“ เฉินจือหลันหล่อนลุกขึ้นมาทำงานเดี๋ยวนี้นะ หากหล่อนมัวแต่ชักช้าอยู่อย่างนี้คนในบ้านจะกินอะไร ”
เสียงที่แม่เฒ่าหนิงะโเรียกเฉินจือหลันนั้นดังมาก ทำให้ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ที่อยู่ภายในบ้าน เมื่อได้ยินเสียงนี้ก็ต่างต้องใตื่นกันหมด
ส่วนคนที่ถูกเรียกอย่างเฉินจือหลัน เธอเองก็ตื่นขึ้นมาแล้วเหมือนกัน
“ แม่ครับโวยวายอะไรกันแต่เช้ามืดครับเนี่ย ”
ลูกชายคนโตเมื่อทนเสียงของผู้เป็แม่ไม่ไหวจึงเปิดประตูออกมาเอ่ยถาม
“ ก็จะอะไรซะอีกล่ะ เวลาป่านนี้แล้วสะใภ้สี่ หล่อนกลับไม่ลุกขึ้นมาทำงานสักที ฉันกลัวหล่อนจะทำงานไม่ทันเดี๋ยวจะไม่มีอะไรให้พวกแกกินก่อนออกไปทำงาน ”
แม่เฒ่าหนิงเอ่ยตอบลูกชายคนโตที่พึ่งเดินออกมาจากห้อง
“ ถ้างั้นแม่ก็เรียกเบาๆหน่อยเถอะครับ คนในบ้านต่างก็ต้องตื่นกันหมดเพราะเสียงของแม่เนี่ย ”
หนิงซานซึ่งเป็ลูกชายคนโตเอ่ยพูดกับแม่ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เพราะเขานอนหลับฝันอยู่ดีๆแต่ต้องมาตื่นั้แ่เช้ามืดเพราะเสียงของแม่
“ ได้ๆแกกลับไปนอนต่อเถอะเดี๋ยวแม่จะจัดการเอง ”
แม่เฒ่าหนิงเอ่ยตอบลูกชายแล้วก็หันไปมองที่ห้องของเฉินจือหลัน
ซึ่งก็พบว่าเฉินจือหลันยังไม่ออกมาจากห้อง และภายในห้องตอนนี้ก็เงียบสนิท
เฉินจือหลันที่อยู่ในห้องเองก็ได้ยินเสียงะโเรียกของแม่สามี และได้ยินบทสนทนาที่แม่สามีคุยกับพี่ชายคนโตของสามี แต่เธอกลับมีท่าทีนิ่งเฉยราวกับว่าคนที่ถูกเรียกนั้นไม่ใช่ตัวเธอ
แน่นอนอยู่แล้วเพราะว่าเฉินจือหลันที่อยู่ในร่างตอนนี้ ไม่ใช่เ้าของร่างเดิม เฉินจือหลันคิดว่าเ้าของร่างเดิมคงจะต้องเสียชีวิตไปแล้ว ถึงได้มีิญญาของเธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้แทน
เฉินจือหลันไม่รู้ว่ามีเหตุผลอะไรทำไมอยู่ดีๆเธอที่มีชีวิตดีๆในปีค.ศ 2024 ถึงได้ย้อนเวลากลับมาที่ปีค.ศ 1970 ่เวลาที่เธออยู่กับ่เวลานี้ห่างกันห้าสิบกว่าปี
เฉินจือหลันมาอยู่ในร่างนี้ได้ครบหนึ่งวันแล้ว เฉินจือหลันที่มาถึงตอนแรกเธอก็ทำอะไรไม่ถูก เพราะอยู่ดีๆก็ถูกแม่สามีลากออกไปทำงาน ทำเอาเฉินจือหลันที่เป็สาวโสดอยู่ดีๆก็มีแม่สามีเธอก็ใเป็อย่างมาก แต่เธอกลับไม่มีเวลาได้คิดอะไร เพราะต้องทำงานทั้งโดนตี ทั้งโดนด่า จนเฉินจือหลันรู้สึกสับสนกับชีวิตไปหมด
จนกระทั่งถึง่เวลากลางคืนเมื่อเธอได้กลับเข้ามาในห้องนอนของตนเอง เธอจึงมีเวลาได้คิดเื่ต่างๆนานาที่เกิดขึ้นกับตนเอง ซึ่งก็พบว่าเธอได้ย้อนเวลากลับมาอยู่ในร่างของคนอื่น ที่มีชื่อเดียวกันกับเธอแต่อยู่คนละ่เวลา
