“ฮึ่ม หม่อมฉันย่อมส่งมอบให้พระองค์โดยไม่ขาดแม้แต่เหรียญเดียวเพคะ”
ฮวาเหยียนทิ้งคำพูดนี้ไว้ ก่อนจะจูงมือหยวนเป่าออกจากจวนไท่จื่อพร้อมกับตะกร้าผักของตน
หลังจากต่อสู้กับตี้หลิงหานไปหนึ่งยก ใจของนางก็รู้สึกสบายขึ้นมาก
“ท่านแม่รู้สึกไม่สบายใจใช่หรือไม่ขอรับ?”
หลังออกจากจวนไท่จื่อและขึ้นรถม้าแล้ว หยวนเป่าก็ส่งเสียงถามออกมา ขณะนี้อารมณ์หงุดหงิดของมารดายังมิจางหาย นางพาเขาไปก่อเื่วุ่นวายถึงจวนไท่จื่อ เขาเองก็เตรียมพร้อมจะต่อสู้แล้วเช่นกัน ทว่าองค์รัชทายาทกลับมิลงมือทำอันใด
“ไม่มีอันใดมาก เพียงคิดว่าเงินทองเ่าั้ต้องกลายเป็ของตี้หลิงหาน ใจของแม่ก็รู้สึกไม่เป็สุขเท่าไรนัก”
ฮวาเหยียนเอนตัวพิงพนักรถม้าพลางแทะแตงกวา นาง้าทานบางสิ่งเพื่อดับไฟในใจอย่างเร่งด่วน
หยวนเป่าหัวเราะ เขารู้ว่าต้องเป็เช่นนี้
“แต่ท่านแม่ขอรับ การที่ท่านไปถึงจวนไท่จื่อเพื่อหาเื่องค์รัชทายาท ลองคิดดูว่าหากเขาใช้กลอุบายเหมือนคราก่อนมาขู่บังคับเอาเงินจากเราอีก เช่นนั้นจะทำอย่างไรเล่าขอรับ?”
หยวนเป่าถาม
มีเพียง์ที่รู้ว่าเมื่อครู่สติของเขาตึงแน่นเพียงใด
“ไม่มีทาง ตอนพวกเราบุกไปยังจวนไท่จื่อย่อมมีคนเห็น นอกจากนี้ตี้หลิงหานย่อมมิคาดคิดว่าพวกเราจะสามารถรวบรวมเงินได้สำเร็จภายในระยะเวลาไม่ถึงสามวัน ดังนั้นแค่รอให้เขาเหน็บแนมแม่ ให้แม่อยู่มิสู้ตาย ด้วยโอกาสที่เขาสามารถทรมานและทำให้แม่อับอาย ทั้งยังกดดันท่านตากับท่านลุงของเ้าให้มิอาจเปิดปากกล่าวอันใดได้ ด้วยเหตุนี้เขาจะไม่มีทางลงมือกับพวกเราใน่เวลานี้อย่างแน่นอน”
ฮวาเหยียนคิดเื่นี้ออกตั้งนานแล้ว
ดังนั้นจึงเป็เหตุผลที่นางบุกไปยังจวนไท่จื่อเพื่อหาเื่ตี้หลิงหาน
“เป็เช่นนี้หรอกหรือ...”
หยวนเป่าลูบคางพลางพยักหน้า
“ท่านแม่ พวกเรามาจบเื่นี้กันโดยเร็วเถิด อย่าไปพัวพันกับองค์รัชทายาทผู้นี้มากนักเลย เมื่อครู่ตอนอยู่ในจวน เขาชำเลืองมาที่หยวนเป่า แค่สายตานั้นก็ทำให้หยวนเป่ารู้สึกเหน็บหนาวเหลือเกินแล้วขอรับ”
หยวนเป่าน้อยตอบ
“ว่าอย่างไรนะ? เขาเหลือบมองเ้าด้วยหรือ? เฮอะ...เยี่ยมเสียจริงตี้หลิงหาน ใจเขาแปดในสิบส่วนมิรู้ว่ามีเจตนาร้ายอันใด ไม่ช้าก็เร็ว ต้องมีสักวันที่แม่ควักลูกตาเขาออกมาแน่!”
ฮวาเหยียนกล่าวอย่างดุร้ายด้วยสีหน้าป่าเถื่อน
“ท่านแม่ ข้าจำได้ว่าวรยุทธ์ขององค์รัชทายาทอยู่ระดับจอมยุทธ์นะขอรับ...”
ฮวาเหยียน “...!”
ดังนั้นแล้ว ลูกรักเ้าหมายความว่าอย่างไร? เ้าคิดว่ามารดาของเ้ากำลังคุยโวหรือ?!
...
หลังออกมาจากจวนไท่จื่อ ฮวาเหยียนกับหยวนเป่าก็มิได้รีบร้อนกลับหออู๋ิ หยวนเป่าน้อยรู้สึกหิวอยู่บ้าง ทั้งสองจึงแวะร้านอาหารและสั่งมาหลายจาน ทานอาหารมื้อใหญ่
“ใช่แล้ว แม่นึกเื่หนึ่งขึ้นมาได้”
“ขอรับ?”
