แม้เวลานี้มู่จื่อหลิงจะดูน่าอเนจอนาถยิ่งนัก ทว่ากลิ่นอายเฉพาะตัวที่แผ่ซ่านออกมาจากกายนางก็กลบเกลื่อนสภาพน่าอเนจอนาถของนางจนหมดสิ้น
มู่จื่อหลิง! ตัวจริงของเ้าเป็เช่นไรกันแน่ แท้จริงแล้วเ้าเก็บความลับไว้มากมายเท่าใดกัน!
หลังจากกุ่ยเม่ยใส่ยาเรียบร้อยแล้ว เืจากาแก็หยุดไหล เขาหายเจ็บทันที ชายหนุ่มเบิกตากว้างอ้าปากค้างมองไปที่มู่จื่อหลิง
หวางเฟยเป็ผู้ใดกันแน่? บรรเลงฉินได้แล้วยังถอนพิษได้ด้วย ไม่เหมือนกระสอบฟางตามที่ได้ยินมาเลยแม้แต่น้อย
ผ่านไปครู่หนึ่ง เสี่ยวหานก็นำล่วมยาเข้ามา มู่จื่อหลิงกำชับกุ่ยเม่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เ้ารอข้าประเดี๋ยว”
กล่าวจบ มู่จื่อหลิงจึงจับตามองกุ่ยหยิ่งต่อ ไม่นานก็มีโลหิตสีดำไหลออกมาจากรูเข็มไม่หยุด จนกระทั่งโลหิตกลายเป็สีแดงสด มู่จื่อหลิงถึงนำเข็มที่ฝังไว้ออกทีละเล่ม
จากนั้นนำล่วมยามาใช้ลายนิ้วมือเปิดออก หยิบผ้าพันแผลและยามาใส่ที่าแของกุ่ยหยิ่งและพันรอบาแ
เมื่อช่วยพันให้กุ่ยหยิ่งเสร็จ มู่จื่อหลิงจึงมาช่วยพันให้กุ่ยเม่ยต่อ กุ่ยเม่ยมองไปที่มือน้อยๆ ที่กำลังทำงานของมู่จื่อหลิง ก่อนจะพบว่าการเคลื่อนไหวนั้นชำนาญคล่องแคล่วยิ่งนัก ราวกับทำมานับครั้งไม่ถ้วน
เขามองสีหน้าของกุ่ยหยิ่งที่อยู่บนเตียงค่อยๆ ซับสีเืขึ้นมา ก็ตระหนักได้ว่ากุ่ยหยิ่งได้รับการถอนพิษแล้ว เขาจึงคุกเข่าให้มู่จื่อหลิงด้วยความซาบซึ้ง “ขอบพระทัยหวางเฟยที่ช่วยชีวิตพ่ะย่ะค่ะ”
“ไอ๊หยา เ้าอย่าได้คุกเข่าเลย เปิ่นหวางเฟยมิชอบให้คนคุกเข่าให้ ในฐานะที่เป็หมอ การรักษาอาการเจ็บป่วยช่วยชีวิตผู้คนเป็หน้าที่ที่์ลิขิต” มู่จื่อหลิงถูกกุ่ยเม่ยที่คุกเข่าให้อย่างกะทันหันทำให้ใเข้า นางจึงก้าวเข้าไปเพื่อที่จะพยุงกุ่ยเม่ยขึ้น
กุ่ยเม่ยลุกขึ้นมาก่อนก้าวหนึ่ง ท่านอ๋องยังอยู่ เขาจึงมิกล้าให้หวางเฟยเข้ามาช่วยพยุง
หวางเฟยเป็มิตรต่อผู้คนเช่นนี้ ไม่เ้ายศเ้าอย่างเลยแม้แต่น้อย เขาเริ่มมองหวางเฟยพระองค์นี้ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปเสียแล้ว