เฉินจือหลันที่มาอยู่ในร่างนี้ เธอได้รับความทรงจำจากเ้าของร่างเดิมทั้งหมด ทำให้เฉินจือหลันที่เป็คนจากปี 2024 ที่พบเจอความเท่าเทียมผู้หญิงมีสิทธิ์ไม่ต่างจากผู้ชาย
แต่ตอนนี้เธอกลับต้องมาอยู่ในยุคที่ผู้หญิงถูกกดขี่ เหตุผลที่เ้าของร่างเดิมเสียชีวิตเพราะเธอทำงานหนักจนเกินไป ส่วนคนที่ใช้งานเธออย่างหนักก็คือแม่สามีของเธอเอง
“ เฉินจือหลัน ฉันรู้นะว่าหล่อนได้ยินเสียงของฉัน นี่หล่อนคิดจะแข็งข้อกับฉันที่เป็แม่สามีของหล่อนหรือไง ”
แม่เฒ่าหนิงเมื่อเห็นว่าลูกสะใภ้ของตนไม่ออกมาสักทีจึงกลับมาเรียกอีกครั้ง
แม่เฒ่าหนิงรู้อยู่แล้วว่าเสียงตนดังขนาดนี้ลูกสะใภ้คนที่สี่ไม่มีทางไม่ได้ยินแน่นอน แต่กลับไม่ออกมาสักทียิ่งทำให้แม่เท่าหนิงรู้สึกโกรธ
“ แม่ๆ หม่ำๆ ”
ในขณะที่เฉินจือหลันกำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรกับแม่สามีข้างนอกดี เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเด็กน้อยก็ทำให้เฉินจือหลันต้องหันไปมอง ซึ่งก็พบว่าเป็ลูกสาวของเ้าของร่างเดิมซึ่งตอนนี้ก็เป็ลูกสาวของเธอแล้ว
“ เด็กดีของแม่หิวแล้วหรือจ๊ะ เดี๋ยวแม่จะหาอะไรให้หนูกินนะ”
เฉินจือหลันอุ้มลูกสาวที่รูปร่างผอมบางราวกับเด็กแรกเกิดขึ้นมา ส่วนลูกชายอีกคนก็ยังนอนหลับอยู่ แม้ว่าเสียงของผู้เป็ย่าข้างนอกจะดังแค่ไหนแต่เขาก็ยังหลับได้อย่างสบายใจ
เฉินจือหลันเธอรู้สึกโชคดีเป็อย่างมาก เพราะถึงแม้เธอจะย้อนเวลากลับมาในยุคที่ทุกอย่างถูกควบคุม และถูกจำกัด แต่เธอกลับมีมิติคลังสินค้าติดตามเธอมาด้วย
เฉินจือหลันเป็ผู้จัดการคลังสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เธอดูแลควบคุมเื่การกระจายสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ใครจะรู้ว่าคลังสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจะติดตามเธอมาที่นี่ด้วย
เมื่อตอนที่เธอได้รับรู้เื่มิติคลังสินค้า เฉินจือหลันก็รู้สึกใเป็อย่างมากและเธอได้ตรวจสอบทำความเข้าใจเกี่ยวกับมิติคลังสินค้านี้ทั้งหมด ทำให้เธอรู้ว่าของที่อยู่ในคลังสินค้าที่เธอดูแลอยู่ตอนทำงานตอนนี้รวมอยู่ในมิติของเธอทั้งหมดแล้ว
และมันยิ่งทำให้เฉินจือหลันรู้สึกดีใจเป็อย่างมาก เพราะของที่มีอยู่ในคลังสินค้าที่เธอดูแลนั้นมันช่างมหาศาลเสียเหลือเกิน มันมหาศาลจนเฉินจือหลันไม่รู้ว่าชาตินี้เธอจะใช้หมดไหม
