เป็เวลากลางคืน ห้องโถงหลักตระกูลเนี่ย แสงไฟสว่างไสว!
ศิษย์ที่เร่งรุดกลับมาจากสถานที่ต่างๆ ทั่วเมืองจูเซียนต่างมารวมตัวกัน ทุกคนล้วนตรวจดูอาวุธอุปกรณ์ของตน สีหน้าแววตาราวกับพร้อมลงมือคร่าชีวิตคนได้ทุกเมื่อ
ศิษย์ตระกูลเนี่ยทุกคนต่างเข้าใจดี คืนนี้คือคืนที่มือของพวกมันจะต้องเปื้อนเื และเป้าหมายก็คือตระกูลที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองจูเซียน ตระกูลหวัง
คืนนี้ ไม่เพียงแต่จะทำลายตระกูลหวัง กวาดฮุบสมบัติมาทั้งตระกูล แต่ยังจะชิงตัวองค์หญิงโยวเยว่มาอีกด้วย
แม้ท่านประมุขจะบอกว่าองค์หญิงในมือของหวังเค่อใช่ว่าจะเป็ตัวจริงเสมอไป แต่ในเมื่อรีบร้อนจะลงมือกันซะขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าตัวประมุขเองย่อมปักใจเชื่อไปแล้วว่าคนที่อยู่ในมือหวังเค่อคือตัวจริงไม่ผิดแน่
ที่แท้องค์หญิงโยวเยว่ที่พวกมันซ่อนตัวเอาไว้ก่อนใครเพื่อนกลับกลายเป็เพียงข้ารับใช้นางหนึ่ง!
อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวก็เกือบจะพลาดรางวัลนำจับของพรรคอีกาทองคำไปเสียแล้ว!
ยังดีที่หวังเค่อเจอตัวองค์หญิงโยวเยว่ตัวจริง พอเป็เช่นนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะตกมาอยู่ในมือของตระกูลเนี่ยทั้งหมด
“ท่านประมุข เราจะลงมือกันตอนไหนขอรับ” ศิษย์ตระกูลเนี่ยมองเนี่ยเทียนป้าที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประจำตำแหน่ง
เนี่ยเทียนป้ายกถ้วยชาขึ้นจิบ ประกายแววตาเยียบเย็นบาดจิต “ตอนนี้ยังคงมีคนพลุกพล่านมากเกินไป ร้านรวงยังปิดไม่ทันเก็บข้าวของกันดี รออีกหน่อย พอถึงเที่ยงคืนเมื่อไหร่ พวกเ้าจะได้ลับคมอาวุธกัน!”
“ทราบ!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยค้อมตัวรับคำ
“คืนนี้พวกเ้าไม่จำเป็ต้องเก็บงำฝีมือ เราจะต้องเก็บกวาดทุกอย่างให้เข้าที่ก่อนที่พรรคอีกาทองคำจะมา! อย่าให้คนของพรรคอีกาทองคำระแคะระคายได้เป็อันขาด!” เนี่ยเทียนป้ากำชับเสียงเย็น
“ทราบ!” ทุกคนเปล่งเสียงตอบรับ
“ท่านประมุขวางใจเถอะ ศิษย์พรรคอีกาทองคำมาถึงเมื่อไหร่ ตระกูลหวังก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป รวมถึงหวังเค่อนั่นด้วย ถึงตอนนั้นจะมีแต่เราที่จับกุมองค์หญิงโยวเยว่เอาไว้ ไม่มีใครมาแย่งที่ว่างไปจากเราได้!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยคนหนึ่งเปล่งเสียงหัวเราะอย่างลำพอง
