หยวนเป่ารู้สึกว่ามีบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ เช่นนิสัยของท่านลุงคนนี้ หากท่านป้ามู่ได้รับคำชมจากอีกฝ่ายว่าดีมาก ย่อมแปลว่าดียิ่งนัก และแปลได้ว่าทั้งชอบพอและพึงใจเป็อย่างยิ่ง ทว่าเหตุใดภายหลังจึงมิได้พัฒนาความสัมพันธ์กันต่อเล่า?
หยวนเป่ายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจ
“เช่นนั้นท่านลุงแต่งงานกับท่านป้ามู่ดีหรือไม่ หยวนเป่าอยากให้ท่านป้ามู่เป็ป้าสะใภ้ใหญ่”
"แค่กๆ"
มู่เสวียนเย่กำลังรินชาอยู่ ทันทีที่จิบเข้าไปก็ได้ยินคำพูดของหยวนเป่าน้อย เขาจึงสำลักน้ำชาโดยไม่ได้ตั้งตัว
ดวงตาของมู่เสวียนเย่ปรากฏร่องรอยความเ็ปวาบผ่าน เขาค่อยๆ วางถ้วยชาลง ก่อนลูบศีรษะของหยวนเป่าแล้วเอ่ยว่า “เกรงว่าอาจไม่เป็การดีเอาได้”
“เพราะเหตุใด? ท่านป้ามู่ไม่ชอบท่านลุงหรือขอรับ?”
หยวนเป่าน้อยถาม
ไม่ชอบหรือ?
ภาพรอยยิ้มของหญิงสาวผุดขึ้นในสายธารความคิดของเขา มู่เสวียนเย่จำได้ว่าตอนที่พบกันครั้งแรก หญิงสาวเอาแต่จ้องมองเขา ดวงตานางไม่ปิดบังหลบซ่อนเฉกเช่นคุณหนูในห้องหอคนอื่นๆ เป็คนที่เปิดเผยยิ่งนัก แต่เมื่อสายตาของพวกเขาประสานกัน นางกลับหลบตาไปอย่างรวดเร็ว และปรากฏความเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย
นางมีบุคลิกดีเยี่ยม อ่อนโยนและอ่อนหวาน ถ้อยคำช่างจำนรรจา เขายังจำคราแรกที่พบกันได้ดี หญิงสาวสวมชุดกระโปรงสีเขียวอ่อน น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานของนางกล่าวว่า “ข้าน้อยมู่เฉิงอิน ขอคารวะคุณชายมู่เ้าค่ะ”
จากนั้นแม้ทั้งสองจะไม่ได้พบกันอีก แต่พวกเขาก็แลกเปลี่ยนจดหมายกันหลายฉบับ
ในจดหมายนั้น แม้แม่นางมู่จะเป็สตรีสูงศักดิ์ในห้องหอ ทว่านางกลับเป็ผู้ที่ทำสิ่งใดล้วนดีเยี่ยมทั้งสิ้น ทำให้เขาอดชื่นชมมิได้ และยังเกิดความรู้สึกว่าพวกเขาเจอกันช้าไปอีกด้วย
แต่ความรู้สึกของแม่นางมู่ที่มีต่อเขาเล่า? คล้ายว่านางเองก็ชื่นชมเขาอยู่ไม่น้อย มิเช่นนั้นคงไม่โต้ตอบจดหมายกับเขาเสียหลายฉบับหรอกกระมัง
แต่มาถึงยามนี้ จะพูดเื่เหล่านี้ไปเพื่อให้เกิดประโยชน์อันใด?
