ไม่อยากถูกทำให้หมดตัว และยังต้องกลายเป็ผีอายุสั้น เช่นนั้นก็ทำได้แค่ไปทำภารกิจให้สำเร็จอย่างสุดชีวิตเท่านั้น
แต่เวลาที่ต้องทำภารกิจให้สำเร็จก็มีแค่หนึ่งปี จะต้องบรรลุเงื่อนไขสามประการ แต่ก็ล้วนทำได้ไม่ง่ายเลย ด้วยพื้นฐานของเจียงไป๋ในตอนนี้แล้ว ยังไม่บรรลุถึงสักประการเลยด้วยซ้ำ
อันดับแรกทรัพย์สินในเทียนตูและโดยรอบต้องถึงสองหมื่นล้านภายในหนึ่งปี
สองหมื่นล้าน หมายความว่าอย่างไร?
เจียงไป๋ได้รับระบบมาครึ่งปีกว่าแล้ว ด้วยโชคชะตาหรือบังเอิญก็ดี ได้โดยบังเอิญหรือ่ชิงเอาก็ดี สู้แทบตายก็ได้ทรัพย์สินมาแค่นี้ บวกกับบ้านที่พี่น้องตระกูลอู๋ให้มาหลังนั้น มากสุดก็แค่ประมาณสองพันล้านยังไม่ถึง
จะให้เปลี่ยนทรัพย์สมบัติเหล่านี้เป็สองหมื่นล้านภายในหนึ่งปี?
ช่างเป็คนโง่ที่เพ้อฝันชัดๆ!
เจียงไป๋ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีธุรกิจอะไรที่จะทำให้ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็สิบเท่าได้ภายในหนึ่งปี
สำหรับว่าจะช่วยคนอื่นจัดการเื่ราวเหมือนอย่างเมื่อก่อน และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ หรือว่าหาเื่เดือดร้อน เพื่อแบล็กเมล …
ยังไม่ต้องพูดถึงฐานะของเจียงไป๋ในตอนนี้ แต่ทำอย่างนี้จะเหมาะสมไหม
ถ้าเขาอยากจะทำอย่างนี้ ตอนนี้ใครยังจะให้โอกาสนี้แก่เขา!
ชื่อของเจียงไป๋ก็ออกไปแล้ว ไม่ใช่ไม่เป็ที่รู้จักเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้ในเทียนตู คนที่ฉลาดสักหน่อย และมีฐานะหน่อยก็ล้วนไม่กล้ามาล่วงเกินเขา หากเขาอยากจะแบล็กเมล ก็ไม่รู้จะไปทำกับใคร
พูดถึงเงื่อนไขประการที่สอง มีบทบาทสำคัญในเทียนตู?
มีบทบาทสำคัญเงื่อนไขนี้ก็คลุมเครือ และก็ไม่เข้าใจที่สุด
แต่ก็มั่นใจได้ว่า ตอนนี้เจียงไป๋ก็ยังทำถึงขั้นนี้ไม่ได้
ถึงตอนนี้เขาจะไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วก็ตาม แต่หาก้ามีความสำคัญในสถานที่อย่างเทียนตูนี้ เห็นได้ชัดว่าเจียงไป๋ยังด้อยไปหน่อย ถ้า้าทำถึงขั้นนี้ได้ อย่างน้อยเจียงไป๋ก็ต้องถึงขั้นจ้าวอู๋จี๋
แต่ขั้นจ้าวอู๋จี๋อย่างนี้ มันก้าวไปถึงกันได้ง่ายๆ หรือ?
จ้าวอู๋จี๋เป็ใคร? เื้ัคือใคร? มีวิธีการและอำนาจอย่างไร บริหารมานานเท่าไร จึงมีความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ได้?
ตอนนี้นอกจากเจียงไป๋จะสู้เก่งสักหน่อยแล้ว ยังจะมีอะไรอีก และก็มีทรัพย์สินนิดหน่อยเท่านั้น แต่ในเทียนตูจริงๆ แล้วทรัพย์สินแค่นี้ก็ไม่มีค่าพอที่จะพูดถึง คนที่มีเงินมากกว่าเขาก็ยังมีอีกถมไป
เส้นสายอะไรก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง นั่นก็ล้วนเป็ของจ้าวอู๋จี๋ ถึงจ้าวอู๋จี๋จะไม่โชคดีและเสียชีวิตไป และเจียงไป๋จะสืบทอดทุกอย่างของเขา ก็ล้วนไม่สามารถทำถึงขั้นนี้ได้ภายในหนึ่งปี ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้จ้าวอู๋จี๋ก็ได้รับความช่วยเหลือจากเขาแล้ว ภายในหนึ่งปีก็จะปลอดภัยไม่เจ็บไม่ป่วย?