เนี่ยเทียนป้าผงกศีรษะ แต่หนังตาข้างขวาของมันกลับเขม่นอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าอาจมีเื่ร้ายเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น
“ท่านประมุข ท่านประมุข!” ในตอนนั้นเองมีข้ารับใช้ประจำตระกูลคนหนึ่งผลุนผลันเข้ามาหน้าตาตื่น
“เกิดอะไรขึ้น? ไม่รู้รึไงว่านี่เป็สถานที่แบบไหน?” ทุกคนในห้องแหวใส่มันทันที
“ท่านประมุข แย่แล้วขอรับ ศิษย์พรรคอีกาทองคำมาถึงเมืองจูเซียนแล้ว!” ข้ารับใช้คนนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรนสุดเปรียบ
“อะไรนะ” ทุกคนทะลึ่งกายขึ้นด้วยความตื่นตะลึง
“วันนี้ตระกูลเนี่ยของเราตื่นตัวกันอยู่ตลอด คอยจับตาดูตลอดทั้งเมืองโดยไม่ย่อหย่อน ผู้น้อยคือผู้รับหน้าที่เฝ้าปากทางเข้าออกของเมืองจูเซียน แต่เมื่อครู่มีศิษย์ตระกูลหวังนำบุรุษในศาสตราอาภรณ์วิเศษมาคนหนึ่ง หวังเค่อรู้ข่าวจึงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง ผู้น้อยมีประสาทรับฟังเฉียบไว ได้ยินหวังเค่อเรียกคนผู้นั้นว่า ‘เซียนแซ่จางจากพรรคอีกาทองคำ’ จากนั้นก็เชิญมันไปที่ตระกูลหวังขอรับ!” ข้ารับใช้กล่าวรายงานปากคอสั่น
“พรรคอีกาทองคำ เซียนแซ่จาง? เป็ไปไม่ได้ เป็ไปไม่ได้ ทำไมถึงได้มาเร็วขนาดนี้?” ศิษย์ตระกูลเนี่ยคนหนึ่งอุทานอย่างไม่อยากเชื่อ
“หรือว่าศิษย์ที่นำข่าวของตระกูลหวังจะโชคดี ระหว่างทางไปรายงานพรรคอีกาทองคำเผอิญเจอกับศิษย์พรรคอีกาทองคำเข้าพอดี ก็เลยพากลับมาด้วยกัน?” ศิษย์อีกคนตั้งข้อสันนิษฐาน
“หวังเค่อจะโชคดีเกินไปแล้วมั้ง?”
“แล้วทีนี้เราจะทำยังไงกันดี ศิษย์พรรคอีกาทองคำไปถึงตระกูลหวังแล้ว แล้วคืนนี้พวกเรายังจะลงมือกันอยู่อีกหรือ?”
“ลงมือ? เ้าคิดจะฆ่าศิษย์พรรคอีกาทองคำด้วยรึยังไง?”
“ข้าเหรอ...? งั้น งั้นจะทำยังไงดีเล่า!”
.........
......
...
ภายในห้อง ศิษย์ตระกูลเนี่ยต่างร้อนรนกังวลใจกันอย่างหนัก
“อย่าได้แตกตื่น อย่าได้แตกตื่น!” เนี่ยเทียนป้ากล่าวด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
ทุกคนหันมามองประมุขตระกูลเนี่ยเป็ตาเดียว หวังว่าประมุขของพวกมันจะหาทางออกได้ แต่ตอนนี้ศิษย์พรรคอีกาทองคำก็โผล่มาแล้ว แล้วจะไม่ให้เนี่ยเทียนป้าร้อนใจได้ยังไง? อุตส่าห์เตรียมตัวลงมือเสียดิบดี แต่สุดท้ายจะให้ล้มเลิกเนี่ยนะ?
งั้นไม่เท่ากับว่าพวกมันไม่ได้อะไรเลยแม้แต่อย่างเดียวหรอกหรือ?
หากหวังเค่อได้เข้าร่วมพรรคอีกาทองคำขึ้นมาจริง ตนยังจะกล้ากวาดล้างทำลายตระกูลมันอีกหรือ? ยังจะกล้าลงมือเชือดเ้าแกะอ้วนตัวนี้หรือไม่?
