอง พวกเราไม่มีธุระอะไรแล้ว เมื่อครู่ยังฟังไม่พอเลย”
นักศึกษาคนหนึ่งอดพูดไม่ได้
พอคำนี้พูดออกมา ก็ดึงดูดเสียงตอบรับนับไม่ถ้วน
คนมากมายในห้องเรียนต่างก็ขอให้เจียงไป๋สอนต่อ และไม่ยอมเลิกเรียน นี่ก็ทำให้พวกศาสตราจารย์แก่ๆ ที่เดิมทีตื่นตะลึงมากแปลกใจเป็พิเศษ
พวกเขาสอนหนังสือมาตั้งหลายปี ภาพเหตุการณ์อย่างนี้ก็ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ
หากรู้ว่าวิชาการเงินและเศรษฐศาสตร์ก็น่าเบื่อมาก นักศึกษาหลายคนพอฟังแล้วก็ง่วงนอน ถึงจะเป็นักศึกษาเรียนดี ก็ไม่มีความคิดที่จะเรียนอย่างต่อเนื่อง แต่ตอนนี้นักศึกษาหลายคนกลับขอร้องให้เจียงไป๋สอนต่อ …
นี่ก็ทำให้พวกเขาตะลึงงันจริงๆ …
บางคนเริ่มครุ่นคิดถึงวิธีการสอนในเมื่อก่อนของตนเอง หรือว่ามีปัญหาแล้ว
“ไม่ได้ ครูยุ่งน่ะ ครั้งหน้า ครั้งหน้า”
ล้อเล่นน่า แค่คาบเดียวก็เหนื่อยแล้ว ยังจะให้เขาสอนอีก?
การกระทำของเจียงไป๋ทำให้ศาสตราจารย์เ่าั้ต่างก็ฝืนยิ้ม พวกเขาอยากให้นักศึกษาเรียนต่อ แต่พวกเขาไม่ฟัง แต่ตอนนี้เจียงไป๋กลับมีฐานะเป็ศาสตราจารย์ ถึงแม้จะเป็ศาสตราจารย์รับเชิญ แต่นั่นก็เป็ศาสตราจารย์ พวกนักศึกษากระตือรือร้นเสียอย่างนี้ เขายังจะไม่สอนแล้วหรือ
ทั้งสองเปรียบกัน ทำให้พวกศาสตราจารย์เ่าั้ฝืนยิ้ม
“พี่ชาย พี่ชายสอนต่อเถอะ ยังฟังไม่จบ หากพี่สอนเสร็จ ฉันจะให้หว่านหรูหอมพี่สักหน่อย!”
จู่ๆ เสียงใสๆ ก็ดังขึ้น หม่าซูเยี่ยนที่นั่งข้างๆ หลินหว่านหรูไม่รู้ว่ายืนขึ้นั้แ่เมื่อไร และพูดเสียงสูงอย่างนี้ ทำให้เจียงไป๋หยุดชะงัก
แค่ฉับพลันคนในห้องเรียนก็ทยอยมองกัน และเล็งสายตาไปที่หลินหว่านหรูที่หน้าแดง และกำลังตีหม่าซูเยี่ยนเบาๆ อยู่ สายตาก็แปลกมากเหลือเกิน
หากหม่าซูเยี่ยนไม่พูดคำนี้ก็จะดีแล้ว แต่พอพูดคำนี้ ไม่ใช่แค่ทำให้หลินหว่านหรูหน้าแดง แต่กลับทำให้เจียงไป๋ยิ่งะโหนีออกไปจากห้องเรียนแล้ว
คิดไม่ถึงว่านักศึกษาชายที่เมื่อครู่เลื่อมใสเขามาก ตอนนี้ต่างก็ใช้สายตาที่แทบจะฆ่าคนได้มองมาที่เขาแล้วหรือ?
