“ฟู่อิน…” ขณะนั้นเอง สตรีวัยสามสิบกว่าในชุดสีน้ำเงินรีบร้อนวิ่งเข้ามาเรียก
“ป้าสอง?” ทันทีที่เห็นอีกฝ่าย หลินฟู่อินก็กล่าวทันที “คงต้องขอรบกวนท่านป้าดูแลน้องๆ ให้ข้าด้วยนะเ้าคะ แล้วข้าจะรีบกลับมา”
เฟิงซื่อแสบจมูกขึ้นมา เด็กคนนี้จะยังกลับมาได้อีกหรือ?
“เด็กดี ไปเถอะ น้องๆ เ้าข้าจะดูแลให้ ไว้พ่อเ้ากลับมาจะส่งคืนให้พ่อเ้าเอง…”
“ขอบคุณท่านป้าสองมากเ้าค่ะ” หลินฟู่อินหันไปกล่าวขอบคุณอย่างรวดเร็ว
“ไปเถอะ” เฟิงซื่อทนมองต่อไปไม่ไหว รีบร้อนวิ่งเข้าห้องไป
ในใจหลินฟู่อินทราบดีว่ายามนี้ใกล้ถึงเหตุความเป็ตายแล้ว สมองหมุนเร็วจี๋ ครั้งนี้นางจะเอาตัวรอดก่อนหนีโทษตายอย่างไรดี?
ท่านพ่อยังไม่กลับมา คนที่ออกไปตามหาก็กล่าวว่าไม่เจอร่องรอย ในใจนางรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีเอาเสียเลย…
ไม่ว่าจะใจเย็นแค่ไหน แต่ครั้งนี้นางก็โกรธขึ้นมาแล้วจริงๆ
ชาวบ้านไม่รู้ความพวกนี้เห็นนางเป็ดาวหายนะเพราะนางเกิดในคืนฝนดาวตก นี่มันเื่ไร้สาระอะไรกัน?
“จับนางไปมัดฟืน” หลี่เจิ้งยกมือขึ้น
“ข้าขอถามท่านเ้าหน้าที่หลี่ เหตุใดจึงต้องเผาข้าทั้งเป็ด้วย? เพียงเพราะคืนที่ข้าเกิดมีฝนดาวตกก็เชื่อนักทำนายหลี่ เห็นว่าข้าเป็ดาวหายนะแล้วหรือ? เช่นนั้นทุกคนที่เกิดในคืนนั้นก็เป็ดาวหายนะกันหมดหรืออย่างไร?” หลินฟู่อินสูดลมหายใจเข้า พยายามรักษาน้ำเสียงให้สงบที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลี่เจิ้งหันหน้าไปอีกทาง ไม่กล้าแม้แต่จะมองนาง เพียงกล่าว “คนอื่นที่เกิดในคืนนั้นข้าไม่ทราบ แต่กับเ้าที่สังหารมารดาแล้วยังใช้กรรไกรผ่าท้อง เช่นนี้ก็นับเป็ความสามารถของปีศาจร้ายแล้ว เ้าทำอะไรลงไปเล่า! ไม่ทันไรปู่ย่าเ้ายังนอนป่วยติดเตียง ญาติๆ เ้าล้วนล้มป่วย เ้าจะว่าอย่างไร?”
“ใช่แล้ว จะว่าเ้าไม่ใช่ดาวหายนะได้อย่างไร? กระทั่งพวกข้าก็ยังโดนเ้าทำร้ายไปด้วย โชคดีที่ข้ามิได้โชคร้ายเช่นปู่ย่าเ้าเพราะมิได้ร่วมสายเืกับเ้า” สีหน้าจ้าวซื่อดูมืดครึ้มชั่วร้ายยิ่งนัก
หลินฟู่อินเองก็มีชีวิตมานานพอสมควร แต่ไม่เคยเห็นใครที่จิตใจชั่วร้ายเช่นนี้มาก่อน
หัวใจของสตรีผู้นี้ดำมืด เพียงเพื่อทรัพย์สมบัติบ้านสามก็ไม่ลังเลจะหาหนทางสังหารนาง
เด็กหญิงก้มหน้าลง ในดวงตาเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธทว่ากลับไร้หนทาง นางจะต้องพูดอย่างไร ชาวบ้านงมงายเหล่านี้ถึงจะยอมเชื่อเล่า?