จดหมายของเขาถูกส่งไปแล้ว
ท้ายที่สุดทุกสิ่งล้วนคือพรหมลิขิต
มู่เสวียนเย่ถอนหายใจ ราวกับรู้สึกหนักอึ้งในใจอยู่เล็กน้อย “ลุงใหญ่กับท่านป้ามู่แค่เคยเจรจากันเื่งานแต่งเท่านั้น ยังมิได้ตกลงแต่งงาน เป็ท่านป้ามู่ที่มิได้พึงใจลุงใหญ่”
มู่เสวียนเย่กล่าว
เขาคิดว่าแม้จะได้เจรจากันเื่การแต่งงาน แต่ที่สุดกลับมิได้ตอบตกลงแต่ง เช่นนี้คงไม่กระทบต่อชื่อเสียงของมู่เฉิงอิน
หากเขาเกรงว่าภายนอกจะเกิดข่าวลือขึ้น ก็แค่บอกว่าเป็แม่นางมู่ที่ไม่ชอบเขาก่อน หากเป็เช่นนี้ ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อนางในการหาสามีแต่งงาน
"อา…"
เมื่อได้ฟังสิ่งที่มู่เสวียนเย่กล่าว หยวนเป่าน้อยจึงอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ ช่างเป็เื่ที่คาดเดาจุดเริ่มต้นได้ แต่มิอาจบอกเล่าถึงจุดจบได้เสียจริง หยวนเป่าน้อยประหลาดใจจนอ้าปากหวอ
ที่แท้เป็ท่านลุงใหญ่ที่ถูกทอดทิ้งมาเช่นนั้นหรือ?
หยวนเป่าแสดงสีหน้าเศร้าโศกเป็อย่างยิ่ง
เื่ทั้งหมด แท้จริงแล้วเป็ความผิดของท่านป้ามู่นี่เอง
ท่านแม่ยังบอกอีกว่า ท่านป้ามู่ก็น่าจะชอบท่านลุงมากๆ
เวลานี้สายตาที่หยวนเป่ามองท่านลุงใหญ่ของตนจึงเต็มไปด้วยความเข้าอกเข้าใจ เขาตบไหล่อีกฝ่ายอย่างปลอบโยน ก่อนเปิดปากพูดว่า "ท่านลุง ท่านอย่าเศร้าไป ฟังคำแนะนำของหยวนเป่านะขอรับ การปฏิบัติต่อสตรีนั้นต้องอย่าตระหนี่ในคำชม ปากต้องหวาน ทั้งใจต้องกว้างให้มาก สตรีล้วนชอบฟังคำหวาน และรับของกำนัลที่พิถีพิถันละเอียดอ่อนขอรับ"
หยวนเป่าสอนอย่างจริงจัง
คำพูดเหล่านี้ล้วนเป็ท่านแม่สอนเขามา
มู่เสวียนเย่หุบยิ้มเมื่อได้ยินสิ่งที่หยวนเป่าพูด "เ้าเด็กน้อยแก่แดด"
...
ตอนที่ท่านลุงหวังเดินเข้ามาในห้อง ก็เป็เวลาพอดีกับที่เขาได้ยินบทสนทนาตลกๆ ระหว่างมู่เสวียนเย่กับหยวนเป่า จนเขาทนไม่ไหวหัวเราะออกมาอย่างช่วยมิได้
เขาเป็คนรับใช้เก่าแก่ในบ้าน เป็เหมือนผู้าุโคนหนึ่งในจวน เหล่าคุณหนูคุณชายในบ้านล้วนปฏิบัติต่อเขาอย่างดี เขาจึงมิได้มีความหวั่นเกรง ทว่าพูดออกมาอย่างเป็ธรรมชาติ
“คุณชายใหญ่ขอรับ คืนนี้ท่านจะรับสำรับและค้างที่จวนหรือไม่ขอรับ?”