ถึงแม้เจียงไป๋จะไม่กลัวพวกนั้น แต่เขาก็เป็ครู ไม่ควรชกต่อยกับนักศึกษาเพราะอาการหึงหวง หากพูดออกไปก็จะขายหน้ามาก
“เจียงไป๋ บรรยายได้ไม่เลว ฉันดูคนไม่ผิดจริงๆ คนหนุ่มมีอนาคต เดิมทีสำหรับเื่ของนายก็มีคนมากมายไม่พอใจ พวกศาสตราจารย์เ่าั้ก็คิดว่าฉันคิดน้อยเกินไป เอาคนหนุ่มอย่างนายมาเป็ศาสตราจารย์ ในประเทศก็เป็การเปิดจุดเริ่มต้น หลายๆ คนคิดว่าทำอะไรมั่วซั่ว มีผู้าุโหลายๆ คนมาวุ่นวายกับฉัน แต่วันนี้พอได้เห็นการสอนของนายแล้ว หลายๆ คนล้วนเปลี่ยนความคิด ก่อนหน้านี้พวกครูแก่ๆ ของคณะการเงินยัง้าจะไล่นายออกไป แต่เมื่อครู่เขาก็มาอีกแล้ว บอกว่าตำแหน่งศาสตราจารย์รับเชิญของนายไม่มั่นคง ให้ฉันคิดหาทางช่วยให้นายได้บรรจุ และเป็รองศาสตราจารย์ไปก่อน ทำให้คนอยู่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน … ครั้งนี้เขากลัวว่านายจะไปจากที่นี่แล้ว ฮ่าๆ … ”
่เช้าก็สอนไปหนึ่งคาบแล้ว หลังจากนั้นเจียงไป๋ก็กลับมาพักผ่อนที่ห้องสมุด ตอนบ่ายเขาเห็นฟางเทียนหรูที่ใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม พอเขามาก็เห็นเจียงไป๋ อีกฝ่ายจึงหัวเราะแล้วพูดอย่างนี้
เสียงดังมาก ทำให้คนมองนับไม่ถ้วน แต่ท่านอธิการคนนี้กลับไม่สนใจแม้แต่น้อย และลืมไปเลยว่าที่นี่คือห้องสมุดที่ควรจะหยุดใช้เสียง
“อ้อ รองศาสตราจารย์อะไรกันพอเถอะ ศาสตราจารย์รับเชิญผมจะทำไปก่อน ไม่รู้ว่าเมื่อไรผมจะไม่อยากทำแล้ว คนอย่างผมไม่มีความสม่ำเสมออะไร แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยคิดที่จะดำเนินงานการศึกษาให้ถึงที่สุด”
เจียงไป๋ฝืนยิ้ม ไม่เข้าใจว่าเ้าพวกนี้เป็อย่างไรกันแน่ ก็ไม่ใช่แค่คาบเดียวหรือ ก็ไม่ใช่แค่สอนๆ ไปอย่างนั้นหรือ จำเป็ต้องทำอย่างนี้หรือ?
แต่ไม่นาน เจียงไป๋ก็รู้ว่าจำเป็หรือไม่แล้ว คาบแรกของเขาประสบความสำเร็จมาก ทำให้คนมากมายชมเชย คาบสองเป็่บ่าย ตอนที่เขามาถึงห้องเรียนก็ล้วนตะลึงงันไปเลยทีเดียว
ห้องเรียนใหญ่ที่เดิมทีจุคนสองร้อยคน ่เช้ายังมีคนแค่ครึ่งเดียว ในนั้นยังครอบคลุมถึงวิทยากร ศาสตราจารย์อีกจำนวนหนึ่ง แต่ตอนบ่ายนี้ ด้านในมีคนนั่งอยู่กันเต็มไปหมดแล้ว ด้านนอกยังห้อมล้อมไว้อีกกลุ่มใหญ่ และทำให้ห้องเรียนที่กว้างขวางเบียดเสียดขึ้นมาก
“นี่ทำอะไรกัน?”
เจียงไป๋ตะลึงงัน และถามฟางเทียนหรูที่อยู่ข้างๆ อย่างไม่เข้าใจ
“คาบเรียนตอนเช้านายประสบความสำเร็จมาก ดึงดูดความสนใจของทุกๆ คนไม่น้อย นี่ก็ไม่ใช่ว่า … นักศึกษาของคณะการเงินล้วนมากันมากกว่าครึ่งแล้ว ยังมีนักศึกษาของคณะอื่นๆ ที่สนใจเื่เศรษฐกิจ เพิ่งจะมีคนรายงานตัวสี่ร้อยกว่าคน ห้องเรียนห้องนี้ล้วนจุนายไม่ได้แล้ว”
ฟางเทียนหรูลูบคลำจมูก และพูดพลางหัวเราะ เขาพอใจต่อผลลัพธ์นี้มาก
ความสำเร็จของเจียงไป๋ มาจากความสามารถในการมองคนของเขา จึงมีผลลัพธ์อย่างนี้ แน่นอนว่าเขาได้เกียรตินี้แล้ว
สำหรับเื่นี้ เจียงไป๋หมดคำพูด และก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเดินตรงเข้าไป หลังจากนั้นภายใต้การให้ความสนใจของดวงตาเป็คู่ๆ ของคนสี่ร้อยกว่าคน เขาเริ่มบทเรียนที่ต่อจาก่เช้าของตนเองต่อ
เดิมทีเขายังเตรียมที่จะให้โอกาสนักศึกษาได้ถาม แต่ตอนนี้ดูจากท่าทางอย่างนี้ เจียงไป๋ล้มเลิกความคิดนี้แล้ว และสนใจการบรรยายของตนเองอยู่อย่างนี้ เขาไม่สนใจคนอื่นๆ ก็แค่สนใจแต่จะพูดในสิ่งที่ตนเองรู้และอยากจะพูดออกมา สำหรับเื่อื่นๆ ก็ไม่สนใจอะไรมากแล้ว
หลังจากที่เจียงไป๋สอนเสร็จ ก็ยังคงมีเสียงปรบมือที่ดังก้องอีก
ทุกคนล้วนคิดว่าเขาบรรยายได้ค่อนข้างดี เสียงปรบมือดังตามมาอย่างไม่หยุด และขอร้องให้เจียงไป๋สอนต่อ
แต่น่าเสียดายที่เจียงไป๋ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
แค่วันเดียวศาสตราจารย์เจียงที่มาใหม่ของคณะการเงินก็มีชื่อเสียงดังไปทั่วมหาวิทยาลัยเทียนตู
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้