ขณะนี้เองหลงเซี่ยวเจ๋อที่พาเล่อเทียนมาด้วยก็เข้ามาด้วยความรีบร้อน “พี่สาม เล่อเทียนมาแล้ว”
“เซี่ยวอวี่ เกิดเหตุใดขึ้น” เล่อเทียนเหลือบไปมองเงาร่างเล็กที่ยุ่งวุ่นวายอยู่ริมเตียง
“ถูกพิษ” หลงเซี่ยวอวี่เอ่ยอย่างเรียบเฉย มิได้พูดสิ่งใดอีก แสดงท่าทีให้เขาเข้าไปดูด้วยตนเอง
มู่จื่อหลิงเห็นบุรุษอาภรณ์ขาวที่ดูอบอุ่นราวกับหยกเดินเข้ามา บุรุษผู้นี้งดงามยิ่งนัก งามยิ่งกว่าสตรีเสียอีก
คนผู้นี้คงเป็เล่อเทียนที่หลงเซี่ยวอวี่กล่าวเมื่อครู่ เขาเรียกนามของหลงเซี่ยวอวี่ตรงๆ ได้ เห็นทีความสัมพันธ์ของพวกเขาคงมิใช่ธรรมดา
เมื่อเห็นว่าอาการาเ็ของกุ่ยหยิ่งได้รับการจัดการจนเกือบเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลงเซี่ยวอวี่จึงพยักหน้าให้เล่อเทียนแล้วถอยไปด้านข้าง
เล่อเทียนเห็นบุรุษสภาพอเนจอนาถผมเผ้ายุ่งเหยิงผู้นี้แล้วก็ให้สงสัยเล็กน้อย ทว่ายังคงพยักหน้าตอบรับเขา แล้วแทรกตัวเข้าไปตรวจดูอาการของกุ่ยหยิ่ง
พิษของกุ่ยหยิ่งถูกถอนจนหมดแล้ว าแเองก็ได้รับการจัดการอย่างดีเยี่ยม ส่วนรูเข็มบนร่างกายนั้นล้วนเป็จุดฝังเข็มที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
สายตาของเล่อเทียนยิ่งฉายแววแปลกใจมากขึ้นทุกขณะ คุณชายที่อยู่ด้านข้างท่านนี้ดูท่าแล้วอายุคงน้อยกว่าเขา ถึงกับสามารถถอนพิษพิรุณตัดิญญาออกมาได้ทั้งหมดภายในเวลาอันสั้น
ทว่ายังดีที่เขาถอนพิษให้กุ่ยหยิ่งแล้ว หากรอจนเล่อเทียนมา ชีวิตกุ่ยหยิ่งคงสูญสิ้น
ครู่หนึ่ง เล่อเทียนก็ลุกขึ้นถามมู่จื่อหลิงด้วยสีหน้านอบน้อมระคนประหลาดใจ “เรียนถาม คุณชายร่ำเรียนวิชาแพทย์มาจากที่ใด การฝังเข็มเลิศล้ำนัก จุดฝังเข็มเหล่านี้ล้วนมิเคยเห็นมาก่อน พิรุณตัดิญญาเป็พิษที่ทิ่มลำไส้แทงิญญา คุณชายยังสามารถรีดโลหิตพิษออกมาได้ทั้งหมดในเวลาอันสั้น”
ต่อให้เป็เขาก็ไม่สามารถถอนพิษได้โดยการฝังเข็มไม่กี่เข็ม ทั้งต้องใช้เวลาสองสามชั่วยาม หาพวกตัวยามาค่อยๆ ใช้ยารักษาให้ถูกโรค
“เอ่อ...” มู่จื่อหลิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ นางควรพูดเช่นไรดี?