ประการที่สามก็ยิ่งทำให้ปวดหัว
คนที่แอบสอดแนมเทียนตูก็มีมากมาย ตอนที่จ้าวอู๋จี๋แข็งแรง ก็ล้วนไม่รู้ว่าในทุกๆ ปี ต้องรับการจู่โจมทั้งต่อหน้าและลับหลังมากเท่าไร หลังจากที่ร่างกายของจ้าวอู๋จี๋แย่ลง ก็ยิ่งมีตาหลายคู่จับจ้องอยู่
ัแห่งตี้ตูหลี่ชิงตี้ พยัคฆ์แห่งหนานเจียงเฉิงเทียนกัง วีรบุรุษแห่งเหอเป่ยอู่เทียนซี าาแห่งตงเป่ยน่าหลานจงเต๋อ มีใครบ้างที่ไม่น้ำลายสออยากจะได้เทียนตู?
ไม่แน่ว่ายังต้องเพิ่มหมาป่าแห่งซีเป่ยที่ขนานนามว่าไร้เทียมทานในใต้หล้าอย่างหยางอู๋ตี๋อีกหนึ่งคน คิดๆ ดูแล้วก็ยิ่งทำให้ปวดหัว
ซัดพวกเขาทุกคนจนไม่กล้าแอบสอดแนมเทียนตูหรือ?
ภายในหนึ่งปี เจียงไป๋ต้องทำให้ได้?
คิดๆ ดูแล้วก็รู้สึกว่าเป็ไปไม่ค่อยได้
“ภารกิจนี้ยากเกินไปแล้ว ช่วยผมที่ไหนกัน นี่มันหลอกผมชัดๆ ภายในหนึ่งปีจะทำถึงขั้นนี้ได้อย่างไรกัน?”
เจียงไป๋อดไม่ได้ที่จะะโทักท้วงอยู่ในหัว
“เ้าหนุ่ม จอมอหังการที่มีคุณสมบัติคนหนึ่งต้องเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับความยากลำบากทุกๆ อย่าง และกำราบความยากลำบากทุกๆ อย่าง เวลาหนึ่งปีไม่สั้นแล้ว เ้าควรจะพยายามจึงจะถูก แต่ไม่ใช่ว่ามาบ่นกับข้าอยู่ในนี้ ดังนั้นการทักท้วงไร้ผล ข้าจะไปนอนแล้ว”
ระบบพูดมาแบบนี้อย่างไม่ไว้หน้า หลังจากนั้นก็หายไปทันที เจียงไป๋จะร้องเรียกอย่างไรก็ไม่ตอบกลับ
นี่ก็ทำให้เจียงไป๋จนปัญญา ตอนที่เตรียมจะล้มเลิก ทันใดนั้นเสียงของระบบก็ดังขึ้นแล้ว
“เมื่อครู่ข้าเพิ่งจะคิดได้ว่า เ้าน่าจะมีโอกาสจับรางวัลขั้นสูงฟรีหนึ่งครั้ง ต่อไปการจับรางวัลขั้นสูงในทุกๆ ครั้ง ก็ต้องใช้แต้มบารมีหนึ่งแสนแต้ม ตอนที่เ้าได้รับแต้มบารมีรวมหนึ่งล้านแต้มแล้ว ก็จะสามารถจับรางวัลขั้นสุดยอดได้ฟรีหนึ่งครั้ง ในเวลาเดียวกัน เ้าหนุ่ม ลืมบอกเ้าไป ต่อไปแต้มบารมีที่เ้าได้รับจากการรับลูกสมุนก็จะปรับเปลี่ยน”
“ปรับเปลี่ยน? ปรับเปลี่ยนอย่างไร?”
คำพูดนี้ทำให้เจียงไป๋ใ ตอนนี้นอกจากแต้มบารมีนิดๆ หน่อยๆ ที่ได้จากการเขียนหนังสือแล้ว ก็มีแค่รายรับแต้มบารมีที่มั่นคงจากการรับคน
ตอนนี้หากปรับเปลี่ยน แบบนั้นผลกระทบก็ไม่รู้ว่าจะมากเท่าไร เป็ธรรมดาที่เจียงไป๋จะเป็กังวล เพราะนี่ก็เกี่ยวข้องกับการพัฒนาในอนาคตของเขา
“วางใจได้ อย่าได้ตื่นตระหนกไป นี่เป็เื่ดี อิงตามกติกาการปรับเปลี่ยนใหม่ ลูกสมุนทุกคนของเ้าจะแบ่งตามประเภทที่แตกต่าง อิงตามระดับขั้นที่แตกต่าง ตำแหน่งที่แตกต่าง ความรู้ที่แตกต่าง และทรัพย์สินที่แตกต่าง พนักงานปกติก็คือคนธรรมดาทั่วไป หากทำงานให้เ้า ก็จะสนับสนุนแต้มบารมีให้เ้าวันละ 0.01 แต้ม ส่วนคนที่มีวุฒิการศึกษาก็แตกต่างกัน นับั้แ่ระดับปริญญาโทขึ้นไป หากมีคนจบปริญญาโทมาอุทิศตนรับใช้ เ้าจะได้รับแต้มบารมีวันละ 0.03 แต้ม ปริญญาเอกวันละ 0.05 แต้ม ศาสตราจารย์วันละ 0.1 แต้ม ผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณูปการ ก็จะได้ถึงวันละ 1 แต้ม ทางด้านพลังสูงหน่อย พลังิจิ้นวันละ 1 แต้ม ปรมาจารย์อั้นจิ้นวันละ 5 แต้ม ปรมาจารย์ใหญ่ 10 แต้ม คนที่มีทรัพย์สินน้อยกว่าหนึ่งล้านลงไปก็ถือเป็คนธรรมดา แต่หนึ่งล้านขึ้นไปได้วันละ 0.03 แต้ม สิบล้านขึ้นไป 0.05 แต้ม หนึ่งร้อยล้านขึ้นไป 0.05 แต้ม หนึ่งพันล้านขึ้นไป 1 แต้ม ด้านตำแหน่งก็อิงตามตำแหน่งงานที่แตกต่าง จะมีการแบ่งรายละเอียดมี … ”
ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าระบบได้ทำการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ และได้ปรับรายรับแต้มบารมีของเจียงไป๋ให้สูงขึ้น
ตอนนี้ลูกสมุนของเจียงไป๋ก็มีคนที่เก่งกาจไม่ธรรมดาจำนวนหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่มีไม่มาก คนที่มีตำแหน่งก็ยิ่งน้อย ดังนั้นการเพิ่มปริมาณจึงมีจำกัด
แต่หากเจียงไป๋พัฒนาไปตามวิธีการนี้ รับยอดฝีมือและคนที่มีความรู้ มีตำแหน่ง มีทรัพย์สมบัติมาทำงานให้เขา เช่นนั้นแต้มบารมีก็จะเพิ่มสูงขึ้น
หากเป็เช่นนี้ แต้มบารมีที่เดิมทีได้วันละสามสิบแต้มของเจียงไป๋ก็จะกลายเป็สี่สิบแต้ม และทำให้เจียงไป๋รู้สึกตื่นเต้นเหลือเกิน
แต้มบารมีเพิ่มขึ้นวันละสิบแต้ม นี่ก็ก้าวหน้าไม่น้อย
“ดีแล้ว ผม้าจับรางวัล”
คำอธิบายของระบบทำให้เจียงไป๋รู้สึกเหมือนยกูเาออกจากอก
เห็นได้ชัดว่าการอัปเดตในครั้งนี้ ก็พูดได้ว่ามีประโยชน์อยู่บ้าง ดังนั้นเจียงไป๋จึงถือโอกาสตอนที่ยังมีเวลา เลือกที่จะจับรางวัล และหวังว่าจะจับได้ของดีๆ เพื่อมาปลอบขวัญเขาที่เมื่อครู่เสียขวัญไปสักหน่อย
“ได้สิ เ้าหนุ่ม จับรางวัลเริ่มแล้ว!”
วินาทีต่อมา รัสเซียนรูเล็ตขนาดใหญ่ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเจียงไป๋ รูเล็ตมีทั้งหมดหกช่อง ในทุกๆ ช่อง ล้วนมีอักษรและรูปที่แตกต่างกัน ตำแหน่งตรงกลางคือเข็มสีทองหนึ่งเล่ม จุดตรงกลางเข็มปรากฏหน้ายิ้มที่ดูหยอกเย้า
และบนเข็มยังมีอักษรเล็กๆ หนึ่งแถว “ท่านปู่ระบบที่ยิ่งใหญ่จะมอบของให้หลานอย่างเ้า … ”
เมื่อเห็นอักษรแถวนี้แล้ว เจียงไป๋ก็อยากจะด่าทันที สำหรับด้านหลังที่จะมอบอะไรให้นั้น ยังต้องถามอีกหรือ?
แน่นอนว่าจับได้อะไรก็อันนั้น
“เ้าคนสารเลวนี่!”
เจียงไป๋อดด่าไม่ได้ หลังจากนั้นก็เบนสายตาเล็งไปที่ช่องหลากสีที่อยู่บนรูเล็ตสีทอง ทุกๆ ช่อง ล้วนมีความแตกต่างเฉพาะตัว
แบ่งเป็ “กำลังดั่งัและช้างขั้นสาม (ส่งเข้าไป) ” “การฟื้นฟูขั้นสุดยอด (ฉบับสมบูรณ์) ”
สองอย่างนี้ล้วนเป็ของดีอย่างไม่ต้องสงสัย ทุกอันล้วนมีค่าไม่ธรรมดา จนทำให้เจียงไป๋ตาลุกวาว
ถึงแม้กำลังดั่งัและช้างในการฝึกของเจียงไป๋จะอยู่ในขั้นต่ำ ตอนนี้การส่งเข้ามาก็เสียเปรียบอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยราคาก็หลายหมื่นแต้มบารมี คิดดูแล้วก็ไม่ถือว่าขาดทุน อย่างไรการจับรางวัลในครั้งนี้ก็ฟรีไม่ใช่หรือ
สำหรับการฟื้นฟูขั้นสุดยอดฉบับสมบูรณ์ นั่นคือข้อดีจริงๆ จุดนี้ไม่ต้องสงสัย แต้มบารมีหนึ่งแสนแต้มก็ถือว่าซื้อแล้ว ก็คุ้มค่า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้