“หยุดแผนการไว้เท่านี้ก่อน ข้าจะไปดูลาดเลาว่าศิษย์พรรคอีกาทองคำผู้นี้เป็ตัวจริงหรือไม่!” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยด้วยสีหน้าอัปลักษณ์ไม่น่าดู
“นั่นสิขอรับ บางทีอาจจะเป็ตัวปลอมก็ได้!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยต่างก็พยักหน้าหงึกหงัก
เนี่ยเทียนป้าเหยียดร่างยืนตรง มุ่งหน้าตรงไปทางตระกูลหวังภายใต้การนำของข้ารับใช้ ไม่นาน พวกมันก็มาถึงปากทางเข้าของตระกูลหวัง
หลังจากให้ข้ารับใช้เข้าไปรายงาน ไม่นาน หวังเค่อก็ออกมาต้อนรับ
“ประมุขเนี่ย ทำไมท่านถึงกลับมาอีกแล้วเล่า” หวังเค่อเดินเข้ามาถามด้วยรอยยิ้มประดับใบหน้า
แต่หวังเค่อในตอนนี้นั้นดูจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย น้ำเสียงท่าทีของมันดูเปี่ยมล้นด้วยความทะเยอทะยาน สีหน้าแววตาชนิดไม่คิดเสวนาพูดคุยกับเนี่ยเทียนป้าอีก
ภาพนี้ทำให้เนี่ยเทียนป้าที่คอยสังเกตสีหน้าอีกฝ่ายต้องใจกระตุกวูบ
“ประมุขหวัง ข้าได้ยินว่าคนของพรรคอีกาทองคำมาถึงแล้ว?” เนี่ยเทียนป้าถาม
“ใช่แล้ว เป็เื่บังเอิญโดยแท้ คนที่ข้าส่งไปรายงานข่าวต่อพรรคอีกาทองคำกลับได้พบกับผู้ออกสารนำจับเสียเอง! ไม่งั้นจะมาไวถึงเพียงนี้หรือ! เป็ลางดี นี่เป็ลางดีอย่างไม่ต้องสงสัย!” หวังเค่อเอ่ยด้วยสีหน้าผาสุก
“คนที่เป็ผู้ออกสารนำจับ?” เนี่ยเทียนป้าถามด้วยความสงสัยใคร่รู้
“มิผิด มันชื่อว่าจางเจิ้งเต้า บิดาของมันคือผู้าุโมากฝีมือของพรรคอีกาทองคำ ที่มันให้บิดาออกรางวัลนำจับองค์หญิงโยวเยว่ก็เพราะความหลงใหลได้ปลื้มที่มันมีต่อนาง ตำแหน่งที่ว่างห้าที่ศิษย์พรรคอีกาทองคำก็คือใต้สังกัดบิดามันนี่เอง! เกือบไปแล้วแท้ๆ ข้าเกือบสร้างความลำบากแก่องค์หญิงโยวเยว่แล้วไหมล่ะ ไม่อย่างนั้นละก็ ข้าคงจะไม่มีคำอธิบายมามอบให้กับเซียนแซ่จางแน่!” หวังเค่อเอ่ยอย่างโล่งอกโล่งใจ
“ท่านว่ายังไงนะ ศิษย์พรรคอีกาทองคำหลงใหลได้ปลื้มองค์หญิงโยวเยว่นางนั้น? มันใช่สติฟั่นเฟือนไปแล้วหรือไม่...!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยคนหนึ่งอุทานด้วยความตกตะลึงสุดขีด
“หุบปาก!” เนี่ยเทียนป้าถลึงตาใส่ศิษย์คนนั้นไม่ให้มันพูดจาส่งเดชไปมากกว่านี้
“ศิษย์ท่านนี้คือศิษย์ตระกูลเนี่ยถูกหรือไม่? เมื่อกี้มันเพิ่งจะกล่าวหาว่าพี่จางเป็พวกสติฟั่นเฟือนสินะ?” หวังเค่อเปลี่ยนสีหน้าเป็ขึงขังขึ้นมา
“ประมุขหวังเข้าใจผิดแล้ว เมื่อกี้คนของข้าอยากจะพูดว่าองค์หญิงโยวเยว่กับเซียนแซ่จางนั้น นั้น...!” เนี่ยเทียนป้าไม่รู้จะหาคำมาอธิบายยังไง
“นี่เรียกว่าความรักที่แท้จริง! หากไม่เข้าใจก็อย่าพูดจาส่งเดช! ขืนยังกล้าวิจารณ์พี่จางอีกละก็ ข้าไม่ละเว้นเ้าแน่!” หวังเค่อเอ่ยด้วยสีหน้าแข็งกร้าว
เนี่ยเทียนป้าหน้าดำหม่น เมื่อเช้าตอนหวังเค่อพบมัน ต่อให้ไม่ถึงขั้นประจบนอบน้อม แต่อย่างน้อยก็ยังทำตัวสุภาพกับมัน แต่ตอนนี้อีกฝ่ายถึงกับกล้าไม่ไว้หน้ามัน?
พี่จาง? ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ เ้ายังไม่ทันได้เข้าร่วมพรรคอีกาทองคำเลยด้วยซ้ำ แต่กลับเรียกหาจางเจิ้งเต้าอย่างสนิทสนมเสียแล้ว?
เนี่ยเทียนป้าแม้จะไม่สบอารมณ์ แต่ตอนนี้มันไม่มีทางเลือกนอกจากหันมาตำหนิคนของตัวเอง “เ้ากลับไปก่อน! อย่ามาทำตัวหน้าขายหน้าอยู่ตรงนี้!”
