ฮั่วเยี่ยนไหวดึงจิ้งจอกที่อยู่ตรงหน้าอกออก ดวงตาสีเข้มเป็ประกายเย็นเยียบของเขาสามารถ่ชิงจิติญญาของผู้คนได้ เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงความเยือกเย็นในเหมันตฤดู “ยังไม่รีบส่งเสื้อผ้ามาอีก หรือจะให้ข้าไปหยิบเอง”
อิ๋งเฟิงสะบัดเส้นผมเย็นเยียบ ก่อนรีบส่งอาภรณ์ไปให้
ฮั่วเยี่ยนไหวเป็โรครักความสะอาด แต่ไหนแต่ไรไม่เคยให้คนมาคอยรับใช้ข้างกายยามแต่งองค์ทรงเครื่อง การแต่งกายหวีผมล้วนทำเองทั้งหมด เขาแต่งตัวอย่างรวดเร็วและกำลังจะยกเท้าจากไป จู่ๆ เขาก็เหลือบมองจิ้งจอกน้อยที่ยืนตัวแข็งทื่อราวกับถูกสายฟ้าฟาดอยู่ข้างบ่อน้ำพุ ก่อนเอ่ยอย่างเฉยเมย “ยังไม่ตามมาอีก?”
อิ๋งเฟิงรุดเข้าใกล้ฮั่วเยี่ยนไหวทันที เขายิ้มตาหยี “ท่านอ๋อง ท่านคิดว่าจิ้งจอกตัวนี้หิว เลยอยากดื่มนมหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
ฉากเมื่อครู่นี้วนเวียนอยู่ในหัวของอิ๋งเฟิงอย่างไม่หยุดหย่อน จะลืมก็ลืมไม่ลง หากเปลี่ยนเป็ผู้อื่น ย่อมแสร้งทำเป็ตาบอด ไม่กล้าเอ่ยขึ้นมาอีกแน่ ทว่าอิ๋งเฟิงไม่เหมือนข้ารับใช้คนอื่นในจวน เขาเป็เด็กกำพร้า ถูกฮั่วเยี่ยนไหวเก็บมาเลี้ยงดูอยู่ข้างกายั้แ่เล็ก หากจะบอกว่าเขาเป็องครักษ์เงา ฮั่วเยี่ยนไหวกลับปฏิบัติต่อเขาเหมือนน้องชายแท้ๆ อย่างไรอย่างนั้น ดังนั้นเขาจึงกล้ากำเริบเสิบสานมากว่าผู้อื่นเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็เป็เพราะเขา จวนเซ่อเจิ้งอ๋องถึงได้มีชีวิตชีวาอย่างทุกวันนี้
คนที่กล้าถอนขนจากก้นพยัคฆ์ย่อมหมายถึงอิ๋งเฟิงนั่นเอง
“โอ๊ย!”
ไป๋เซี่ยเหอะโเตะท้องของอิ๋งเฟิงอย่างรุนแรง อิ๋งเฟิงไม่ทันได้ป้องกันตัว จึงแค่นเสียงออกมาคราหนึ่ง
ฮั่วเยี่ยนไหวหยุดฝีเท้า อุ้มก้อนจิ้งจอกน้อยที่ใช้แรงทั้งหมดไปกับการะโเตะจนร่วงลงบนพื้นไว้ในมือ จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉยชา “ท่าม้าหกชั่วยาม”
สีหน้าของอิ๋งเฟิงดูพะอืดพะอมขึ้นมาทันที เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขาเตือนด้วยความหวังดี ถึงอย่างไรท่านอ๋องก็ไม่เคยเลี้ยงสิ่งมีชีวิตมาก่อน สิ่งที่เคยเลี้ยงก็เรียกไม่ได้ว่ามีชีวิตอีก เมื่อเห็นจิ้งจอกน้อยน่ารักเช่นนี้ เขาจึงอดใจไม่ไหวจริงๆ เขาพึมพำเสียงเบา “ข้าไม่ได้อยากดื่มนมเสียหน่อย ทำไมถึงลงโทษข้าเล่า?”
