หากเป็ก่อนหน้านี้หลินฟู่อินคงไม่ได้อยากจะรีบร้อนขึ้นเขาอะไรขนาดนี้ แต่เื่ปู่หลินนั่นดูแล้วเป็พวกไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาต้องหาทางให้นางตกหลุมพรางทำตามแผนของตนแน่ๆ
ในเมื่อไม่มีตัวช่วยอื่น การหาเงินมาปกป้องตัวเองจึงสำคัญที่สุด ตวนมู่เฉิงสามารถหาสมุนไพรหายากพวกนี้ได้ในชั่วข้ามคืน แสดงว่าต้องมีเส้นสายกับร้านสมุนไพรใหญ่ๆ แน่
หรือไม่ก็อาจจะเป็ผู้ควบคุมร้านสมุนไพรเ่าั้อยู่เื้ัเสียเอง ในเมื่อนางตัดสินใจจะมุ่งหน้าทำกิจการด้านสมุนไพรก็ต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้
บางทีอาจจะพบประตูสู่โอกาสบานใหญ่แล้วก็ได้…
ส่วนคนที่าเ็คนนั้น หากคิดไม่ผิดก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผลอะไร อาจจะยอมทำเป็หลับตาข้างหนึ่งให้ก็ได้กระมัง?
หลินฟู่อินวางแผนไปตลอดทาง
ตวนมู่เฉิงส่งเหล่าลิ่วมารับน้ำแกงไก่ที่บ้านของหลินฟู่อินตามที่นางได้สัญญาไว้
ไม่นึกว่ามาได้ครึ่งทางจะเห็นนางมุ่งหน้าขึ้นเขา ทำให้ดีใจเสียจนลืมนึกว่าเด็กสาวบอกจะขึ้นมาดูอาการอีกทีในวันพรุ่งนี้
ชายหนุ่มยิ้มร่าหัวเราะอารมณ์ดี กล่าวว่าหลินฟู่อินรักษาคำพูดดียิ่งนัก
คนชมแบบทื่อๆ เสียจนหลินฟู่อินอดบ่นในใจไม่ได้ ทว่าเบื้องหน้ายังคงเผยรอยยิ้มเขินอาย
เหล่าลิ่วรับหม้อดินเผาไป พอดมๆ ดูแล้วดวงตาก็แวววาวเอ่ยปากชม “แม่นาง ช่างหอมเหลือเกิน!”
จากนั้นเหมือนจะรู้ตัวว่าคำชมของตนออกจะประหลาดไปบ้าง จึงเกาหัวแกรก แสดงสีหน้าเขินอาย “แม่นางหลินอย่ารำคาญข้าเลย เหล่าลิ่วเป็คนหยาบกระด้าง ไม่ได้ตั้งใจพูดอะไรไม่ดี…”
หลินฟู่อินสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เพียงส่ายหน้าไปมา ขนาดอู๋ซื่อชี้หน้าด่านาง นางยังไม่สะทกสะท้าน เหล่าลิ่วที่ไม่ได้ว่ากล่าวอะไรนางจะมีปัญหาได้อย่างไร
ตวนมู่เฉิงเห็นหลินฟู่อินเดินมาพร้อมเหล่าลิ่วก็ประหลาดใจ
เขามองเด็กสาวแล้วอดถามไม่ได้ “เหตุใดแม่นางหลินกลับมาอีกแล้ว ไม่ใช่กล่าวว่าให้พวกข้าส่งคนไปเอาน้ำแกงไก่ก็พอแล้วหรือ?”