“หลี่เจิ้ง ไม่ต้องพูดไร้สาระกับนางแล้ว นักทำนายจ้าวบอกเวลาที่ควรเผาดาวหายนะมาแล้ว อย่าได้พลาดฤกษ์เด็ดขาด” จ้าวซื่อะโบอกหลี่เจิ้ง
หลี่เจิ้งเกรงว่าหากชักช้าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนจึงได้ยกมือขึ้นสั่งการบุรุษสองคนที่ถือคบเพลิงอยู่คนละด้านของท่อนฟืน “จุดไฟได้!”
หลินฟู่อินมิคาดอีกฝ่ายจะไม่พูดจากับนางแม้แต่น้อย ซ้ำยังมีการดูฤกษ์ยามก่อนเผานางอีก น่าตลกสิ้นดี!
แต่ตอนนี้นางกลับหัวเราะไม่ออกสักนิด
เมื่อไม้แห้งถูกเผา ไฟก็จุดติดอย่างรวดเร็ว ความร้อนพวยพุ่งขึ้นมา
เท้าและขาของหลินฟู่อินรู้สึกร้อนลวกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว”
“หลี่เจิ้ง ข้าบอกไปแล้ว หากเ้าเผาข้าจริง พ่อข้าไม่ยอมปล่อยเ้าไปแน่!”
หลินฟู่อินยังหวังว่าชื่อบิดาจะช่วยให้คนพวกนี้หวาดกลัวได้บ้าง แต่นางกลับต้องผิดหวัง
“เพื่อความปลอดภัยของหมู่บ้านหูลู่และหมู่บ้านโดยรอบ พ่อเ้าต้องเข้าใจแน่!” หลี่เจิ้งส่ายหัว หันหน้าหนีไปอีกทางหนึ่ง
เมื่อตัดสินใจจะเผาปีศาจแล้ว เขาย่อมคิดวิธีรับมือหลินสามไว้ล่วงหน้า
อีกประการ ตามหาหลินสามมาหลายวันแต่ยังไม่เจอตัว ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น? หากเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าจะตายหรือพิการ หลี่เจิ้งที่คิดถึงชาวบ้านอยู่เสมอย่อมไม่มีทางผิด
หลินฟู่อินมองเ้าหน้าที่หลี่ด้วยสายตามุ่งมั่น ก่อนความสิ้นหวังและรอยยิ้มขมขื่นจะปรากฏขึ้น
นึกว่าหายนะจะจบแล้ว แต่กลับหนีไม่พ้น
ดูเหมือนชีวิตใหม่ของนางคงจบลงแค่นี้แล้ว ชวนให้รู้สึกสงสารน้องๆที่เพิ่งคลอดของนางเหลือเกิน หวังก็แต่ท่านพ่อหลินจะรีบกลับมาโดยไว เลี้ยงน้องๆ ทั้งสองให้ดี ไม่อย่างนั้นเด็กทั้งสองคงไม่รอดจากบ้านหลังนั้นแน่…
ไฟแรงขึ้นทุกที เปลวไฟลามมาถึงเท้าแล้ว ทั้งรองเท้าและชายเสื้อใกล้จะลุกไหม้ ควันไฟหนักๆ ทำให้นางสำลักไม่หยุด
ความร้อนแผดเผาทำให้นางกัดฟันแน่น ไม่ยินยอมส่งเสียงกรีดร้องเ็ปออกมา
หลินฟู่อินหลับตารอคอยความตายที่ใกล้เข้ามา ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมา
ในยามที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็ถูกบุรุษหน้าตาหล่อเอาในชุดขี่ม้าสีดำดึงคอเสื้อเอาไว้
“แค่กๆ…” เด็กหญิงไอหนักหน่วง คอแทบไม่มีเสียง น่าจะเพราะสูดควันไฟเข้าไปมากเกินไป
ซ่า!!!