บอกว่าเมื่อก่อนนางเป็นักศึกษาแพทย์ ขั้นตอนแรกคือต้องจดจำจุดฝังเข็มทั้ง 720 จุดบนร่างกายซึ่งรวมทั้งจุดเป็และจุดตาย ด้วยเหตุนี้ฝังสองสามเข็มจึงมิใช่เื่แปลกอันใด
เมื่อก่อนมู่จื่อหลิงในร่างเดิมเอาแต่ปิดประตูอยู่ในเรือน จะไปกราบไหว้อาจารย์ที่ใดได้ จะกล่าวว่าเรียนรู้ด้วยตนเองนั้นก็ไม่มีทางเป็ไปได้อีก
ยังมิกล่าวถึงเื่ที่มู่จื่อหลิงไม่รู้หนังสือ ต่อให้รู้จักตัวหนังสือร่ำเรียนวิชาการแพทย์ด้วยตนเอง แต่ก็ไม่สามารถแยกแยะพิษได้อย่างรวดเร็ว ถอนพิษได้ในเวลาอันสั้นเป็แน่ เช่นนั้นจะไม่ฝืนธรรมชาติเกินไปหรือ
พวกหลงเซี่ยวอวี่ที่อยู่ด้านข้างก็ล้วนมองมายังนาง ราวกับรอให้นางตอบคำถาม เหมือนว่าถ้านางไม่พูดความเป็จริงมาทั้งหมดก็สาบานว่าจะไม่เลิกรา ดังนั้นสุ่มๆ เหตุผลมาสักข้อก็แล้วกัน
ใบหน้าของมู่จื่อหลิงเปลี่ยนเป็ยิ้มแย้มกล่าวอย่างถ่อมตนว่า “อาจารย์ของข้าสอนมา พอเข้าใจบ้างเล็กน้อย ไม่นับว่าเป็เื่อัศจรรย์อันใด เหมือนดั่งแมวตาบอดเจอหนูตายแล้ว [1]”
เข้าใจเพียงบางส่วน? แมวตาบอดเจอหนูตายแล้ว?
เหตุผลฝืนๆ เช่นนี้พูดให้ฟังก็ไม่มีผู้ใดเชื่อ ยามที่ทอดมองรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ไร้พิษสง ั์ตางดงามทอประกายแวววาวราวกับน้ำที่อยู่ตรงหน้า เล่อเทียนก็ตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ
บนยุทธภพแห่งนี้นอกจากปรมาจารย์แพทย์ไป๋หลี่ฉิวผู้เป็อาจารย์ของเขา ซึ่งฝีมือทางการแพทย์น่าอัศจรรย์ราวกับเป็เทพเซียนแล้ว ในใต้หล้าก็ยังไม่มีผู้ใดที่มีวิชาแพทย์สูงส่งถึงเพียงนี้
หรือจะเป็ท่านอาจารย์? เป็ไปมิได้!
ไม่พูดถึงที่อาจารย์ของเขาถ่ายทอดวิชาแพทย์ทั้งชีวิตของอาจารย์มาให้เขาจนเกือบหมดแล้ว!
และต่อให้เป็อาจารย์เองก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีวิชาฝังเข็มที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ มิต้องเปลืองแรงก็สามารถถอน ‘พิรุณตัดิญญา’ ได้ อีกทั้งในเวลานี้ เขาอยู่ในูเาที่ห่างไกล มิได้ออกมาเป็สิบกว่าปีแล้ว
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนืุ์ยังมีมนุษย์ ใต้หล้านี้ยังมีหมอเทวดาที่มีวิชาแพทย์พอฟัดพอเหวี่ยงกับอาจารย์ของเขาด้วยหรือ เล่อเทียนจึงกล่าวถามด้วยความประหลาดใจอีกครา “มิทราบว่า อาจารย์ที่น่าเคารพผู้นั้นคือผู้ใด?”
“อาจารย์ของข้าทำตัวลึกลับนัก ข้าเองก็มิรู้ว่าเขามีชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร ทุกครั้งที่พบกันเขาล้วนสวมหน้าเอาไว้ และทุกครั้งล้วนเป็เขามาพบข้า ข้าเองก็หาเขาไม่พบเช่นกัน” มู่จื่อหลิงกล่าวอย่างนอบน้อม
-----------------------
เชิงอรรถ
[1] แมวตาบอดเจอหนูตายแล้ว แปลว่า ได้รับความโชคดีหรือบังเอิญจึงประสบความสำเร็จ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้