หลินฟู่อินมองตอบ ก่อนจะเม้มปากแล้วยิ้มออกมาโดยไม่ตอบคำถามตรงๆ “ข้าจะมาส่งอาหารให้พวกท่านเอง”
ไม่รอท่าทีของอีกฝ่าย นางก็เดินเข้าไปในห้องของหวงฝู่จิน ยามนี้ชายหนุ่มเอนพิงหัวเตียง กำลังถือหนังสืออยู่ในมือ
เส้นผมสีดำดุจน้ำหมึกคลุมบ่า มันกระจายอยู่บนลาดไหล่และแผงอก คิ้วเข้มดุจเรียวดาบ ดวงตาลึกล้ำดุจท้องทะเล ใบหน้าราวถูกแกะสลักด้วยความประณีต จมูกได้รูป ริมฝีปากไม่หนาไม่บางเกินไป…
ถึงหน้าจะซีดไปบ้าง แต่ก็ทำลายความหล่อไม่บันยะบันยังของเขาไม่ได้อยู่ดี
“เ้ามาด้วย?” หวงฝู่เจินเลิกคิ้วมองหลินฟู่อินที่ยืนอึ้งเหม่อมองเขาไม่หยุด
เขาไม่เคยโดนสตรีจ้องมองเช่นนี้มาก่อนทำให้บอกไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกอย่างไร แต่สุดท้ายเื่ที่ว่านางยังเด็กอยู่ก็พอทำให้เข้าใจได้บ้าง
“หือ” พอรู้สึกตัว หลินฟู่อินก็ขายหน้าเป็อย่างยิ่งจนอดหยิกตัวเองแรงๆ ไม่ได้ นางก้มหน้าก่อนจะดูแผลเขาอย่างระมัดระวัง เมื่อไม่เห็นเืซึมออกมาแล้วก็ถอนหายใจโล่งอก
ตวนมู่เฉิงตามเข้ามาพร้อมน้ำแกงไก่กลิ่นหอมฉุย หลินฟู่อินจึงวางถุงลงบนโต๊ะไม้ แล้วนำเอาแป้งทอดที่ห่อด้วยผ้าขาวออกมา
“แม่นางหลินใจดีจริงๆ ยังอุตส่าห์คิดถึงคนหยาบกระด้างอย่างพวกข้า” ตวนมู่เฉิงสูดจมูกฟุดฟิดดมกลิ่นแป้งทอดหอมๆ ด้วยความยินดี
แน่นอนว่าของเช่นนี้ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ผู้เป็นายของพวกเขาจะรับประทาน
คนเหล่านี้ต้องปกป้องเ้านายที่ได้รับาเ็ เพื่อไม่ให้ถูกผู้อื่นแกะรอยได้ ในยามหิวจึงต้องดื่มน้ำจากแม่น้ำ ยิงนกกิน หรือหากโชคดีจับกระต่ายป่าได้ก็ถือว่าลาภปาก
ไม่คาดคิดว่าหลินฟู่อินตัวน้อยคนนี้จะทำแป้งทอดหอมๆ ร้อนๆ มาเผื่อด้วย กระทั่งคนใจแข็งอย่างตวนมู่เฉิงก็ยังประทับใจ
“ข้าตั้งใจห่อแป้งทอดมาเป็พิเศษ พวกท่านทำงานอยู่ด้านนอกดูแล้วลำบาก ไม่ว่ายังไงกองทัพก็ต้องเดินด้วยท้องนะเ้าคะ” หลินฟู่อินกล่าวเสียงเบา
เห็นสายตาสงสัยมองมา นางก็มองกลับไปตรงๆ แล้วพูด “พวกท่านต้องมีแรงเยอะๆ ปกป้องเ้านายท่านให้ดี ข้าเป็แค่ชาวบ้านธรรมดา หากเ้านายพวกท่านเป็อะไรไปเกรงว่าข้าคงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้…”
น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แน่นอนทั้งหมดล้วนเป็ความรู้สึกที่แท้จริง
เป็ลูกไก่ในกำมือผู้อื่นไม่ได้รู้สึกดีเลยสักนิด
“เ้าก็ดีแต่ห่วงชีวิตน้อยๆ ของเ้าตลอดวัน” หวงฝู่จินมองนาง จากนั้นจึงเบนสายตาไปยังน้ำแกงไก่ กลิ่นหอมจริงๆ ด้วย!