แต่แน่นอนอยู่แล้วเฉินจือหลันก็ไม่ได้คิดจะใช้มันคนเดียว เพราะหากเธอนำมันออกไปขายคงจะทำเงินให้เธอได้มหาศาล เพียงแค่คิดถึงเงินมหาศาลนั้นก็ทำให้ความเศร้าที่เฉินจือหลันมีอยู่หายไปทันที และเปลี่ยนเป็ความดีใจแทน
“ มามะเรามากินนมกันนะเด็กดี ”
เฉินจือหลันเอานมกล่องสำหรับเด็กสองขวบที่มีอยู่ในมิติเอามาใส่ขวดนมและก็ให้ลูกสาวกิน
เมื่อได้ลองใช้มิติคลังสินค้าดูแล้วก็พบว่ามันใช้ง่ายมากๆ เพียงแค่เฉินจือหลันคิดว่า้าอะไร หากของสิ่งนั้นมีอยู่ในคลังสินค้า เธอก็สามารถรับรู้ได้เลยว่ามีอะไรบ้างและสามารถเลือกสิ่งของที่ตนเอง้าได้ แต่ของสิ่งนั้นเมื่อเอาออกมาใช้แล้วของสิ่งนั้นก็จะหายไปทันที
แต่เฉินจือหลันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะแค่นี้มันก็วิเศษมากพอแล้ว เพราะนมที่เฉินจือหลันเอาออกมาให้ลูกสาวกินนี้ ก็มีจำนวนหลายแสนกล่องอยู่ด้วยกัน ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าลูกสาวกับลูกชายของเธอไม่สามารถกินนมได้เป็แสนกล่องขนาดนั้น
“ อร่อยไหมจ๊ะ ต่อไปนี้แม่คนนี้จะเลี้ยงหนูทั้งสองให้อ้วนท้วนเอง ”
เฉินจือหลันเผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมา เป็รอยยิ้มที่หากใครมาเห็นแล้วก็คงรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นและความรักที่แม่มีให้ต่อลูก เฉินจือหลันไม่รู้เลยว่าการกระทำและความรู้สึกของตนเองนั้นเปลี่ยนไปมากแค่ไหน
เพราะแต่ก่อนเธอไม่มีทางจะมาสนใจเด็กแบบนี้แน่นอน ถึงแม้เธอจะอายุสามสิบกว่าปีแล้ว แต่เธอกลับยังไม่มีแฟนเพราะเธอกลัวการมีลูกเป็อย่างมาก ถึงแม้จะมีเพื่อนๆและครอบครัวพยายามจับคู่ให้เธอแต่เธอก็ไม่สนใจ เพราะเฉินจือหลันเห็นเพื่อนๆในกลุ่มหลายคนมีลูกแล้วชีวิตกับวุ่นวายทำให้เฉินจือหลันรู้สึกกลัวการมีลูก แต่เมื่อได้มาอยู่ในร่างนี้เธอกลับได้ลูกฝาแฝดชายหญิงมาถึงสองคน
แต่ตอนนี้เฉินจือหลันกับรู้สึกดีเป็อย่างมากที่มีเด็กทั้งสองอยู่ข้างๆ เมื่อมีเด็กทั้งสองแล้วเธอก็พร้อมที่จะสู้และเดินหน้าต่อไป หากมีเธอแค่คนเดียวเธอก็คงรู้สึกเบื่อมากๆ
“ เฉินจือหลันหล่อนออกมาเดี๋ยวนี้นะ ปัง ปัง ปัง ”
คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงะโด่าแต่ถึงขั้นทุบประตูเลย
แต่เฉินจือหลันที่กำลังป้อนนมให้ลูกสาวอยู่กับไม่มีท่าทีสนใจแม่สามีเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์ตรงนี้ เธอไม่อยากจะรับใช้ครอบครัวนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะเ้าของร่างเดิมทำมามากพอแล้ว เธอต้องรับใช้คนในบ้านนี้ด้วยชีวิตเท่านี้ก็พอแล้วเพราะต่อจากนี้ เฉินจือหลันคนนี้จะไม่ยอมอีกต่อไป