“ท่านประมุข? ทราบแล้วขอรับ!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยคนนั้นรีบเดินทางกลับไปด้วยสีหน้าไม่น่าดู
แต่ทุกคนไม่ได้รู้ตัวเลยว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปของหวังเค่อได้คลายความกังขาที่พวกมันมีต่อฐานะของจางเจิ้งเต้าไปค่อนข้างมาก น่ากลัวว่านี่คงเป็ศิษย์พรรคอีกาทองคำตัวจริงเสียแล้ว
“ประมุขหวัง ไม่ทราบว่าท่านพอจะแนะนำข้าให้กับเซียนแซ่จางได้หรือไม่” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยถามอย่างสุภาพ
“เซียนแซ่จางกำลังพบปะพูดคุยอยู่กับองค์หญิงโยวเยว่ มีคำพูดมากมายต้องเอื้อนเอ่ยออกไป ตอนนี้จะดีรึ...?” หวังเค่อเผยสีหน้าลังเลไม่แน่ใจออกมาชัดเจน
เนี่ยเทียนป้าสาปส่งหวังเค่อในใจไปชุดใหญ่ มารดาเ้าเถอะ ตัวเ้าเองก็เพิ่งจะได้เจอจางเจิ้งเต้าแท้ๆ ยังมีหน้ามาสร้างความลำบากให้มันอีก?
แต่ในเวลานั้นเนี่ยเทียนป้ามิอาจไม่สะกดเพลิงโทสะที่มีอยู่ในใจลงไป สุดท้ายก็ต้องล้วงเอาไข่มุกเรืองแสงสีดำออกมาจากแขนเสื้อแล้วยื่นส่งให้กับหวังเค่อ
“นี่คือสมบัติประจำตระกูลเนี่ย มุกหยาดวารี ประมุขหวัง เชิญตามสบาย!” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยอย่างสุภาพ
หวังเค่อตาลุกวาว รีบรับมาอย่างรวดเร็วปานฟ้าแลบ
“ประมุขเนี่ยสุภาพเกินไปแล้ว จะสมบัติหรือไม่ข้าล้วนไม่ใส่ใจ ข้าแค่ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ตกยากเท่านั้น ฮ่าฮ่า เชิญๆ เชิญเข้ามาก่อน!” หวังเค่อยิ้มร่าโดยพลัน
หลังจากที่ได้มุกล้ำค่านี้มา หวังเค่อก็แน่ใจว่าแผนการของตนเป็ไปได้ด้วยดี ประมุขเนี่ยหลงเชื่อว่าจางเจิ้งเต้าก็คือศิษย์ของพรรคอีกาทองคำแล้ว
ไม่นานคนทั้งหมดก็มาถึงสวนหลังตระกูลหวังกันอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันจะได้เห็นเงาคน จู่ๆ ก็มีเสียงวิงวอนดังมาเสียก่อน
“เสี่ยวเยว่เยว่ (เยว่เยว่น้อย) เ้าออกมาเถอะ ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว! เ้าอย่าโกรธข้าเลยจะได้ไหม ต่อไปนี้ข้าจะไม่ออกรางวัลนำจับอันใดอีกแล้ว ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าพวกมันจะใจไม้ไส้ระกำกันขนาดนี้! ยอดรักของข้า!”
เนี่ยเทียนป้าทันได้มาเห็นฉากที่จางเจิ้งเต้ากำลังคุกเข่าอยู่นอกกรงขององค์หญิงโยวเยว่และกำลังร้องขอความรักจากนางพอดี
จางเจิ้งเต้าในตอนนี้อยู่ในอาภรณ์หรูราศีจับ นับั้แ่ปิ่นปักผมไปจนถึงเสื้อผ้าหน้าผมไม่เว้นแม้แต่รองเท้าล้วนแต่เปล่งรัศมีเรืองรองดุจของวิเศษ มันดูเหมือนวีรชนผู้กล้าหาญชาญชัย เนี่ยเทียนป้าต้องยอมถอนใจให้กับความอู้ฟู่ของศิษย์พรรคอีกาทองคำจริงๆ
จางเจิ้งเต้าผู้นี้ค่อนข้างเ้าเนื้อ แถมหน้าตายังดูอุบาทว์ชาติชั่วไม่น้อย แต่แววตาที่กำลังจับจ้ององค์หญิงโยวเยว่ที่ถูกขังอยู่ในกรงคู่นั้นกลับมีแต่ความหลงใหลได้ปลื้ม ภาพเหตุการณ์นี้ไม่ว่าจะตะแคงดูจากมุมไหนก็ล้วนแต่แสลงตาทั้งสิ้น
“ฮึ่ม!”