ถึงจะมีกลิ่นยาแต่ก็ไม่ฉุน แค่ดมก็ชวนให้อยากลิ้มลองแล้ว
หลินฟู่อินได้แต่ก้มหน้าพูดไม่ออก ก็ถ้าตัวเองไม่สนใจชีวิตแล้วจะมาวุ่นวายกับชาวบ้านเขาทำไมล่ะ ช่างประหลาดนัก
หวงฝู่จินเห็นนางก้มหน้าลงด้วยท่าทีเชื่อฟังเช่นนี้ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก เขาส่งสัญญาณให้ตวนมู่เฉิงนำถ้วยมาให้ จากนั้นจึงใช้ช้อนตักขึ้นมาชิมคำหนึ่ง เป็กลิ่นยาจริงๆ น้ำแกงมีรสชาติสดชื่นทำให้เขาเริ่มดื่มอย่างจริงจัง
ตวนมู่เฉิงเห็นเช่นนี้ก็คลายใจ เขายิ้มกว้างหยิบแป้งทอดห่อไส้ขึ้นมาชิม
“เก็บไว้หนึ่งอัน”
หวงฝู่จินสั่งกะทันหัน ทำให้ตวนมู่เฉิงแทบทำของกินหลุดมือ
เขาเร่งร้อนวางแป้งทอดหอมกรุ่นลง หยิบชิ้นอื่นขึ้นมาแล้วส่งให้หลินฟู่อิน
เด็กสาวชะงักไป ถามด้วยสายตาที่สื่อว่า แล้วจะส่งมาให้ข้าทำไมเนี่ย?
ตวนมู่เฉิงมองผู้เป็นาย ยัดแป้งทอดชิ้นนั้นใส่มือหลินฟู่อินก่อนจะยกแป้งทอดที่เหลือออกไป
“แม่นางน้อยไม่ได้ร่ำรวยอะไร ทำแป้งทอดให้พวกเ้าเช่นนี้คงเสียเงินในบ้านไปมาก พวกเ้าก็อย่าลืมจ่ายให้นางด้วย”
สิ้นคำของหวงฝู่จิน ตวนมู่เฉิงก็ผงะจนแทบล้ม
หลินฟู่อินไม่เงยหน้า ทั้งยังไม่ขยับตัว ทว่าในใจกลับคิด
นี่เขาคิดถึงนางด้วยหรือ?
โดยไม่รู้ตัว กำแพงและความหวาดกลัวในใจของนางได้คลายลงไปมากแล้ว
“นายท่านโปรดวางใจ พวกบ่าวไม่กินอาหารของแม่นางหลินเปล่าๆ แน่นอนขอรับ” ตวนมู่เฉิงละล่ำละลักจนจบประโยคก็วิ่งออกไปทันที
“ส่งแป้งทอดชิ้นนั้นมาให้ข้า” หวงฝู่จินกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย แม่นางน้อยคนนี้แสร้งกลับไปทำท่าทีเงียบเชียบซื่อตรงอีกแล้ว
“เ้าค่ะ!” หลินฟู่อินรีบส่งแป้งทอดให้เขาทันที เมื่อหลังมือัักับฝ่ามือร้อนของเขา นางก็ใจนแทบทำของกินร่วงจากมือ
หวงฝู่จินมองใบหน้านางนิ่ง ก่อนจะกัดแป้งทอดร้อนๆ เข้าปาก กลิ่นหอมดียิ่ง!
“ที่บ้านเ้ายังอยู่ดีหรือไม่?” เมื่ออารมณ์ดีเช่นนี้ก็อดจะหาเื่สนทนากับนางไม่ได้
แม้หลินฟู่อินจะประหลาดใจ แต่ไม่ตอบก็ไม่ได้ นางค่อยๆ เลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง แล้วกล่าวออกมาช้าๆ “ไม่ค่อยดีเ้าค่ะ ท่านพ่อข้าไม่รู้ว่าเป็หรือตาย แต่ก็ไม่ได้แย่เช่นกัน น้องชายน้องสาวของข้ายังสบายดี”
“เช่นนั้น…” หวงฝู่จินส่งเสียงอืม ก่อนจะพูดเพียงประโยคเดียว “ดูแลน้องๆ ของเ้าให้ดี”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้