“แปดชั่วยาม!”
.............................
ฮั่วเยี่ยนไหวเอนกายอยู่บนเก้าอี้ไม้หลีขนาดใหญ่ที่สลักลายดอกไม้และวางอยู่ภายในห้อง หมอนอิงเนื้อแพรต่วนปักลายดอกไม้ด้วยด้ายสีทองวางอยู่ด้านหลัง ในมือที่ข้อนิ้วเด่นชัดและขาวผ่องเกลี้ยงเกลาถือฎีกาเอาไว้ฉบับหนึ่ง เขาพลิกอ่านอย่างไม่อนาทรร้อนใจ
ส่วนจิ้งจอกน้อยนอนหมอบอย่างเงียบงันไร้สุ้มเสียงอยู่บนมุมหนึ่งของเก้าอี้ตัวเดียวกับฮั่วเยี่ยนไหว นางต้องคิดหาวิธีคืนร่างมนุษย์ นางจากจวนสกุลไป๋มานานเช่นนี้ ไม่ทราบว่าจะมีผู้ใดล่วงรู้หรือไม่ หากถูกใครพบเข้าว่านางลอบออกจากจวน ย่อมต้องเกิดละครฉากใหญ่อีกครา
“ท่านอ๋อง อาหารเย็นจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ให้ยกมาเลยหรือไม่เพคะ?” สาวใช้นางหนึ่งค้อมศีรษะเดินเข้ามา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแ่เบา ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
“อืม” ดวงตาของฮั่วเยี่ยนไหวไม่ได้ละจากฎีกาในมือ เขาเพียงตอบรับอย่างเฉยเมยเท่านั้น
ทันใดนั้นเหล่าสาวใช้ก็เดินขบวนเข้ามา พวกนางทุกคนถือถาดสีทองไว้ในมือ แม้ว่าถาดจะถูกครอบไว้ด้วยฝาสีเดียวกัน ทว่ากลิ่นหอมกลับลอยอบอวลเต็มห้องทันที
จิ้งจอกน้อยอดไม่ไหวจนต้องเงยหน้าสูดกลิ่น ั้แ่นางย้อนเวลามา นางยังไม่ได้กินข้าวแม้แต่เม็ดเดียว เกิดเื่ไม่น่าอภิรมย์ขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนจนนางลืมหิวไปจนสิ้น เมื่อได้กลิ่นหอมของอาหาร ท้องจึงเริ่มส่งเสียงประท้วงทันที
นางเห็นว่าถาดสีทองใบแล้วใบเล่าล้วนถูกนำมาวางบนโต๊ะตัวใหญ่ ข้างโต๊ะตัวใหญ่มีโต๊ะตัวเล็กที่ดูน่ารักเป็อย่างยิ่งตัวหนึ่ง คิดว่าคงเตรียมไว้ให้นางกระมัง
ไป๋เซี่ยเหอยืนตัวตรงอยู่บนเก้าอี้ของโต๊ะตัวเล็ก อุ้งเท้าขนปุกปุยทั้งสองข้างพาดอยู่ตรงขอบโต๊ะ
ในที่สุดถาดสีทองใบหนึ่งก็ถูกวางลงตรงหน้าของนาง เมื่อมีคนเปิดฝาครอบถาดออก กลิ่นคาวเข้มข้นก็ฉุนเข้าจมูก
ในถาดนั้นมีชามใส่นมแพะอยู่เต็มชาม!