องค์หญิงโยวเยว่บิดตัวอย่างปั้นปึ่ง น้ำตาสองสายไหลหยดจากตา หากแต่พวกที่รับชมภาพนี้ต่างก็ต้องขนลุกซู่ มีแต่จางเจิ้งเต้าที่มองดูภาพนี้ด้วยหัวใจที่แตกสลาย
หวังเค่อที่กำลังมองดูจางเจิ้งเต้าตีบทแตกอยู่ด้านข้างต้องพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จางเจิ้งเต้าคือชายชาติบุรุษที่แท้จริง สามารถทำในสิ่งที่ไม่มีใครทำได้ อดทนในสิ่งที่ไม่มีใครทนได้ การที่ตนตีค่ามันไว้สูงนับว่าไม่เสียเปล่าจริงๆ
“เ้าจะตีข้าเลยก็ได้ เสี่ยวเยว่เยว่ เ้าตีข้าเลยเถอะ เ้าว่ายังไงข้าก็ว่าตามนั้น แต่อย่าได้ทรมานตัวเองไปมากกว่านี้อีกเลยนะ พอเห็นเ้าเป็แบบนี้ ข้าไหนเลยจะทนไหว! เสี่ยวเยว่เยว่! พวกมันไม่ให้ข้าแต่งกับเ้า แต่ข้าไม่สน ข้าจะต้องแต่งกับเ้าให้ได้ เสี่ยวเยว่เยว่ ข้าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเ้า!” จางเจิ้งเต้าตะเบ็งเสียงอย่างลุ่มหลงกู่ไม่กลับ
ศิษย์ตระกูลเนี่ยทุกคนรับชมภาพนี้ด้วยใบหน้าที่บิดกระตุกไม่ลดละ ไม่มีใครสามารถมองดูตรงๆ ได้สักราย มารดามันเถอะ บุตรของผู้าุโพรรคอีกาทองคำผู้ยิ่งใหญ่ ใต้หล้าฟ้าเขียวไม่รู้ว่ามีสตรีมากน้อยเพียงใดให้เ้าได้เลือกสรร แต่หลังจากเฟ้นหาอยู่นาน เ้ากลับมาเลือก เลือก...ก็เหมือนกับที่หวังเค่อเคยว่าไว้ คนของสำนักเซียนมีรสนิยมอันพิเศษจำเพาะอย่างแท้จริง
“ท่านก็คือเซียนแซ่จางจากพรรคอีกาทองคำนี่เอง ผู้น้อย...!” เนี่ยเทียนป้าเดินเข้ามาก้าวหนึ่ง
“ไสหัวไป! ไม่เห็นรึไงว่าข้ากำลังพูดคุยอยู่กับเสี่ยวเยว่เยว่น่ะ?” จางเจิ้งเต้าตวาดโดยไม่แม้แต่จะเหลียวมอง
เนี่ยเทียนป้าหน้าแข็งทื่อ เพลิงโทสะลุกพรึบขึ้นในใจ แต่ก็ทำได้แค่สะกดเอาไว้
“เสี่ยวเยว่เยว่ ต้องทำยังไงเ้าถึงจะยอมยกโทษให้ข้า?” จางเจิ้งเต้ายังคงร่ำไห้อาดูร
แต่องค์หญิงโยวเยว่กลับทำแค่เพียงสะอึกสะอื้นไม่ยอมพูดจา
“หรือจะให้ข้าช่วยเ้าล้างแค้นดี? ใครที่มันทำเ้า ข้าจะฆ่ามันทิ้งซะ!” จางเจิ้งเต้าพลันเอ่ยอย่างดุร้าย
“พี่จาง ไม่สิ เซียนแซ่จาง ข้าแค่ทำตามที่รางวัลนำจับบอกเท่านั้น เื่นี้ไม่เกี่ยวกับข้านะ!” หวังเค่อเอ่ยด้วยสีหน้าตื่นกลัว
แต่จางเจิ้งเต้ากลับไม่คิดจะฟัง มันสะบัดหน้ามาจ้องหวังเค่อปานจะกินเืกินเนื้อ “ฮึ่ม ไม่เกี่ยวกับเ้า? ตามประกาศข้าแค่้าให้เ้าจับนางไว้ ข้าได้สั่งให้เ้าฆ่าคนรึเปล่า? เ้าฆ่าคนสนิทของเสี่ยวเยว่เยว่ยอดรักของข้า เพราะงั้นข้าก็จะช่วยล้างแค้นแทนเสี่ยวเยว่เยว่เอง!”