เสียงสาดน้ำดับไฟดังตามมา…
ก่อนหลินฟู่อินจะทันตั้งตัว ตัวนางก็เย็นวาบ ถูกบุรุษลึกลับจับโยนลงแม่น้ำโดยไม่รู้ตัว
นางว่ายน้ำไม่เก่งจึงเผลอกลืนน้ำไปหลายอึก นึกอยากะโขอความช่วยเหลือทว่าก็สงบลง ตัดสินใจดำน้ำลงไปดูสภาพขาของตนเองก่อน
เมื่อเห็นว่าน้ำไม่ลึก ใจก็โล่งขึ้นมา
ที่ขานางมีรอยไฟลวกเล็กน้อย ทว่ายังคงยืนได้มั่นคง
ดวงตาหงส์คู่นั้นกลับมามั่นคงอีกครั้ง คราวนี้จ้องมองไปยังชาวบ้านที่อยู่บนฝั่งด้วยสายตาเฉยเมย
ในนั้นแผดเผาด้วยความโกรธเกรี้ยว
มีเพียงความโกรธ ทว่าไร้ความเกลียดชัง
อาจเพราะยังมีความสังเวชอยู่มาก
บุรุษบนฝั่งยกมือกอดอก ดวงตาคู่นั้นเ็าดุจน้ำแข็งหมื่นปี จ้องมองนางโดยไม่มีความลังเล
เด็กชาวบ้านคนนี้อายุยังไม่มาก แม้จะถูกจับเผา แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์น่าสังเวช เผชิญเื่ราวถึงเพียงนี้ ทว่าในสายตากลับยังคงไร้ความเกลียดชัง ทำให้รู้สึกไม่ค่อยปกตินัก
หลินฟู่อินคนนี้ได้รับการศึกษามาดี ส่วนชาวบ้านเหล่านี้จะรู้เื่อะไรกันล่ะ? คนพวกนี้ก็แค่หวาดกลัวเพราะไม่มีความรู้เท่านั้น
คนที่นางเกลียดจริงๆ ก็ต้องเป็คนที่อยู่เื้ัเื่พวกนี้อยู่แล้ว จะเป็จ้าวซื่อ หรือกระทั่งนักทำนายจ้าวคนนั้นกันแน่?
แล้วใครอยู่เื้ันักทำนายจ้าวกัน?
หวงฝู่จินไม่เคยเจอเด็กแบบนี้มาก่อน เขาเร่งร้อนเข้ามาช่วยแต่ตอนนั้นไฟก็ลามมาถึงขาของนางแล้ว ทว่าเด็กหญิงกลับไม่ส่งเสียงร้อนสักแอะ ทั้งยังไม่ได้ยินเสียงนางะโขอความช่วยเหลือ ในดวงตามีแต่ความโกรธทว่าไร้ความเกลียด
หากมิใช่ได้ยินเสียงนางสำลักควัน เขาคงคิดว่านางตายไปแล้ว
หวงฝู่จินไม่แม้แต่จะคิด ในตอนนั้นก็ชักดาบออกมาจากฝักทันที
เขาช่วยนางไว้ ยังเป็การช่วยเหลือเืเนื้อเชื้อไขสิ่งมีค่าแห่งอาณาจักรเป่ยหรงอีกประการหนึ่ง
เมื่อเห็นนางลุกขึ้นยืนด้วยความสงบ ดวงตายามนี้ลึกซึ้ง เว้นเสียแต่ความโกรธที่มีมาแต่ต้น ยามนี้กลับดูราวกับบ่อน้ำเก่าแก่ไร้ก้นบึ้ง
เขาจึงเชื่อว่าวันนี้เขาคงทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้