หยวนเป่าเงยหน้าขึ้น
ฮวาเหยียนจิบชาสมุนไพรพลางนึกถึงทัศนียภาพภายในจวนไท่จื่อที่นางเห็นเมื่อครู่ “เกรงว่าตี้หลิงหานก็เป็ทาสเงินเช่นเดียวกัน เ้าดูโครงสร้างของจวนไท่จื่อ ความงดงามหรูหราเกินบรรยายปรากฏอยู่ทุกที่ เขายังคิดบีบเอาเงินสามล้านตำลึงจากแม่อีก สมบัติในมือเขาย่อมมีไม่น้อยแล้ว แต่ดูเถิดว่าเขาทานสิ่งใด?”
ฮวาเหยียนขมวดคิ้ว “เขาทานอาหารมังสวิรัติสองจานและอาหารเรียกน้ำย่อยสองจาน ไม่มีแม้แต่อาหารจานเนื้อด้วยซ้ำ ยิ่งกว่าอาหารชาวนาเสียอีก เหตุใดเขาต้องประหยัดถึงเพียงนี้? กระทั่งทานเนื้อสักจานยังหักใจมิลง?”
หยวนเป่าหลับตา ไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง “ไม่แน่ว่าร่างกายของเขาอาจไม่ดีนัก ไม่เหมาะต่อการทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ดังนั้นเขาจึงทานเพียงอาหารมังสวิรัติขอรับ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยวนเป่า ฮวาเหยียนก็เลิกคิ้วขึ้น “ลูกรัก เ้ามองอันใดออกหรือ?”
“บนร่างขององค์รัชทายาทมีกลิ่นโอสถขอรับ...”
หยวนเป่าตอบ
ฮวาเหยียนลูบคางของตนทว่ามิได้กล่าวอันใด ไม่รู้ว่านางคิดสิ่งใดอยู่
...
ณ จวนไท่จื่อ ทันทีที่ฮวาเหยียนและหยวนเป่าจากไป ตี้หลิงหานก็ลุกขึ้นไอครู่หนึ่ง หน้าของเขาพลันซีดเผือดลง แต่ราวกับเขาไร้ความรู้สึกใดๆ เพียงใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเืบริเวณมุมปากเท่านั้น
“นายท่าน”
อั้นจิ่วเรียกขานเสียงเบา
“ไม่มีอันใด”
เขาโบกมือ พรุ่งนี้ก็เป็วันที่สิบห้าอีกคราแล้ว เกรงว่าร่างกายของเขา...
เมื่อครู่เขาถูกกระตุ้นเพราะมู่อันเหยียน แม้เขาจะเตรียมตัวมาก่อนหน้า ทว่าเมื่อโดนคำพูดห้วนสั้นไม่กี่คำของนางกลับถูกกระตุ้นจนเกือบลงมือโยนนางออกไป
มู่อันเหยียนผู้นี้ช่างน่ารังเกียจเสียจริง
แต่เมื่อนึกถึงจดหมายลับฉบับนั้น ดวงตาของตี้หลิงหานก็ฉายแววเ็า ในจดหมายระบุเพียงสี่พยางค์ว่า ‘ชายแดน ฉุกเฉิน...’
...
ฮวาเหยียนและหยวนเป่าทานอาหารจนเต็มอิ่ม ทั้งสองเดินออกจากร้านอาหารอย่างสบายใจ แต่ผู้ใดจะรู้ว่าเพียงเดินออกมาถึงถนนจะได้ยินเสียงคนร้องอุทานว่า “หออู๋ิจัดการประมูลขึ้นเมื่อครู่ ์ทรงโปรด ที่แท้เป็โอสถวิเศษที่มีชื่อว่าโอสถเซวียนลี่ ทั้งยังมีโอสถจินฉวนอีก ์เอ๋ย ว่ากันว่ายานั้นกลั่นจากโอสถจิติญญาที่หายากเป็อย่างยิ่ง ช่างมหัศจรรย์นัก!”
“เ้าแย่งมาได้หรือไม่?”
มีอีกเสียงถามขึ้น
ชายผู้นั้นทั้งตื่นเต้นและเสียใจ “ข้าแย่งมามิได้ แค่เริ่มเปิดการประมูลมันก็ถูกแย่งชิงจนเกลี้ยง และโอสถเซวียนลี่ยังแบ่งประมูลทีละเม็ด การประมูลยาเม็ดหนึ่งเริ่มต้นที่สองแสนตำลึง ด้วยราคานี้คนธรรมดาย่อมถูกทิ้งห่างจนมิเห็นฝุ่น เป็คุณชายตระกูลสูงศักดิ์ทั้งหลายที่ได้ไป ราคาสูงสุดพุ่งไปถึงหนึ่งล้านห้าแสนตำลึง ์ทรงโปรด อีกทั้งพวกเขาเกือบจะลงมือต่อสู้กันแล้ว”
“โอสถเซวียนลี่ อัศจรรย์ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”
คนที่ถามไม่ได้เข้าร่วมการประมูล แต่เมื่อเห็นความตื่นเต้นจากคนรอบตัวจึงอดเอ่ยปากขึ้นมามิได้
“ยิ่งกว่าคำว่ามหัศจรรย์ หออู๋ิร่ำรวยเรืองอำนาจ พวกเขาสุ่มเรียกคนขึ้นมาทดลอง เ้าเดาได้หรือไม่ว่าเกิดอันใดขึ้น คนผู้นั้นเดิมทีก็เป็ผู้ฝึกยุทธ์ระดับผู้บำเพ็ญเพียรขั้นเจ็ด แต่แค่ใช้โอสถเซวียนลี่ เขาก็ทะลวงระดับจนกลายเป็ระดับปรมาจารย์ขั้นหนึ่ง...์ทรงโปรด ตอนนั้นทุกคนล้วนใกับภาพที่เห็นจนแทบคลั่ง และโอสถก็ถูกขายหมดภายในเวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูป!”