“อย่านะขอรับเซียนแซ่จาง ข้าเป็ผู้บริสุทธิ์ ตามรางวัลนำจับท่านสัญญาว่าจะให้ข้าเข้าร่วมพรรคอีกาทองคำนี่นา! แล้วทำไมถึงได้กลับคำพูดแบบนี้เล่า” หวังเค่อร่ำร้อง
“ประกาศนำจับของข้า ข้าว่ายังไงก็เป็ไปตามนั้น ไอ้ทรชน มอบชีวิตมา!” จางเจิ้งเต้าดูจะเดือดจัดจนสามารถลงมือได้ทุกเมื่อ
พวกศิษย์ของเนี่ยเทียนป้าเห็นดังนี้ก็รู้สึกโล่งใจ แต่เนี่ยเทียนป้ากลับหดหู่ รางวัลนำจับพรรคอีกาทองคำ? ดูเหมือนว่าคงจะหมดหวังแล้ว
“จางเจิ้งเต้า!” แต่แล้วองค์หญิงโยวเยว่ก็ตวาดออกมา
จางเจิ้งเต้าที่กำลังจะลงมือพลันชะงักไปในบัดดล มองมาทางองค์หญิงโยวเยว่ “เสี่ยวเยว่เยว่ เ้า เ้าสนใจข้าแล้วหรือ? เ้าหายโกรธข้าแล้ว?”
องค์หญิงโยวเยว่ยังคงปาดน้ำตา “แม้ว่าประมุขหวังจะจับข้ามา เข่นฆ่าคนของข้าไปหลายคน แต่ถึงยังไงก็ไม่ได้ข่มเหงเอาเปรียบข้า ขนาดว่ามีคนมารบเร้าให้มันจับข้าไปทรมานเพื่อเค้นเอาคำสารภาพ แต่มันก็ไม่ได้ทำ! มันก็แค่ทำตามประกาศนำจับ ข้าไม่โทษมันหรอก!”
“ขอบพระคุณองค์หญิงโยวเยว่ที่ช่วยพูดให้ข้า!” หวังเค่อเหงื่อแตกพลั่กทันที
“ฮึ่ม ถือว่าเ้ารอดไป!” จางเจิ้งเต้าถึงค่อยยอมรามือ
“เซียนแซ่จาง องค์หญิงโยวเยว่ไม่กล่าวโทษข้า เพราะงั้นท่านยังจะทำตามประกาศนำจับอยู่หรือไม่? ผู้น้อยยังจะได้เข้าพรรคอีกาทองคำอยู่หรือเปล่า?” หวังเค่อฉวยจังหวะนี้ถามขึ้นมา
ตอนนี้มีองค์หญิงโยวเยว่คอยให้ท้าย หวังเค่อจึงอยากลองดูสักตั้ง
“เ้าอยากเข้าพรรคอีกาทองคำรึ?” จางเจิ้งเต้าทำท่าดูแคลน
“ก็ท่านเป็คนออกประกาศเองนี่นา! เซียนแซ่จาง ท่านจะกลับคำพูดไม่ได้นะ!” หวังเค่อเอ่ยด้วยสีหน้าขื่นขม
จางเจิ้งเต้าตั้งท่าจะปฏิเสธ แต่พอเห็นองค์หญิงโยวเยว่ถลึงตาใส่ มันก็หน้าแข็งทื่อไปในทันใด เสมือนว่าไม่อยากให้ตนเองดูเป็คนสารเลวกลับกลอกต่อหน้านาง
“ฮึ่ม แม้ว่าเ้าจะจับนางได้จริง แต่เ้าก็เข่นฆ่าคนของนางไปไม่น้อย ตำแหน่งว่างห้าที่ที่เคยรับปากไว้ถือเป็โมฆะ เมื่อหักล้างกันจึงเหลือที่ว่างเพียงแค่ที่เดียว!” จางเจิ้งเต้าเอ่ยเสียงเข้ม
“ที่เดียว? ที่เดียวข้าก็เอา! จริงสิ ข้าจับข้ารับใช้ขององค์หญิงมาได้ด้วย ท่านดู เป็นางที่ทรยศองค์หญิงโยวเยว่ เพราะงั้นพอจะชดเชยให้ข้าหน่อยได้หรือไม่” หวังเค่อยิงคำถาม
จางเจิ้งเต้าหันไปมองพี่หญิงเล็กที่อยู่อีกกรงหนึ่งแล้วก็ตัดสินใจไม่ถูก
