เสียงนี้กลายเป็คลื่นเสียงลูกั์ราวกับมีพลังมหาศาล ก่อนจะอาละวาดไปทั่วฟ้าดิน
ภายใต้คลื่นเสียงนี้ โจวมู่ไป๋อดตัวสั่นสะท้านหนักกว่าเดิมไม่ได้ ในใจเกิดความหวาดผวา ซึ่งความหวาดผวานั่นมาจากก้นบึ้งจิติญญามิอาจต่อต้านได้
โจวมู๋ไป๋เดินออกจากเวทีประลอง เขารู้ว่าในเวทีประลองนี้ที่เขาถูกกดการบ่มเพาะนั่นไม่ใช่คู่ปรับของเย่เฟิง ความบาดหมางของทั้งสองจะยุติลงได้ก็ต่อเมื่อเข้าสำนักยุทธ์
นาทีนี้ทุกคนต่างตะลึงงัน พวกเขาใกับความร้ายกาจของเย่เฟิง
แววตาของหนานกงหลิงซวงทอประกายคมกริบ ก่อนจะมองไปที่เย่เฟิงด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง
“เ้าโอหังมาก เ้าเอาชนะเขาได้ แล้วอย่างไรเล่า เ้าถูกลิขิตมาให้เป็หินรองเท้าของข้าแล้ว”
เสียงของหนานกงหลิงซวงเย็นะเื พร้อมมีไอเย็นแผ่ออกจากร่าง นางจะใช้พลังที่แกร่งที่สุดเอาชนะเย่เฟิง ทำให้ทุกคนรู้ว่าใครกันแน่คืออัจฉริยะที่เจิดจรัสที่สุดในเวทีประลองแห่งนี้
ทุกคนต่างจ้องไปที่เวทีประลองอย่างไม่ละสายตา พวกเขา้ารู้ว่าเย่เฟิงจะตอบหนานกงหลิงซวงอย่างไร
เย่เฟิงมองหนานกงหลิงซวง กล่าวว่า “เ้าอยากสู้อย่างไร?”
เสียงนี้ฟังแล้วดูเฉยชาราวกับเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจอันแรงกล้า
ผู้คนใจสั่นระรัว คำพูดของเย่เฟิงเป็การตอบหนานกงหลิงซวงอย่างไม่ต้องสงสัย
หนานกงหลิงซวงกะพริบตาปริบ ๆ ใบหน้าแฝงด้วยความโอหัง กล่าวว่า “เ้าใคร่ครวญดี ๆ แม้พลังโจมตีของเ้าจะแกร่ง แต่ข้าคือผู้ปลุกิญญาาหงส์ขั้นเขียว หากสู้กันจริง ๆ ิญญาาของข้าบดขยี้เ้าแหลกแน่”
เย่เฟิงเผยสีหน้าเย้ยหยัน จากนั้นหัวเราะกล่าวว่า “ิญญาาหงส์ขั้นเขียว ข้าเองก็อยากสั่งสอนสักบทเรียน”
แววตาของหนานกงหลิงซวงเผยประกายคมปลาบ นางถูกการบ่มเพาะให้อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 5 เทียบเท่ากับเย่เฟิง ในขณะนั้นก็ได้ยินเสียงของเย่เฟิงดังขึ้นอีกครั้ง
“สู้ แต่ไม่ต้องกดการบ่มเพาะ หากเ้าเอาชนะข้าไม่ได้ ก็เลิกอวดชื่ออัจฉริยะของเ้าต่อหน้าคนอื่น”
“อะไรนะ?” คำพูดของเย่เฟิงทำให้ผู้คนประหลาดใจ
“ชายผู้นี้ไม่เพียงแต่ตอบรับคำท้าของหนานกงหลิงซวง แต่ยังบอกอีกฝ่ายว่าไม่ต้องกดการบ่มเพาะ นี่มันไม่เหิมเกริมไปหน่อยหรือ?”
“หนานกงหลิงซวงคือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 ตอนนี้นางยังปลุกิญญาาหงส์ขั้นเขียวได้ พลังเหมือนเสือติดปีก แล้วชายผู้นี้จะต่อสู้ได้อย่างไรกัน?”