ชายผู้นั้นทำท่าทางประกอบคำพูด เขาแอบยินดีที่ตนเองอยู่ที่นั่นในเวลานั้น จึงบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียดให้เหมือนเห็นกับตาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเป็อย่างยิ่ง!
อีกด้านหนึ่ง ฮวาเหยียนฟังแล้วกะพริบตาปริบ นางเกือบจะพ่นโลหิตออกมาเต็มปาก
เมื่อครู่นางเพิ่งได้ยินเื่อันใด?
นางไปที่จวนไท่จื่อเพื่อสร้างเื่วุ่นวาย แต่ในขณะเดียวกันหออู๋ิกลับจัดการประมูลขึ้น? และของที่จัดประมูลก็คือโอสถที่นางขายให้กับจีอู๋ซวง แต่นั่นย่อมไม่สำคัญ นางประเมินความสามารถและความใจดำของจีอู๋ซวงต่ำไป สำหรับโอสถหนึ่งเม็ด เขาเริ่มประมูลด้วยราคาสองแสนตำลึง...
์เอ๋ย จีอู๋ซวงทำเงินได้เท่าไรกัน?
ฮวาเหยียนรู้สึกว่าหัวใจของนางมีหยดเืซึม
กล่าวไปแล้ว นางคงใจดีเกินไป ใจดีเกินไปจริงๆ...
จีอู๋ซวงมีใบหน้ายิ้มแย้มจนตายิบหยีตลอดวัน ทว่าความเฉลียวฉลาดของเขา ความใจดำของเขา และความสามารถในการทำเงินของเขา ทิ้งห่างนางไปไกลลิบ ห่างชั้นหลายร้อยถนน
“ไป ไปดูที่หออู๋ิ...”
ฮวาเหยียนกุมอกที่ทุกข์ระทมของตนพลางขึ้นรถม้าเพื่อไปยังหออู๋ิ ด้วยความรู้สึกดั่งถูกศรนับพันทิ่มแทง
“หยวนเป่าน้อย แม่ใจดีเกินไป และเพราะเป็คนดีเกินไปจึงถูกหลอก แม่ขายโอสถที่เ้ากลั่นด้วยราคาที่ถูกเกินไปแล้ว ฮือๆๆ...”
หัวใจของฮวาเหยียนเ็ปเป็อย่างยิ่ง
นางคำนวณดูแล้ว จากราคาที่นางขายสมุนไพรทั้งสองขวดให้จีอู๋ซวงในเวลานั้น เพียงเปลี่ยนมือเปลี่ยนวรยุทธ์ มันก็ถูกขายในราคามากกว่าสี่ถึงห้าเท่า
เมื่อเห็นฮวาเหยียนเป็เช่นนี้ หยวนเป่าก็เกือบจะหัวเราะออกมา มารดาของเขาช่างน่ารักเสียจริง นางชอบกิน นางชอบเงิน และแม้นางจะเก็บเงินได้มาก แต่นางก็พร่ำบอกอยู่เสมอว่าทั้งหมดนี้มีไว้เพื่อเขา
“ท่านแม่ โอสถเซวียนลี่นั้น หยวนเป่าสามารถกลั่นออกมาได้อีก ทั้งยังมีโอสถอีกมากมายหลายแขนง หยวนเป่าล้วนทำเป็ทั้งสิ้น เมื่อถึงเวลาที่ท่านแม่นำไปขาย แค่เพิ่มราคาให้โอสถเ่าั้เป็พอขอรับ”
หยวนเป่ายิ้มและกล่าวปลอบใจ
“ฮือ มันไม่เหมือนกัน”
ฮวาเหยียนส่ายหัวพลางกุมอกแน่น นางรู้สึกว่าอาหารที่เพิ่งทานไปไม่ย่อยบางส่วน ในใจเ็ปนัก ทั้งมีความรู้สึกคล้ายโดนเอาเปรียบ
ดวงตาของหยวนเป่าเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นอีกสักครู่ท่านก็ไปขอส่วนต่างจากท่านลุงผู้นั้นเพิ่ม เขาย่อมให้ท่านอย่างแน่นอน และเพราะโอสถขายดี วันหน้าเขาย่อม้าซื้อยาในมือของท่านแม่อีกแน่ขอรับ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้