ลุงหวังถาม
มู่เสวียนเย่คิดครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “วันนี้ตอนออกจากวังข้ารีบร้อนไปหน่อย ยังมิได้หาคนมาเข้าเวรแทน ยามนี้จึงต้องรีบกลับไปสักรอบ ประเดี๋ยวข้าจะกลับมาทานอาหารเย็นและพักอยู่ในจวน”
“ดียิ่ง ตาเฒ่าคนนี้จะลงไปสั่งการให้ขอรับ”
ลุงหวังพยักหน้าอีกครั้งก่อนก้าวถอยหลังไป
“หยวนเป่า ลุงใหญ่ยังมีเื่ที่ต้องจัดการ แต่ลุงจะกลับมาตอนเย็น แล้วพวกเราค่อยเข้านอนด้วยกันตอนกลางคืน”
“ได้เลยขอรับ ท่านลุงรีบไปทำงานเถิด”
หยวนเป่าะโลงจากตักของมู่เสวียนเย่และโบกมือไปมาให้เขา
เห็นเขาสวมเสื้อคลุม ก่อนจะกอดตนเองอีกครั้ง หลังจากนั้นท่านลุงใหญ่ก็เดินจากไป
มู่เสวียนเย่ได้รับจดหมายจากเสี่ยวไป๋ ตอนออกจากวังจึงรีบร้อนเป็อย่างยิ่ง เริ่มแรกไปที่จวนตระกูลเจียง แล้วก็กลับมาที่จวนของตนเอง ยามนี้ยังต้องรีบกลับไปที่วังเพื่อจัดการงานอีก แต่มู่เสวียนเย่มีความคิดของตนเองอยู่ในใจ เขาคิดถึงสิ่งที่ตนได้ยินมาจากหยวนเป่า หากฮ่องเต้้าให้เขาแต่งงานกับฉู่รั่วหลานจริงๆ เกรงว่าเขาคงดำรงตำแหน่งผู้นำหน่วยราชองครักษ์ประจำวังหลวงได้อีกไม่นานแล้ว แต่แม้เขาจะลาออกจากตำแหน่งทางการ เขาก็ไม่้าปีนขึ้นไปคว้าของสูงเช่นองค์หญิงฉู่
หลังจากมู่เสวียนเย่จากไป หยวนเป่าก็ออกไปให้อาหารเสี่ยวฮวาก่อน จากนั้นจึงเดินเล่นรอบๆ สวนพร้อมกับถอนหายใจสองสามครา ในใจนึกสงสัยว่าเหตุใดท่านแม่จึงยังไม่กลับ เขาสอบถามสถานการณ์ทางด้านนี้เรียบร้อยแล้ว ทว่าผลลัพธ์ที่ออกมายังไม่เป็ไปตามที่ปรารถนานัก
สีหน้าของหยวนเป่าเศร้าโศกอย่างยิ่ง เขาเดินวนรอบสวนดอกไม้หนึ่งรอบ แล้ววนรอบสวนหลังจวนอีกหนึ่งรอบ ท่านตาไม่อยู่ ท่านแม่เองก็ไม่อยู่ และแม้แต่ท่านลุงก็ไม่อยู่แล้ว...
“ชิงเหอ เ้ารู้หรือไม่ว่าคุณชายใหญ่เลิกรากับแม่นางมู่แล้ว การเจรจาเื่งานแต่งไม่สำเร็จหรือ?”
ในตอนนั้นเอง ที่มุมหนึ่งของสวนหลังจวนกลับปรากฏคนรับใช้สองคนนั่งยองๆ อยู่ภายใต้ร่มเงาเย็นสบาย
หยวนเป่ามองไป เป็คนรับใช้สองคนที่ยามปกติรับใช้ท่านลุงใหญ่ เพราะเมื่อคืนเขาไปนอนที่จวนของท่านลุงจึงเคยเห็นคนรับใช้สองคนนี้ ชิงเหอเป็สาวใช้ที่รับผิดชอบเื่ชีวิตประจำวันของท่านลุง นางเป็คนที่ระมัดระวังเอาใจใส่เป็อย่างยิ่ง เพียงเปิดปากพูดแก้มก็มักจะแดงระเรื่อ ส่วนอีกคนคือชิงเฟิง เป็คนที่มีรอยยิ้มตลอดวันและอารมณ์ดีเยี่ยมเป็ที่สุด รับหน้าที่งานภายนอกจวน ถ้าท่านลุงใหญ่มีธุระใดก็มักสั่งให้อีกฝ่ายออกไปจัดการ
ผู้ที่พูดในเวลานี้คือคนที่มีนามว่าชิงเฟิง
เขาเป็คนไปส่งจดหมายให้แก่แม่นางมู่ เื่ธุระภายนอกเช่นการยืมเงินก็มักเป็เขารับผิดชอบ
เพียงแต่ตอนนี้เขารู้สึกเบื่อ จึงมาแกล้งชิงเหอ
"ข้าไม่ทราบ"
ชิงเหอโบกมือปัด ไม่้าพูดอันใด นางหันไปเล่นกับมดที่กำลังบรรทุกอาหารบนพื้น
“ฮ่าๆ ข้าก็รู้ว่าเ้าไม่รู้ เช่นนั้นเ้าไม่อยากรู้เหตุผลหรือ?”