“ข้ารับใช้ของข้าเติบโตมาด้วยกันั้แ่ข้ายังเล็ก ข้าไม่โทษนางหรอก! แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่รู้เลยว่าพวกนางจะเหลือรอดกันมาสักกี่คน” องค์หญิงโยวเยว่เอ่ยด้วยความปวดร้าวใจ
“องค์หญิง บ่าวสมควรตายเพคะ!” พี่หญิงเล็กที่อยู่อีกกรงพลันร้องไห้โฮออกมา
แต่หวังเค่อกลับมองจางเจิ้งเต้าด้วยแววตามุ่งหวังจดจ่อ
“ฮึ่ม เห็นแก่ที่เ้าช่วยเสี่ยวเยว่เยว่จับบ่าวคนสนิทของนางกลับมาได้คนหนึ่ง ข้าจะให้เ้าอีกหนึ่งที่ก็แล้วกัน!” จางเจิ้งเต้าประกาศเสียงเย็น
“ขอบคุณเซียนแซ่จางที่มอบที่ว่างสองที่ให้กับตระกูลหวัง ขอบพระคุณท่านเหลือเกิน! เซียนแซ่จางท่านวางใจได้ ข้าจะให้ศิษย์ตระกูลหวังออกตามหาต่อไป ช่วยองค์หญิงหาตัวบ่าวคนสนิทที่เหลือกลับมาให้ได้ ถึงตอนนั้นหวังว่าท่านจะเมตตา มอบที่ว่างให้ข้าอีกสักที่หนึ่ง!” หวังเค่อกรีดมือวาดเท้าอย่างตื่นเต้น
“เ้าหามาให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่! ทีนี้ก็อย่ามารบกวนเวลาของข้ากับเสี่ยวเยว่เยว่อีก ฮึ่ม!” จางเจิ้งเต้าแค่นเสียงเย็น
“ขอรับ ขอรับ!” หวังเค่อเอ่ยอย่างยิ้มแย้มสำราญใจ
ได้ที่ว่างมาสองที่ หวังเค่อย่อมต้องอิ่มเอมใจ แล้วถ้าหาบ่าวคนสนิทขององค์หญิงได้อีกก็อาจจะได้ที่ว่างมาอีกที่หนึ่ง แล้วแบบนี้จะไม่ให้หวังเค่อดีใจได้ยังไงไหว?
จางเจิ้งเต้าหันมาตะล่อมเอาใจองค์หญิงโยวเยว่ต่อ ท่าทางประดุจสุนัขที่กำลังเลียขาผู้เป็นาย “เสี่ยวเยว่เยว่ เ้าวางใจเถอะ ข้าจะต้องตามหาพวกนางกลับมาให้เ้าได้แน่”
“ฮึ่ม!” องค์หญิงโยวเยว่กลับมาเมินเฉยต่อจางเจิ้งเต้าอีกครั้ง
แต่ความหมางเมินในรอบนี้กลับเจือความแง่งอนเอาแต่ใจเอาไว้อยู่กลายๆ
“ประมุขเนี่ย เราไปกันดีกว่า อย่าได้รบกวนการหวนพบหน้าของพี่จางกับองค์หญิงโยวเยว่กันอีกเลย พวกเราไปคุยกันที่โถงรับรองดีกว่า!” หวังเค่อนำทางเนี่ยเทียนป้าอย่างกระหือรือ
แต่เนี่ยเทียนป้าในตอนนั้นกลับดูเหมือนว่ามีรากงอกออกมาจากเท้า ยืนจ้องจางเจิ้งเต้ากับองค์หญิงโยวเยว่ค้างอยู่อย่างนั้น
“ประมุขเนี่ย เราไปกันดีกว่าไหม?” หวังเค่อรบเร้า
ท่าทีผิดวิสัยของเนี่ยเทียนป้าไม่เพียงแต่อยู่เหนือความคาดหมายของหวังเค่อ แม้แต่จางเจิ้งเต้าที่อยู่ไม่ไกลก็ยังต้องหันหน้ามา
“เ้ายังไม่ยอมไปอีก?” จางเจิ้งเต้าเขม่นใส่