“การบ่มเพาะของชายผู้นี้อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 5 หนานกงหลิงซวงสู้กับอีกฝ่ายสุดกำลัง เกรงว่าจะฆ่าอีกฝ่ายได้ในพริบตาเดียว” เสียงกระซิบกระซาบของผู้คนดังขึ้น ไม่เข้าใจว่าเย่เฟิงไปเอาความมั่นใจมาจากไหน
ด้านตระกูลเฉิน สายตาของเฉินอ้าวเทียนเผยประกายคมกริบ เย่เฟิงยั่วยุว่าที่ภรรยาของเขาเช่นนี้ มันก็เท่ากับยั่วยุตระกูลเฉินเขา
เฉินเซี่ยงเทียนแสยะยิ้ม คิดว่าเย่เฟิงไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เขาจะดูฉากเด็ดให้เต็ม ๆ ตา
“เป็ดขี้เหร่จะเข้าใจเจตจำนงแห่งหงส์ได้เยี่ยงไร?” หนานกงเฉินกล่าว ในสายเขา บุตรสาวของเขาคือหงส์ เย่เฟิงก็เป็ได้เพียงเป็ดขี้เหร่ มิอาจเทียบเคียงได้
“วาจาโอหัง! ในเมื่อเ้าพูดเช่นนี้ งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”
หนานกงหลิงซวงเผยสีหน้าหยิ่งผยอง ให้นางสำแดงพลังทั้งหมดเข้าต่อสู้กับอีกฝ่าย นางเชื่อว่ากำราบอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย และจะขจัดความอัปยศออกไป
จากนั้นหนานกงหลิงซวงปลดปล่อยพลังหงส์ ก่อนเงาหงส์จะปรากฏที่ด้านหลังนาง พลังหงส์ถูกปล่อยอย่างไร้ที่สิ้นสุด เพลิงนิพพานก็ทำอุณหภูมิสูงไม่หยุดราวกับแผดเผาทุกอย่าง
“ข้าบอกแล้วไง เ้าจะต้องเสียใจกับการกระทำในวันนี้ ตอนนี้ข้าจะทำให้เ้าได้เห็นว่าอะไรคืออัจฉริยะที่แท้จริง” หนานกงหลิงซวงกล่าว เพลิงนิพพานรายล้อมกาย พลังของขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 ถูกปลดปล่อยประหนึ่งเทพธิดาหงส์ที่แท้จริงก็ไม่ปาน
“เ้าพูดมากเสียจริง!” เย่เฟิงแสยะยิ้ม จากนั้นพลังปะทุออกจากร่าง พร้อมร่างเรืองรองด้วยแสงประหนึ่งรังสีหอกไร้ที่สิ้นสุด เจิดจรัสอย่างงดงาม
“เ้าเด็กนี่บ้าไปแล้วหรือ!” เยว่กู่บนอัฒจันทร์พึมพำกับตัวเอง เขาต้องใกับการกระทำของเย่เฟิง
จากนั้นเย่เฟิงปล่อยหมัดออกไป เจตจำนงหอกไหลเวียนบนแขน ตอนนี้หมัดของเขาไม่ต่างจากหอกเล่มหนึ่ง สามารถทะลวงได้ทุกอย่าง
“เ้าคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะมีประโยชน์งั้นหรือ?”
สายตาของหนานกงหลิงซวงส่องประกายเย่อหยิ่ง จากนั้นปล่อยพลังหมัดออกไป เพลิงนิพพานถูกปล่อย อุณหภูมิพลันสูงขึ้น
“ปัง!!!” เสียงดังสนั่นหวั่นไหว หมัดเข้าปะทะกัน ก่อนพลังทำลายล้างจะอาละวาด
หนานกงหลิงซวงมีิญญาาหงส์ขั้นเขียวที่ทรงพลัง ทั้งยังมีพลังหยวนอุดมสมบูรณ์ของขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 การปะทะกันครั้งแรกก็ทำเย่เฟิงถอยหลังไปหลายก้าว
“มีพลังแค่นี้เองหรือ?” หนานกงหลิงซวงกล่าว เพลิงนิพพานคำราม หงส์กู่ร้อง ก่อนจะปล่อยหมัดออกไปอีกครั้ง
เย่เฟิงยกมือขึ้นป้องการโจมตี แต่ด้วยความห่างชั้นของการบ่มเพาะทั้งสองฝ่าย เย่เฟิงจึงเป็ฝ่ายเสียเปรียบ และถูกหนานกงหลินซวงบีบบังคับให้ถอยหลังไปหลายก้าว
ฉากนี้ทำให้ผู้คนบนอัฒจันทร์ตะลึงงัน พลังที่หนานกงหลิงซวงปลดปล่อยร้ายกาจอย่างที่คิดไว้ ไม่ใช่คนอย่างเย่เฟิงที่อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 5 จะเทียบด้วยได้ หากเป็เช่นนี้ต่อไป เย่เฟิงจะพ่ายแพ้ในเร็ว ๆ นี้
“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!” หนานกงเฉินแสยะยิ้มก่อนกล่าวเย้ยหยันเช่นนั้น ในดวงตาเต็มไปด้วยความดูถูก เย่เฟิงเป็คนไร้ชื่อเสียง จะมาเทียบกับบุตรสาวของเขาได้อย่างไร?