ฮั่วเยี่ยนไหวก้มศีรษะลงแล้วปรายตามองจิ้งจอกน้อยที่ไม่ขยับเขยื้อนอยู่ข้างกาย เขามุ่นคิ้วเล็กน้อยก่อนเอ่ยอย่างเฉยเมย “ไม่ชอบหรือ? จวนของเราไม่มีจิ้งจอกตัวอื่นแล้ว”
เขาหมายความว่าในจวนนี้ไม่มีนมจิ้งจอก แต่นมแพะก็เป็นมเช่นเดียวกัน คงทดแทนกันได้กระมัง
นิ้วมือที่มีข้อนิ้วเด่นชัดคู่นั้นยกตะเกียบเงินขึ้นทันที
เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของฮั่วเยี่ยนไหว สาวใช้ก็รีบรุดเข้ามาเปิดฝาครอบออกอย่างรวดเร็ว กลิ่นหอมกรุ่นโชยออกมาโดยพลัน
ไก่ต้มสับ หัวปลาราดพริก ไข่ม้วนไส้เนื้อ...
ไป๋เซี่ยเหอมองตะเกียบเงินที่คีบไก่ต้มสับเข้าปาก ฟันของบุรุษผู้นี้บดเคี้ยวจนเกิดเสียง แต่สำหรับนมแพะกลิ่นเหม็นโฉ่ตรงหน้าชามนี้ ไม่ว่าอย่างไรนางก็กลืนไม่ลง
ทว่าอาการหดเกร็งในกระเพาะที่เกิดจากความหิวโหยนั้น ไร้หนทางที่จะเพิกเฉยอย่างแท้จริง
ยามตะเกียบเงินคีบไก่ต้มสับเป็ครั้งที่สอง เงาสีขาวสายหนึ่งพลันสว่างวาบ ในเวลาเพียงชั่วพริบตา เนื้อไก่ในตะเกียบนั้นได้เข้าไปอยู่ในปากของจิ้งจอกเสียแล้ว
สาวใช้ทั้งหลายล้วนใกับฉากตรงหน้าจนตัวสั่นงันงก หากวันนี้ใต้เท้าอิ๋งเฟิงอยู่ พวกนางคงไม่ต้องเข้ามารับใช้ท่านอ๋อง และไม่ต้องพบเจอกับฉากอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้
ท่านอ๋องมีนิสัยรักความสะอาด ในอดีตฮองเฮาเคยเลี้ยงนกขุนทองไว้ในวังตัวหนึ่ง ทว่ามันไม่มีตา กลับบินไปชนท่านอ๋องเข้า ท่านอ๋องมุ่นคิ้วเล็กน้อย จากนั้นมีรับสั่งโทษตาย ได้ยินว่าในวันนั้นท่านอ๋องแช่บ่อน้ำพุร้อนอยู่ครึ่งค่อนวันถึงจะออกมา
ทว่าจิ้งจอกน้อยตัวนี้ช่างหาญกล้าเกินไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะกล้าแย่งอาหารจากตะเกียบของท่านอ๋อง นั่นไม่เท่ากับว่าเป็การจูบทางอ้อมหรอกหรือ?
สาวใช้ทั้งหลายต่างนึกภาพลูกจิ้งจอกน่ารักตัวนี้ถูกห้าอาชาแยกร่าง
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ฮั่วเยี่ยนไหวรู้สึกประหลาดใจมาก เขาลืมเื่รักความสะอาดของตนเองไปเสียแล้ว จิ้งจอกน้อยที่หมอบอยู่แทบเท้าของเขากำลังถือเนื้อไก่ชิ้นใหญ่ประมาณครึ่งศีรษะของมันเอาไว้ในอุ้งเท้าเล็กๆ สองข้างที่มีขนปุกปุย ทั้งยังยื่นปากแหลมเล็กไปเป่าเนื้อไก่ให้หายร้อน ท่าทางที่ดูมีจิติญญาเช่นนี้ช่างเหมือนกับมนุษย์ยิ่งนัก
น่าสนใจ!
เมื่อเนื้อไก่ชิ้นหนึ่งลงท้องไปแล้ว ไป๋เซี่ยเหอก็เงยหน้ามองฮั่วเยี่ยนไหว ความเฉลียวฉลาดบริเวณหางตาและคิ้วเป็สิ่งที่ไม่อาจปกปิดได้แม้แต่น้อย ช่างดูเหมือนมนุษย์ยิ่งนัก
“อยากได้อีก!”