เมื่อป้อนนมลูกสาวจนอิ่มแล้ว เฉินจือหลันก็วางตัวหนูน้อยหนิงอันไว้ข้างๆพี่ชาย เฉินจือหลันเอามือไปเขี่ยที่จมูกของลูกชายเห็นแล้วก็รู้สึกเอ็นดู เสียงดังขนาดนี้แต่กลับยังนอนหลับได้ช่างเป็เด็กชายที่เ็าจริงๆ
“ แม่ครับพอได้แล้วเดี๋ยวประตูก็พังเอานะครับ หากเป็แบบนั้นก็ต้องเสียเวลาซ่อมอีกเดี๋ยวน้องสะใภ้หล่อนก็คงออกมาเองแหละครับ ”
ครั้งนี้เป็ลูกชายคนรองของบ้านที่ทนเสียงของผู้เป็แม่ไม่ไหว ทั้งเสียงด่าทอทั้งเสียงทุบประตู เมื่อคิดว่าอีกไม่นานก็คงต้องออกไปทำงานแล้ว ก็เลยลุกออกมาจากห้องมันเสียเลย ออกมาก็เห็นแม่ของตนเองยืนทุบประตูห้องน้องสะใภ้สี่อยู่
“ ก็แกดูหล่อนสิ ฉันเรียกให้หล่อนออกมาทำงาน แต่หล่อนกลับไม่ออกมาสักทีเดี๋ยวพวกแกก็ไม่มีอะไรกินตอนเช้าก่อนออกไปทำงานหรอก ”
“ ถ้าในเมื่อน้องสะใภ้สี่ไม่ออกมาทำ แม่ก็ทำเองสิครับถ้ากลัวว่าพวกเราจะไม่มีอะไรกินก่อนออกไปทำงาน ”
แม่เฒ่าหนิงเมื่อได้ยินลูกชายพูดแบบนั้น ก็หันไปมองลูกชายคนรองของตนเองราวกับมองคนบ้า
“ นี่เ้ารองแกยังใช่ลูกของฉันอยู่ไหม แกคิดได้ยังไงถึงบอกให้แม่ตนเองไปทำงานแทนหล่อน ”
เฉินจือหลันที่อยู่ในห้องเธอได้ฟังบทสนทนาของพี่ชายคนรองกับแม่สามีก็รู้สึกขำ พี่ชายคนรองของสามีเธอค่อนข้างเป็คนซื่อๆ และก็เป็คนที่ค่อนข้างนิสัยดีต่างจากคนในบ้านที่ใช้งานเธออย่างหนัก และพี่ชายคนรองคนนี้บางครั้งก็เคยช่วยงานเธออยู่บ้าง
แต่พี่สะใภ้คนรองของเธอนิสัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่เห็นแก่ตัว และเป็คนพูดมาก ช่างไม่เข้ากับพี่ชายคนรองที่มีนิสัยซื่อๆ
“ อะไรกันแม่สามีคนนี้ ”
เฉินจือหลันไม่เข้าใจจริงๆแม่สามีของเธอก็แปลก แสดงออกอย่างชัดเจนว่ารักลูกชายคนที่สี่ของตนเองมาก ซึ่งก็คือสามีของเธอแต่กลับปฏิบัติต่อลูกสะใภ้คนที่สี่อย่างเธอ และลูกๆของเขาอย่างโหดร้าย ทั้งใช้งานอย่างหนักและก็ไม่ให้เด็กๆทั้งสอนกินข้าว ทำให้พวกเขาที่มีอายุ สองขวบแล้วแต่มีร่างกายผอมบางไม่ต่างจากเด็กหนึ่งขวบของบ้านอื่น
ถึงแม้จะบอกว่ายุคนี้เป็ยุคอดอยาก อาหารล้วนแล้วแต่ขาดแคลน แต่เด็กๆสองคนที่ตัวเล็กแค่นี้จะกินได้มากแค่ไหนกันเชียว แต่แม่สามีของเธอแม้แต่ข้าวก็ยังไม่ให้พวกเขากินรวมไปถึงเ้าของร่างเดิมด้วย แต่หากจะมาทำแบบนี้กับเฉินจือหลันแน่นอนอยู่แล้วว่าเธอคงไม่ยอม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้