“หงส์คำรามเก้าชั้นฟ้า!” หนานกงหลิงซวงแผดเสียงะโ ิญญาาหงส์ขั้นเขียวส่องแสงห้าสีเป็ประกาย เพลิงนิพพานราวกับผสานกับแสงห้าสีนั่น แล้วกลายเป็เปลวไฟอันทรงพลัง มันไหลขึ้นตามแขนของนาง ทำให้พลังหมัดของนางที่ปล่อยไปยกขึ้นอีกระดับ
“วี้ด!” หงส์กู่ร้อง เพลิงนิพพานห้าสีปะทุแผ่ปกคลุมท้องฟ้า ก่อนจะกระหน่ำโจมตีเย่เฟิง
“พลังโจมตีของเ้าไม่เลว แต่ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่ง ิญญาาไม่มีระดับสูง เ้าก็อยู่คนละชั้นกับข้าแล้ว” หนานกงหลิงซวงกล่าว นางมีิญญาาหงส์ขั้นเขียว พลังย่อมแกร่งกว่าผู้อยู่ในระดับเดียวกันไม่น้อย ดังนั้นนางจึงมีสิทธิ์อวดดี
อย่างไรก็ตามนางดูเหมือนลืมบางเื่ เริ่มแรกหากไม่มีหลิงหยวนดั้งเดิมของเย่เฟิงสนับสนุน ก็คงปลุกิญญาาระดับสูงไม่ได้ และอาจกลายเป็เศษสวะ
เพลิงนิพพานห้าสีเข้าปกคลุมร่างเย่เฟิงในพริบตา ้าแผดเผาให้มอดไหม้
เย่เฟิงแสยะยิ้ม เขาไม่รู้ว่าหลังจากหนานกงหลิงซวงปลุกิญญาาหงส์ขั้นเขียว ทำไมถึงเปลี่ยนไปเป็คนละคน หิวกระหายแสง ลืมบุญคุณ ทำตัวโอหังไม่เห็นหัวใคร
หอกัเงินประกายปรากฏในมือ เคล็ดวิชาหอกเงินประกายโคจรเอง พลันเจตจำนงหอกแปรเปลี่ยนเป็รังสีหอกก่อนเข้ารายล้อมกาย
“ชิ้ง ตุ้บ!” รังสีหอกและเปลวไฟเข้าปะทะกัน ทำให้เกิดคลื่นกระแทกที่น่ากลัว
“หอกดุจั!” เย่เฟิงแผดเสียงะโก่อนมีเสียงัคำราม หอกกลายเป็ัั์พุ่งปะทะกับหมัดหงส์ที่หนานกงหลิงซวงปล่อยออกมา
เสียงะเิดังกังวานทั่วฟ้าดินะเืไปถึงแก้วหูของทุกคน พลังทำลายล้างถูกปลดปล่อยอย่างบ้าคลั่ง ทั้งสองต่างถอยกันไปคนละก้าว การโจมตีนี้ช่างสูสีนัก!
หัวใจของเหล่าผู้คนต้องพลอยเต้นโครมครามไปด้วย เหมือนไม่คิดว่าการโจมตีนี้ของเย่เฟิงจะมีพลังขนาดนี้
“หอกัเงินประกาย! ชายคนนี้คือใครกัน?”