เมื่อได้ยินเสียงร้องของจิ้งจอกน้อย แววตาของฮั่วเยี่ยนไหวพลันฉายแววลึกล้ำ เขาเอ่ยกับสาวใช้โดยไม่ชายตามอง “ยกถาดอาหารมาให้มันเสีย”
“อะ อะไรนะเพคะ?” สาวใช้นึกว่าตนเองฟังผิดไป หากดูจากเื่ราวในอดีต ท่านอ๋องควรสังหารจิ้งจอกตัวนี้ไม่ใช่หรือ?
ฮั่วเยี่ยนไหวเหลือบมองสาวใช้ด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ คนอืดอาดยืดยาดเช่นนี้รับเข้ามาทำงานที่จวนของเขาได้อย่างไร? ไม่เฉลียวฉลาดเหมือนจิ้งจอกน้อยของเขาเลย
อันที่จริงสาวใช้ไม่ได้อืดอาดยืดยาด โรครักความสะอาดของเซ่อเจิ้งอ๋องล้วนเป็สิ่งที่ผู้คนรู้ดี เพราะฉะนั้นการที่ท่านอ๋องถูกเดรัจฉานน้อยตัวหนึ่งแย่งอาหารไปจากตะเกียบ ทว่าไม่เพียงแต่ไม่สังหารมันเท่านั้น กลับสั่งให้สาวใช้ยกถาดอาหารให้มันราวกับเป็การชมเชยเสียนี่ หากผู้อื่นที่ไม่ใช่สาวใช้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ย่อมไม่มีใครไม่ประหลาดใจ
“ขอประทานอภัยเพคะท่านอ๋อง บ่าวจะยกมาให้ประเดี๋ยวนี้”
.............................
หลังจากอิ่มหมีพีมัน
จิ้งจอกน้อยเงยหน้ามองไปทางบุรุษที่ยังคงเคี้ยวช้าๆ อย่างละเมียดละไมอยู่หน้าโต๊ะ ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏอยู่ตรงหน้าของนาง กรามอันสมบูรณ์แบบและวิจิตรงดงาม หนวดเคราถูกจัดการจนเกลี้ยงเกลา จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากบางที่กำลังเคี้ยวอาหารดูน่ามองและเย้ายวน ท่าทางการกินของเขานั้นพอดิบพอดี ดูสง่างามยิ่งกว่าสตรีเสียอีก ทว่าไม่ได้เผยความนุ่มนวลแม้แต่น้อย เขาออกรบเพื่อแคว้นมานานหลายปี ทว่าบนร่างกลับไร้ไอสังหารอันเข้มข้นที่ทำให้ผู้คนขยาด มีเพียงความสูงศักดิ์ที่ดูราวกับเหยียดหยามทุกสิ่งเท่านั้น
เขารักษาความสะอาดของตนเองเป็อย่างดี ไม่หลงใหลในตัวสตรี เรือนด้านหลังของจวนไม่มีสตรีแม้แต่คนเดียว จึงยิ่งทำให้บุตรสาวทุกตระกูลคลั่งไคล้ในตัวเขา หากหญิงสาวผู้ใดได้รับความโปรดปรานจากบุรุษผู้นี้ นั่นหมายความว่าหญิงสาวผู้นั้นจะได้รับความโปรดปรานแต่เพียงผู้เดียว และนั่นย่อมทำให้หญิงสาวคนอื่นๆ เกิดความอิจฉาริษยาจนแปรเปลี่ยนเป็ความเกลียดชัง
นับั้แ่ไป๋เซี่ยเหอได้ใช้เวลาอยู่กับเขา แม้ว่าคนผู้นี้จะดูเ็าไร้อารมณ์ ทว่าเป็คนที่จริงจังในด้านความรู้สึก เป็คนที่ไม่อาจทดแทนได้ ไม่รู้ว่าในอนาคตใครจะโชคดีได้ยืนเคียงข้างเขากันนะ
------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้