ชิงเฟิงทำเสียงขึ้นลงหลอกล่อให้อยากฟัง
เดิมทีหยวนเป่ากำลังจะเดินจากไป เขาไม่มีใจอยากแอบฟังคนรับใช้สองคนคุยกันเื่ครอบครัวตน แต่ก่อนที่ขาของเขาจะเริ่มก้าวเดิน กลับถูกเสียงพูดของชิงเฟิงดึงเอาไว้ และตอนนั้นเองที่หูของหยวนเป่าพลันขยายใหญ่ขึ้น
แต่เขาไม่นึกว่าแม้ตนจะอยากฟัง แต่สาวใช้ตัวน้อยนามว่าชิงเหอที่กำลังเล่นกับมดอยู่นั้นกลับไม่อยากรู้เื่ส่วนตัวของเ้านายเลยแม้สักน้อย นางส่ายหน้า “ข้าไม่อยากรู้”
ซึ่งนั่นทำให้หยวนเป่าน้อยร้อนรนแทบตาย
เขาอยากจะพุ่งตัวออกไปถามเสียเอง
ทว่าชิงเฟิงกลับไม่อาจปิดปากของตนเองได้ ดังนั้นจึงได้ยินเสียงเขาถอนหายใจ ก่อนกล่าวว่า “ถึงเ้าไม่อยากรู้ แต่ข้าก็จะพูด... ความจริงคือคุณชายใหญ่กำลังเผชิญปัญหาอยู่ เ้ารู้หรือไม่ว่าคือปัญหาใด? ข้าเองก็ไม่รู้ แต่ข้ารู้ว่าคุณชายใหญ่กำลังพยายามหาเงิน แค่เช้าวันนี้ข้าต้องส่งจดหมายทั้งหมดสิบหกฉบับ และทุกฉบับล้วนกล่าวถึงเื่ยืมเงิน!”
ท้ายที่สุดชิงเหอก็เงยหน้าขึ้น “แล้วเกี่ยวข้องอันใดกับเื่ที่เจรจาแต่งงานกับแม่นางมู่ไม่สำเร็จเล่า?”
สีหน้านางไม่เข้าใจเป็อย่างยิ่ง
“ฮึ แน่นอนว่าย่อมต้องเกี่ยวข้องกัน”
ชิงเฟิงมีนิสัยกล้าหาญกระตือรือร้น เพียงฝ่ามือเดียวก็ตบเข้าที่หัวของชิงเหอและรีบพูดขึ้นว่า “ไม่รู้คุณชายพบเจอเื่ปวดหัวอันใดเข้า จึง้าเงินเป็จำนวนมาก ไม่เพียงเพื่อเติมเงินในคลังส่วนตัว แต่ยังต้องหยิบยืมจากมิตรสหายที่ดีของเขาด้วย กล่าวคือกระทั่งเงินที่ใช้สำหรับแต่งเ้าสาวเข้าตระกูลก็ไม่มีสักตำลึง! ข้าได้ยินมาว่าคุณชายใหญ่กำลังขายทรัพย์สินของเขาเอง ดังนั้นตอนนี้คุณชายใหญ่และท่านอ๋องต้องกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ที่มิอาจแก้ไขได้เป็แน่”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้