แต่ว่าการเขม่นนี้เองที่ลบล้างข้อกังขาทั้งปวงไปจากใจของเนี่ยเทียนป้า เนี่ยเทียนป้าเก็บความโอหังถือดีทั้งหมดลงไป ประสานมือคารวะอย่างนอบน้อม
“เรียนท่านเซียน บ่าวคนสนิทขององค์หญิงโยวเยว่ที่ท่าน้าตัว ตระกูลเนี่ยของข้ามีอยู่คนหนึ่ง ขอให้ท่านเซียนโปรดเมตตา ยกที่ว่างในการเข้าพรรคอีกาทองคำให้แก่ตระกูลของเราสักที่หนึ่ง ผู้น้อยเนี่ยเทียนป้าจะซาบซึ้งพระคุณนี้ไปชั่วชีวิต!!” เนี่ยเทียนป้ายอบกายคารวะ แสดงความนอบน้อมถ่อมตัวอย่างถึงที่สุด
ศิษย์ตระกูลเนี่ยทุกคนเองก็ทำตาม
“อ้อ? เ้าเองก็จับมาได้คนหนึ่งหรือนี่?” จางเจิ้งเต้าถาม แต่น้ำเสียงติดจะเคลือบแคลงอยู่รำไร
“ขอรับ อยู่ที่คุกน้ำใต้ดินตระกูลเนี่ยของข้าเอง และนางยังมีชีวิตอยู่! เชิญท่านเซียนไปรับตัวนางได้เลย!” เนี่ยเทียนป้าค้อมตัวให้อีกครั้งหนึ่ง
“บ่าวคนไหนกัน?” องค์หญิงโยวเยว่ที่อยู่ในกรงถามอย่างใจจดใจจ่อ
จางเจิ้งเต้าเมื่อเห็นนางให้ความสำคัญกับเื่นี้มากจึงตั้งใจจะแสดงให้นางได้เห็น
“ดี ขอเพียงเป็ความจริง ข้าจะยกที่ว่างให้เ้าที่หนึ่ง แต่ว่าหากเ้ากล้าตบตาข้ากับเสี่ยวเยว่เยว่ละก็ ฮึ่ม!” จางเจิ้งเต้าถลึงตาคาดโทษ
“ไม่ ไม่มีทางอยู่แล้วขอรับ ข้าจะไปพานางมาเดี๋ยวนี้เลย ไปเดี๋ยวนี้!” เนี่ยเทียนป้ากระเหี้ยนกระหือรือยิ่งนัก
“รีบไป!” จางเจิ้งเต้าเร่ง
เนี่ยเทียนป้านำศิษย์ตระกูลเนี่ยตรงไปทางประตูใหญ่ของตระกูลหวังอย่างเร็วรี่ มุ่งหน้ากลับตระกูลของตัวเอง
รอจนเนี่ยเทียนป้าจากไปแล้ว จางเจิ้งเต้าจึงหันมาพูดกับหวังเค่ออย่างดีใจออกนอกหน้า “พี่หวัง การแสดงของข้าเป็ยังไงบ้าง”
“พี่จางมีประวัติอาชญากรรมป้ายสีใส่ความผู้คนอันโชกโชน ทักษะการแสดงของท่านจึงพอดิบพอดีไม่มีขาดไม่มีเกิน! เข้าขากับพี่หญิงใหญ่ของข้าได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ แม้เผชิญกับภยันตรายก็ไม่เปลี่ยนสีหน้า เป็ชายชาติบุรุษที่แท้จริง เลื่อมใสๆ! ทีนี้ก็เหลือแค่รอเท่านั้น!” หวังเค่อยิ้มไม่หุบ
“นั่นย่อมแน่นอน เ้าไม่รู้อะไร เมื่อกี้ที่ข้าร่วมแสดงละครไปกับพี่หญิงใหญ่ของเ้า เพื่อที่จะแสดงให้ได้สมบทบาท ข้าต้องทำตาให้มัวเข้าไว้ เพราะกลัวว่าหากเห็นใบหน้าของนางในระยะเผาขนข้าอาจจะต้อง…โอ้กกก~~~!”
จางเจิ้งเต้าพุ่งตัวไปยังมุมที่อยู่ไม่ไกลออกไปก่อนจะอาเจียนออกมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้