บนอัฒจันทร์ รูม่านตาของหนานกงเฉินม่านหดแคบ หัวใจบีบรัด หอกัเงินประกายอยู่ที่ตระกูลหนานกงนานหลายปี เขาจะไม่รู้จักได้เยี่ยงไร
หนานกงหลิงซวงเผยสีหน้าบูดเบี้ยวเล็กน้อย จ้องเย่เฟิงเขม็ง นางทุ่มสุดกำลังแต่ไม่คิดว่าจะถูกซัดกลับเสียได้
“ิญญาาหงส์ แกร่งมากงั้นหรือ?” เย่เฟิงมองหนานกงหลิงซวงด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น หน้ากากสีเงินก็มิอาจปกปิดแสงคมกริบที่ส่องประกายในดวงตาเขาได้
เมื่อกล่าวจบ เงาัั์ปลดปล่อยความเกรงขามไร้ที่สิ้นสุด ลอยตระหง่านที่ด้านหลังเย่เฟิง แสงศักดิ์สิทธิ์รายล้อมกายดูเจิดจรัสเป็อย่างมาก
เพียงเวลาสั้น ๆ พลังักวาดไปทั่วฟ้าดิน จากนั้นมีแรงกดดันมาเยือนจากฟากฟ้า ทำให้บรรยากาศยิ่งตึงเครียด
“นี่คือ... ิญญาาเทพั!” ทุกคนต่างเบิกตาโพลงด้วยความใ เผยสีหน้าเหลือเชื่อ นาทีนี้ทั่วลานประลองราวกับถูกปกคลุมด้วยแสงแห่งเทพั
พวกเขาดูเหมือนหลงลืมว่าั้แ่ต้นจนตอนนี้เย่เฟิงยังไม่ได้เผยิญญาาของตัวเอง
แต่ตอนนี้พวกเขาได้ประจักษ์ชัดแล้ว ิญญาาของเย่เฟิงคือิญญาาเทพัขั้นเขียว สูงส่งยิ่งกว่าิญญาาหงส์ของหนานกงหลิงซวง แข็งแกร่งมากกว่าเป็ไหน ๆ
ทว่าเย่เฟิงจงใจกดพลังของิญญาาให้อยู่ขั้นเขียว เขาไม่้าเปิดเผยให้มากเกินไป
“วี้ด!” หงส์กู่ร้องอย่างเศร้าสร้อย นาทีนี้พลังของิญญาาหงส์ถูกิญญาาเทพักำราบอย่างสมบูรณ์ ดวงตาหงส์เปี่ยมไปด้วยความหวาดผวาและความเกรงกลัวราวกับไม่ใช่เทพวิหค
“เป็ไปได้ยังไง? ิญญาาของเขาจะแกร่งเพียงนี้ได้เยี่ยงไร?” หนานกงหลิงซวงตกตะลึง หัวใจเต้นแรง ด้วยพลังแห่งันั่น ทำให้นางถึงกับหายใจไม่ออก
หากิญญาาเทพัของเย่เฟิงปลดปล่อยพลังถึงขีดสุดของขั้นเขียวคงทรงพลังมากกว่านี้ ไม่รู้ว่าหนานกงหลิงซวงจะคิดอย่างไร?
“เ้าหนานกงหลิงซวงยโสโอหัง คิดว่าิญญาาหงส์ที่เ้าปลุกไร้เทียมทานในใต้หล้า ทว่าตอนนี้เ้ารู้หรือไม่ว่าความคิดของเ้ามันน่าขันเพียงใดและพลังของเ้าต่ำต้อยแค่ไหน!” เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็น ัั์ส่งเสียงคำรามก่อนจะมีแรงกดดันจากัมาเยือน หอกัเงินประกายปลดปล่อยออกมามหาศาล
“เคล็ดวิชาหอกเงินประกายที่ห้า ัคำรามเก้าชั้นฟ้า!” เย่เฟิงแผดเสียงคำราม รังสีหอกทะลวงห้วงอากาศ ัคำรามดังสนั่นเก้าชั้นฟ้า พลังัผสานกับรังสีหอกราวกับถล่มฟ้าทลายดิน
หอกนี้น่าทึ่งมาก ซึ่งเกินกว่าระดับการบ่มเพาะของตัวเย่เฟิง เป็วิชาสังหารอย่างแท้จริง แล้วหนานกงหลิงซวงจะต้านทานได้อย่างไร
ด้วยการโจมตีที่ทรงพลังนั่น ฟ้าดินพลันมืดสลัว ิญญาาหงส์ของหนานกงหลิงซวงแตกสลาย เพลิงนิพพานจางหายไป
พลังทำลายล้างพลันเข้าปกคลุมร่างนาง ทำให้หนานกงหลิงซวงหน้าขาวซีดและได้กลิ่นความตายโชยมา
บนอัฒจันทร์ คนของตระกูลเฉินต่างหน้าเปลี่ยนสี เฉินอ้าวเทียนลุกขึ้นยืน ตาเผยประกายแสงเยือกเย็น
“สารเลว เ้าช่างกล้านัก!” หนานกงเฉินตวาดเสียงกร้าว เขาคือผู้ฝึกยุทธ์จุดสูงสุดของขั้นรวมชี่ มีความเร็วฉับไว เพียงพริบตาก็ไปเยือนบนเวทีประลอง ก่อนจะปล่อยหมัดออกไปปะทะกับรังสีหอกของเย่เฟิง
ความห่างชั้นของระดับการบ่มเพาะที่มากเกินไปมิอาจชดเชยได้ รังสีหอกของเย่เฟิงสลาย พลังแกร่งกล้ามาเยือน ทำให้เขาถอยหลังไปหลายก้าว มีเืไหลซึมตรงมุมปาก
หน้ากากสีเงินแตกออกเป็สองส่วน ก่อนจะเผยใบหน้าอันหล่อเหลาสู่สายตาของฝูงชน หนานกงเฉินและหนานกงหลิงซวงต่างมองเย่เฟิงด้วยความตะลึงงัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้